เดลินิวส์ 12/7/2542

'ธรรมกาย'ฮึดปลุกผีคอมฯสู้

วัดฉาว จนแต้มปลุกผีคอมฯสู้ศึก ออกบทความ แจกญาติโยม โจมตีพระธรรมปิฎก จับมือมูลนิธิ ช่วยเหลือเด็ก ที่ขาดแคลนครู และทุนการศึกษา ในชนบท"โกมลคีมทอง" รับเงินสภาคริสต์จักรฯ ถล่มพุทธศาสนา ใช้ "ไชยบูลย์" เป็นแพะ แก้ก.ม.สงฆ์ ให้นักการเมือง มีอำนาจ คุมมหาเถรฯ พร้อมเปิดโครงการใหม่ "ครูแก้ว" ลุยดึงพ่อพิมพ์ แม่พิมพ์ เข้าพวกเก็บค่า ร่วมโครงการ ปีละ 200 บาท อ้างร่วมผลักดัน เยาวชนเข้าปฏิบัติธรรมเป็นทายาทรับมรดกธรรม เจ้าคณะอำเภอ ธัญบุรี ยืนยัน ได้ยิน เจ้าคณะตำบล คลองหนึ่ง วิจารณ์ลายพระหัตถ์ของสมเด็จพระสังฆราชกับหู ชี้ปัญหา วัดพระธรรมกาย ต้องรอบคอบ ถือเป็นคดีระดับโลก

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 11 ก.ค. ที่สภาธรรมกายสากล ภายในบริเวณวัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง ปทุมธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนเดินทาง มาปฏิบัติธรรมตามปกติราว 2,000 คน โดยในครั้งนี้นายไชยบูลย์ สุทธิผล อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ตามลายพระหัตถ์ สมเด็จพระสังฆราช ไม่ได้เดินทางมาร่วมในพิธีกรรมต่าง ๆ อ้างว่าป่วยเป็นโรคแพ้แดดแพ้ลม มีเพียงพระมหาสมบุญ สัมมบุญโญ ผู้ช่วย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายมาเป็นประธานพิธี กรรมต่าง ๆ และนำญาติโยมนั่งสมาธิ

พิธีกรรมต่าง ๆ ล่วงเลยมาจนกระทั่งเวลา 10.30 น. พระภาวนาวิริยคุณหรือ พระเผด็จ ทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ซึ่งก็ถูกคำฟ้อง ตามกฎนิคหกรรมด้วย ได้มาแสดงธรรมเทศนาแก่ผู้มาปฏิบัติธรรม โดยมีใจความพอสรุปได้ว่า วัดพระธรรมกาย สร้างมาเป็นเวลา นานถึง 29 ปี และได้จัดงานใหญ่หลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแต่ละเดือนจะมีพิธีถวายข้าวพระ ซึ่งจะมีพระภิกษุ สามเณรและญาติโยมเดินทางมาร่วมในพิธีกรรมนี้จำนวนกว่า 100,000 คน โดยมีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมาช่วยงานร่วม 10,000 คน ทำให้งานต่าง ๆ สามารถบรรลุผลและประสบความสำเร็จด้วยดี

"กว่าเจ้าหน้าที่เหล่านี้ จะมีความชำนาญ ไม่ใช่ฝึกแค่เดือนหรือสองเดือนเท่านั้น แต่ต้องใช้เวลาเป็นแรมปี แต่ละคนก็มีจิตใจที่เป็นกุศล เจ้าหน้าที่เหล่านี้ เป็นเยาวชนมาจากสถาบันศึกษาต่าง ๆ เขาเหล่านี้มาได้โดยอาศัยครูบาอาจารย์ที่อยากเห็นลูกศิษย์ได้บุญบารมี เป็นชาวพุทธ โดยสมบูรณ์มีความรับผิดชอบ เป็นศิษย์แก้ว ซึ่งอนาคตต่อไปเด็กเหล่านี้ จะมาทำหน้าท ี่เป็นทายาทรับมรดกธรรม ต่อจากพวกเราทั้งหลาย"

