page4

เดลินิวส์ 27/6/2542

สอบปากคำ3ชม.พระพรหมโมลีมัด 'ไชยบูลย์'

พระ พรหมโมล ีให้ปากคำ 3 ชั่วโมงรวด มัดคอเดียรถีย์ ยืนยันหน้าตำรวจ"ไชยบูลย์"มีหนังสือแสดงเจตจำนงมอบที่ดินให้วัดจริง แต่สุดท้าย ไม่ปฏิบัติ พร้อมแจงรายละเอียด มติมหาเถรฯ 4 ข้อที่สั่งการไปแล้วแต่วัดไม่สนใจ พนักงานสอบสวนมั่นใจกลางเดือนหน้าชี้ขาดตั้งข้อหาได้ ระบุ มีหลักฐาน ไหลเข้ามาทุกวัน เจออีกที่ดินเพชรบูรณ์บางแปลงห้ามซื้อ-ขาย พระปลอมกลับไปทำสัญญาได้อย่างไม่คาดฝัน แถมยัง ปั่นราคา สูงลิ่ว กว่าปกติ 5 เท่าตัว หวังขุดแร่ทองคำ แต่กลับแจ้งราคาต่ำติดดิน แม่-ลูกเหยื่อ ถูกสูบบุญ เตรียมขอเข้าพบ "ชวน"ร้องให้ช่วย ทวงเงินคืน

กระบวนการ จัดการพระปลอม "นายไชยบูลย์ สุทธิผล" ที่ต้องปาราชิกขาด จากความเป็นพระไปแล้ว ตามลายพระหัตถ์ สมเด็จพระสังฆราช เริ่มเป็นจริงเป็นจังขึ้น เมื่อพนักงานสอบสวน สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องมากขึ้น เพื่อรวบรวมหลักฐาน ดำเนินคดีกับนายไชยบูลย ์ตามที่กรมการศาสนา เข้าแจ้งความกล่าวโทษไว้ 3 ข้อหาคือการแจ้งความเท็จ, การเป็นพนักงานยักยอกทรัพย์ และการเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

พระพรหมโมลีให้การมัด

เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. เวลา 8.50 น.ที่วัดยานนาวา นายสุทธิวงศ์ ตันตยาพิศาลสุทธิ์ รองอธิบดีกรมการศาสนา พร้อมเจ้าหน้าที่นิติกร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสังฆการ กรมการศาสนา เดินทางเข้าพบพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 เจ้าอาวาสวัดยานนาวา เพื่อประสานงาน ก่อนที่เจ้าพนักงานสอบสวน จะมาขอสอบปากคำ จากนั้นพล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต ผช.จเรตำรวจ นำคณะนายตำรวจเดินทางมาถึงในวเลา 9.30 น. โดยใช้เวลาสอบปากคำ นานถึง 3 ชั่วโมง

พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวว่า พระพรหมโมลีได้ให้ข้อชี้แนะที่เป็นประโยชน์หลายอย่าง เนื่องจากเป็นผู้รับมอบให้เขัาไปดำเนินการแก้ไขปัญหาวัดพระธรรมกาย โดยพระพรหมโมลีแจ้งว่า อะไรที่ให้วัดพระธรรมกายควรปฏิบัติ และเมื่อแจ้งไปแล้ววัดพระธรรมกายปฏิบัติมีผลอย่างไร และมีการรายงานให้ทราบหรือเปล่า

ผู้สื่อข่าวถามว่า พนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบหนังสือแสดงเจตจำนงของนายไชยบูลย์ในการส่งมอบที่ดินให้วัดหรือไม่ พล.ต.ต.ปานศิริกล่าวว่า ทราบว่ามีการยื่นหนังสือจริง พร้อมกับเอกสารทั้งหมด ส่วนรายละเอียดทั้งหมดขอสงวนไว้ก่อนเพราะมีผลต่อรูปคดี ขณะนี้แทบทุกวันมีข้อมูลต่าง ๆ เพิ่มขึ้นมาจำนวนมาก รวมถึงหลักฐานต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนข้อกล่าวหา เป็นไปตามแผนงานและกรอบเวลาที่พล.ต.ท.วาสนากำหนดไว้ทุกอย่าง

ทางด้านนายสุทธิวงศ์ กล่วว่าการที่กรมการศาสนา ต้องเดินทางมาด้วยในวันนี้ก็เพื่ออำนวยความสะดวก และประสานงานกับเจ้าพนักงานสอบสวน โดยตำรวจ จะสอบปากคำ นายสำรวย สารัตถ์ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ซึ่งเกี่ยวข้อง ในฐานะผู้ที่นำเรื่องปัญหาที่ดิน เขัาสู่การพิจารณา ของที่ประชุมมหาเถรฯ จนมีมติออกมานอกจากนั้น จะสอบปากคำนายมาณพ พลไพรินทร์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ กรมการศาสนา ในฐานะ ผู้กล่าวโทษ ฟ้องร้องนายไชยบูลย์ ต่อศาลสงฆ ์ตามกฎนิคหกรรมด้วย แม้จะไม่ใช่ผู้เกี่ยวข้องโดยตรง แต่จะนำมาเป็นข้อมูลประกอบ

ส่วนการที่กรมการศาสนา ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบการถือครองที่ดิน ข้อมูลทั้งหมดได้มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว หากมีการฟ้องร้องดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติการ กรมการศาสนาจะประสานข้อมูลกับตำรวจต่อไป