พระเผด็จ ทัตตชีโวกล่าวว่า จะเห็นว่าครูบาอาจารย์เหล่านี้มีความรับผิดชอบต่อพระ พุทธศาสนาและแผ่นดินไทย รวมทั้งลูกศิษย์ ในอ้อมอกตัวเอง เขาเหล่านี้เป็นบุคคลที่น่าสรรเสริญ ต้องการโอบอุ้มคนทั้งโลก ให้เป็นโลกแห่งการสร้างบารมี ไม่ใช่ใครอยู่ประเทศไหน ก็ดูแล เฉพาะประเทศนั้น แต่อยากเห็นคนทั้งโลกสำนึกคุณค่าที่เกิดมาได้อยู่ร่วมกัน ต้องการให้ลูกศิษย์เป็นผู้สืบสานว่า คนเราเกิดมา ต้องสร้างบารม ีและคุณงามความดี ไม่ใช่รอแต่วันตาย อยากให้ดำเนินการตามเส้นทางของพระพุทธเจ้าที่ทรงดำเนินเป็นตัวอย่าง ที่มีพระอรหันต์ จำนวนมากที่คอยประคับ ประคองเคี่ยวเข็ญให้สัตว์โลกมีหัวใจเป็นนักสร้างบารมีมาตลอดระยะเวลา 2,500 ปี "เช่นเดียวกัน กับครูแก้วของโลก ดังนั้นปัจจุบันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะยกย่องคุณความดีให้ปรากฏแก่สายตาชาวโลก หลวงพ่อ จึงได้ประชุมกัน จัดมอบโล่ครุรัตนวิสุทธิและครุรัตนวิสุทธิบัตร เพื่อที่ว่าจะได้เป็นตัวอย่างของครูทั้งหลาย ขอให้ร่วมอนุโมทนา สรรเสริญครูเหล่านี้ร่วมกัน "

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพิธีมอบโล่และวุฒิบัตรครูแก้วนั้น มีครูที่นำนักเรียนมาร่วมปฏิบัติธรรมมารับมอบเป็นตัวอย่างราว 20 คน ส่วนบรรยากาศ โดยรอบบริเวณสภาธรรมกายสากลนั้น เป็นไปด้วยความคึกคัก ทางด้านซ้ายนั้น เป็นที่ตั้งซุ้มบอกบุญ ของกลุ่มผู้นำบุญต่าง ๆ ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า ทุกซุ้มจะเน้น การบอกบุญและโฆษณา เชิญชวนให้มีการร่วม โครงการ บ้านกัลยาณมิตรเป็นหลัก พร้อมทั้งมีการนำ เทปบรรยายธรรมะของนายไชยบูลย์ ที่บรรยายเกี่ยวกับเรื่องบ้านกัลยาณมิตรหมายเลข 1 หรือบ้านธรรมะ ของอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง มาจำหน่ายในราคาม้วนละ 20 บาทด้วย

นอกจากนี้ทางวัดพระธรรมกาย ได้จัดนิทรรศการบ้านกัลยาณมิตร ด้วยการสร้างโมเดลตัวอย่างมาจัดแสดงโชว์ ซึ่งระบุว่า เป็นการจัดทำ ของฝ่ายออกแบบ พุทธศิลป์ วัดพระธรรมกาย ประกอบขึ้นด้วยไม้ความสูง 15 เซนติเมตร ลักษณะเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ที่มีหลังคา เป็นสังกะสี อุปมาเป็นบ้านหลังแรกที่มีการปฏิบัติธรรม โดยมีอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูงเป็นแกนนำ พร้อมกับ เขียนแบบร่างขยาย องค์ประกอบของบ้าน กัลยาณ มิตรหมายเลข 1 นำมาติดบอร์ดไว้ ให้สาธุชนเห็นรายละเอียดภายในบ้านทุกซอกทุกมุม

อีกด้านหนึ่ง บริเวณ เสา พี 16 ของสภาธรรมกายสากล มีการจัดนิทรรศการเช่นกัน แต่เป็นนิทรรศการ ชมรมครูผู้ประสานงาน อาสาสมัครกัลยาณมิตร เพื่อแสดงถึงผลงานและกิจกรรมต่าง ๆ บริเวณใกล้เคียงมีการตั้งซุ้มเพื่อเปิดรับสมาชิกเข้าร่วมโครงการนี้ ซึ่งจากการสอบถาม เจ้าหน้าที่อาสาสมัครในโครงการกล่าวว่า โครงการนี้ตั้งขึ้นมาราว 2 ปีแล้ว มีสมาชิกหลายร้อยคน กระจัดกระจาย อยู่ทั่วประเทศ โดยมุ่งเน้นที่จะชักชวนครูมาร่วมโครงการ และเข้าร่วมกิจ กรรมกับทางวัด เช่นการเดินทางมาปฏิบัติธรรม นำนักเรียน นักศึกษา ที่อยู่ในสังกัดมาร่วมงานที่วัดพระธรรมกาย รวมทั้งเผยแพร่วิชชาธรรมกายต่อไปยังญาติโยมและบุคคลใกล้ชิด

อาสาสมัคร รายนี้กล่าวต่อไปว่า ผู้ที่มีผลงานดีเด่นสามารถชักชวนนักเรียนมาปฏิบัติธรรมได้มากเกินกว่า 200 คน จะได้รับโล่ ครุรัตนวิสุทธิ และครุรัตนวิสุทธิบัตรตามผลงาน ในเบื้องต้นโครงการนี้เน้นเฉพาะครูอาจารย์ที่สอนศีลธรรมตามสถาบันต่าง ๆ แต่ปัจจุบันบุคคล ทั่วไปก็สามารถสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกชมรมได้ สำหรับผู้สมัครต้องกรอกแบบฟอร์มและเสียค่าบำรุงสมาชิกปีละ 200 บาท โดยต้อง เข้าร่วมกิจกรรมวิชชาธรรมกายและไปเผยแพร่ เชิญชวนคนมานั่งสมาธิต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในภาคบ่ายทางวัด พระธรรมกายได้จัดให้ผู้นำบุญ ที่ประสบอานุภาพ ของพระมหาสิริราชธาตุ มาเล่าถึงประสบการณ์ ที่ได้รับ นอกจากนี้ยังได้มีการต่อโทรศัพท์ข้ามทวีปไปยังบ้านกัลยาณมิตรที่ตั้งอยู่ใน 4 ทวีปได้แก่ ทวีปยุโรป ที่ฝรั่งเศส ทวีปอเมริกาที่สหรัฐอเมริกา ทวีปเอเชียที่ญี่ปุ่น และที่ออสเตรเลีย โดยพิธีกรได้พูดคุย กับประธาน บ้านกัลยาณมิตร ที่ล้วนแต่โฆษณา สรรพคุณว่า บ้านกัลยาณมิตรนั้น ได้รับความสนใจ ทั้งจากพุทธศาสนิกชนไทย และชาวต่างประเทศ มาร่วมปฏิบัติธรรมเป็นจำนวนมาก

ในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่วัดพระธรรมกายได้แจกจ่ายใบปลิวฉบับหนึ่ง ซึ่งจัดพิมพ์ในลักษณะของหนังสือพิมพ์มีจำนวน 4 หน้า โดยในหน้า 4 นั้นมีบทความพิเศษ ชื่อเรื่องว่า "เทวทัตยุคไฮเทค" สาระสำคัญของบทความชิ้นนี้มีเรื่องราวตอบโต้การสัมมนาเรื่อง "วัดพระธรรมกาย กับผลกระทบเศรษฐกิจ การเมืองและสังคมไทย" ซึ่งจัดที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งจัดโดยมูลนิธิ โกมลคีมทอง มูลนิธิพุทธธรรมและคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ

บทความ ชิ้นดังกล่าวนี้อ้างว่า การจัดสัมมนาครั้งนั้นมีการโจมตีวัฒนธรรม ประเพณีไทย และพระพุทธศาสนา รวมไปถึงระบบ การปกครอง คณะสงฆ์ไทย สำหรับบุคคลที่มาร่วม สัมมนานั้นไม่เป็นที่น่าสนใจแต่ที่น่าสนใจก็คือผู้จัด ซึ่งหมายถึง มูลนิธิโกมลคีมทอง ซึ่งก่อตั้ง มานานกว่า 40 ปีแล้ว โดยมูลนิธินี้ได้เข้าแทรกแซงไปยังองค์กรของรัฐและสถาบันการศึกษาแทบทุกแห่ง นอก จากนี้ยังระบุว่า เจ้าหน้าที่หน่วยงาน ความมั่นคงของทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล ได้ระบุว่ามูลนิธิดังกล่าวมีพฤติกรรมเป็นภัยต่อชาติ โดยได้รับทุนสนับสนุน จากองค์กรต่างชาติ

"จากการเปิดเผย ของนายสุลักษณ์ ศิวลักษณ์ ผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธินี้บอกว่า มูลนิธิโกมลคีมทอง ได้เงินสนับสนุน จากองค์กรคริสเตียน และองค์กรต่างชาติ โดยร่วมกับสภาคริสต์จักรแห่งประเทศไทย และจัดตั้งกลุ่ม ประสานงานศาสนาเพื่อสังคม ซึ่งจะเป็นตัว ทำงาน ของคริสต์ในกลุ่มพุทธ เป็นแกนหลักในการปฏิบัติภารกิจสำคัญภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมทั้งให้ทุน จัดตั้งมูลนิธิ เพื่อการพัฒนาเด็ก 5 มูลนิธิอีกด้วย ทั้งยังมีเครือข่ายและสมาชิกทั่วประเทศ"

ทั้งยังระบุว่า มูลนิธิแห่งนี้เคยถูกทางการนำรถถังจำนวน 2 คันไปปิดล้อมที่ทำการมูลนิธิฯและตรวจค้นจับกุม ได้เอกสารแผ่นใบปลิว โฆษณา ชวนเชื่อมากมาย หนังสือเผยแพร่ลัทธิอันมีนโยบายทำลายชาติ พระพุทธศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์หลายแสนเล่ม เจ้าหน้าที่ต้องใช้ รถบรรทุกสิบล้อขนถึง 2 เที่ยว เพื่อนำไปเผาทำลายมิให้เผยแพร่เป็นอันตรายต่อประเทศ ชาติในภายหน้า มูลนิธิน ี้นอกจากจะมี ฆราวาสเป็นผู้ดำเนินการแล้วยังมีพระภิกษุสงฆ์ร่วมอยู่ด้วย สมณศักดิ์ในขณะนั้นก็คือ พระศรีวิสุทธิโมลี (ปยุตโต) ในฐานะ องค์ปาฐกผู้เผยแพร่ โดยมีฐานปฏิบัติการในภาคเหนือเป็นหลัก อาศัยวัดอุโมงค์ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสถานที่จัดสัมมนา

นอกจากนี้ ยังโจมตีการดำเนินการของพระศรีวิสุทธิโมลี หรือพระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตโต)ในทุกเรื่องด้วยว่า ต้องการเปลี่ยนแปลง คณะสงฆ์ ทำการแก้ไขบิดเบือนพระไตรปิฎก ไม่เคยศึกษาด้านวิปัสสนาธุระหรือธุดงควัตรเลยตั้งแต่บวช ทั้งที่เป็นเลขาธิการ มหาจุฬาลงกรณ ราชวิทยาลัย ซึ่งตั้งอยู่ในวัดมหาธาตุฯ ซึ่งเป็นสถานที่สอน พระอภิธรรม และสอนกรรมฐาน ที่ใหญ่แห่งหนึ่ง ของประเทศไทย ทั้งยังอ้างว่า พระธรรมปิฎก พยายามทุกวิถีทางในการเผยแพร่อุดมการณ์และสร้างแนวร่วม โดยการเขียนหนงสือ เพียงอย่างเดียว

เอกสา รฉบับเดียวกันนี้ยังระบุว่า วัดพระธรรมกายเป็นแพะที่ถูกหมายตาไว้เชือด โดยใช้ยุทธการที่เรียกว่า E=MOC ยกกำลัง 2 หมายถึงว่า ผลประโยชน์จากศาสนสมบัติในพุทธศาสนานั้น จะได้มาต้องทำลายศรัทธาเดิมสร้างความเชื่อใหม่ สร้างกระแส เพื่อสลายองค์กร ที่ชาวพุทธศรัทธา ใช้เงินในการทำลายพระสงฆ์ให้ต้องอาบัติปาราชิก และยึดอำนาจการปกครองคณะสงฆ์ไทย ทั้งน ี้ได้มีการเตรียมร่าง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. ...ไว้ โดยมีทั้งสิ้น 83 มาตรา

ร่างพ.ร.บ.คณะสงฆ์นี้ นอกจากจะเป็น การยึดอำนาจเปลี่ยนระบอบการปกครองคณะสงฆ์จากสงฆ์เองแล้ว ยังขัดต่อพระธรรมวินัย รัฐธรรมนูญ และขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมและศีลธรรมอันดีของชาวพุทธ โดยใช้อำนาจ ทางการเมือง เข้ามาบีบและครอบงำ ศาสนาพุทธ ซึ่งถือว่าเรื่องนี้เป็นอันตรายต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์เป็นอย่างมาก และยังมีการแทรกแซง และทำลาย พุทธศาสนาโดยนำเอา วัดพระธรรมกายมาเป็นข้ออ้าง โดยอาศัย พ.ร.บ. อุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา ซึ่งให้อำนาจ แก่นักการเมือง เป็นอย่างมากด้วย

สำหรับมูลนิธิโกมลคีมทอง ที่ถูกโจมตีตามบทความในใบปลิวนั้น เป็นองค์กรที่ตั้งขึ้นมาเพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ของ "โกมล คีมทอง" ครูผู้ซึ่งเสียสละตนเอง สอนหนังสือแก่เด็กในชนบทในถิ่นทุรกันดารซึ่งไม่มีครูเข้าไปสอน โดยไม่รับเงินเดือน หรือผลประโยชน ์ในการสอนแต่อย่างใด สาระสำคัญขององค์กรนี้ก็คือ ให้การช่วยเหลือสนับสนุนเด็กในชนบทที่ขาดแคลนทุนการศึกษาและครูผู้สอน ไม่ใช่องค์กร ที่เข้ามาเกี่ยวข้องทางการเมืองแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงาน จากวัดมูลจินดาราม จ.ปทุมธานี ว่า เมื่อเวลา 13.30 น. นายประจิณ ฐานังกรณ์ หนึ่งในผู้ยื่นฟ้อง ตามกฎนิคหกรรม นายไชยบูลย ์แต่ถูกยกฟ้อง ได้เดินทางเข้าพบพระสุธรรมเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี และพระปริยัติวโรปการ เลขานุการ เจ้าคณะจังหวัด และรักษาการเจ้าคณะอำเภอธัญบุรี เพื่อเซ็นชื่อในหนังสืออุทธรณ์คำฟ้องตามคำเรียก โดยนายประจิณกล่าวว่า ความล่าช้าที่เกิดขึ้น มีผลมาจากกระบวนการตามกฎนิคหกรรมไม่ทันสมัยไม่ทันเหตุการณ์ บทบัญญัติหลายข้อมีเงื่อนงำ หากการพิจารณา ล่าช้ามากเกินจำเป็นจะออกมาประท้วงเพื่อให้พิจารณาคำอุทธรณ์ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ด้านพระปริยัติวโรปการเปิดเผยว่า นับจากนี้ไปอีก 15 วันจะมีการพิจารณา คำอุทธรณ์ ของนายประจิณเพื่อเตรียมเสนอ ต่อคณะผู้พิจารณา ชั้นต้น มีพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 เป็นประธาน ซึ่งมีสิทธิ์จะพิจารณาอีก 30 วัน จึงจะชี้ชัดว่า คำฟ้องตามหนังสือ อุทธรณ์มีมูลหรือไม่ ถ้ามีก็จะเรียกนายไชยบูลย์มารับทราบข้อกล่าวหาหากไม่มีมูลก็เป็นอันสิ้นสุด อย่างไรก็ตาม เวลาในการพิจารณา คำอุทธรณ์นี้อาจไม่ถึง 45 วันก็ได้ คณะผู้พิจารณาไม่ได้นิ่งนอนใจทำให้ล่าช้า เพียงแต่ต้องทำให้รอบคอบ เรื่องของวัดพระธรรมกายนั้น หากเปรียบเทียบแล้วอาจจะอยู่ในระดับโลกเลยทีเดียว หากพิจารณาแบบลวก ๆ ก็จะไม่เหมาะสม

ส่วนกรณีท ี่พระครูปทุมกิจโกศล เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง ให้สัมภาษณ์วิจารณ์ลายพระหัตถ์ของสมเด็จพระสังฆราช แต่ภายหลัง ได้ออกมาปฏิเสธนั้น พระปริยัติวโรปการกล่าวว่า กรมการศาสนาได้มีหนังสือถึงเจ้าคณะจังหวัดปทุมฯ ให้พิจารณาดำเนินการ ตามความเหมาะสม ซึ่งทางเจ้าคณะจังหวัดกำลังจะเรียกพระครูปทุมกิจโกศลมาสอบสวนอย่างละเอียด ในฐานะ ที่เป็นผู้หนึ่ง ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ได้ยินพระครูปทุมกิจโกศลพูดตามที่สื่อมวลชนเสนอข่าว แต่สาเหตุ ที่พูดออกไป น่าจะเกิดจาก ความเครียด ที่ถูกเจ้าหน้าที่สอบสวนในวันนั้นกว่า 3 ชั่วโมง และหากจะมีการพิจารณา ด้านวินัย กับพระครูปทุมกิจโกศลก็ต้องดูที่เจตนาด้วย

ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งความคืบหน้าในการสอบสวนคดีที่กรมการศาสนากล่าวหานายไชยบูลย์ 3 ข้อหาว่า ภายในสัปดาห์นี้จะต้องนำตัวนายถาวร พรหมถาวร ซึ่งเป็นช่างปั้นช่างหล่อพระในวัดพระธรรมกายที่ยังคงอาศัยอยู่ภายในวัด และเป็นคนสนิท ของนายไชยบูลย์มาสอบปากคำให้ได้ รวมถึงนางสาววิชยา ไตรวิเชียร ซึ่งเป็นผู้ถือบัญชี ของนายไชยบูลย์ มาสอบในวันพฤหัสบดีที่ 15 ก.ค. นี้ จากนั้นก็จะเชิญนางสงบ ปัญญาตรง มาสอบปาก คำเป็นรายต่อไป คิดว่าในสัปดาห์นี้ คงมีรายละเอียดในคดีนี้ เพิ่มมากขึ้น โดยจะมีการสรุปเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ในวันพุธที่ 14 ก.ค. นี้ด้วย

รายงานระบุว่า จากการสอบสวน ของตำรวจพบว่ามีหลักฐาน เกี่ยวกับเรื่องเงิน ในหลายจุด ที่ค่อนข้างชัดเจนว่า สามารถเอาผิด กับนายไชยบูลย์ได้ แต่ก็ต้องมาหารือกันก่อน ซึ่งพล.ต.ท. วาสนา เพิ่มลาภ ผบช.สง. ก.ตร. ในฐานะ หัวหน้าพนักงาน สอบลสวนได้สั่งการให้ พนักงานสอบสวนทุกคนเก็บข้อมูลไว้เป็นความลับป้องกันไม่ให้รั่วไหลเพื่อไม่ให้เสียรูปคดีได้