กลางเดือนหน้าตั้งข้อหา

พ.ต.ท.จรุงวิทย์ ภุมมา รองผกก. 3 ป. รองผกก.3ป. 1 ในคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่าการสอบสวนครั้งนี้เนื่องจากพระพรหมโมลี เป็นพระผู้ปกครอง วัดพระธรรมกาย รับผิดชอบดูแลปัญหานี้ และเป็นกรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) จึงต้องมาหาข้อเทํจจริงใน 2 ประเด็นคือรายละเอียด ความเป็นมาของเรื่องทังหมด เป็นอย่างไร ทำไมถึง เข้าสู่การพิจารณา ของมหาเถรฯ และทำไมถึงส่งมอบเอกสาร ที่ดินที่มีการแสดงเจตจำนง จะมอบให้วัดในวันที่ 8 พ.ค. จนกระทั่งวันที่ 9 พ.ค.ถึงไปตกลงกันต่อ ที่กรมการศาสนา จึงถือว่า วัดยานนาวา เป็นจุดเกิดเหตุตามที่ กรมการศาสนาแจ้งกล่าวโทษไว้

"การสอบสวนไม่หนักใจ แต่เนื่องจากมีผลกระทบเกี่ยวกับศาสนาจึงต้องใช้ความละเอียดอ่อน การสอบสวนขึ้นอยู่กับ พยานหลักฐาน ที่มีการกล่าวหาว่า ใครกระทำความผิด ขึ้นกับกระบวนการ ที่จะพิจารณา ซึ่งสอบปากคำไปแล้วกว่า 10 ปาก ยังต้องสอบปากคำบุคคลอีก 5-6 ปาก ประกอบด้วยคน จากกรมการศษสนา และสวนของวัดพระธรรมกาย เช่นนายมานิต รัตนสุวรรณ ที่ปรึกษามูลนิธิธรรมกาย สำหรัรบการสอบปากคำ บุคคลที่อยู่ในวัดพระธรรมกาย หลังจากสอบนายวิระศักดิ์ ฮาดดา เลขานุการมูลนิธิธรรกมาย ไปแล้วคงได้ข้อมูลมากกว่า"

ในวันที่ 28 มิ.ย.เวลา 14.00น. พ.ต.ท.จรุงวิทย์กล่าวว่า พล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ ผู้บัญชาการสำนักงานข้าราชการตำรวจ ในฐานะ หัวหน้าพนักงานสอบสวน จะเรียกประชุมหัวหน้าชุดสอบสวน ที่ส่งกระจายไปยังจังหวัดต่าง ๆ 16 จังหวัด ที่จะกลับมารายงานผล ต่อที่ประชุมเพื่อกำหนดรกอบ การทำงานว่าจะก้าวไปสู่จุดไหน ซึ่งหัวหน้าชุด จะเป็นผู้กำหนดแนวทาง เชื่อว่าจากนี้ไปจะใช้เวลา 2 สัปดาห์ถึงวิเคราะห์สรุปผล ได้ว่าจะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาได้หรือไม่ ตนในฐานะเลขาคณะทำงาน ชุดสอบสวนจะทำหน้าที่รวบรวม ข้อมูลสำนวน การสอบปากคำทั้งหมด นำมาพิจารณาต่อไป รวมถึงจะติดต่อสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ เพื่อนำข่าวที่ออกไปแล้ว มาประกอบการพิจารณา เช่นเทปบันทึกภาพข่าว

สอบแม่ลูกเหยื่อสูบบุญ

บ่ายวันเดียวกัน พ.ต.ท.พรศักดิ์ ทิพยรัตน์ สว.ผ.4 กก.2ป. เดินทางมาสอบปากคำนางกนกวรรณ เลิศตระกูลพิทักษ์ ที่ถูกหลอกลวง ให้บริจารเงิน เข้าวัดพระธรรมกาย ด้วยการสร้างพระธรรมกาย ประจำตัวด้วย โดยได้เดินทางมายังอู่รถวีเค แอร์ ถ.รัตนาธิเบศ จ.นนทบุรี โดยพนักงานสอบสวน ใช้เวลาสอบปากคำกว่า 3 ชั่วโมง และเริ่มปากคำ จากนายวิชัย ผู้เป็นสามี ถึงเหตุการณ์ที่นางกนกวรรณถูกชักชวนให้เข้าวัด ถูกล่อลวงให้บริจาค รวมถึงการ ร้องเรียนความเดือดร้อน กับผู้สื่อข่าว และในวันที่ 27 มิ.ย.ตำรวจนัดหมาย ให้นางกนกวรรณเดินทางไปให้ปากคำอีกครั้ง

ด้านนางกนกวรรณ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวภายหลังการให้ปากคำเสร็จว่า เสียดายเงินที่ถูกหลอกไป 2 แสนกว่าบาท เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้โทรศัพท์ ไปยังวัดพระธรรมกาย โดยต่อเลขหมายภายใน ไปยังกุฎิของพระเผด็จ ทัตตชีโว รองเจ้าอาวาส ปรากฎมีพระรูปหนึ่งมารับสายและไม่ยอมให้พูดกับพระเผด็จ เมื่อตนร้อง ขอความเป็นธรรม พระรูปนั้นก็บอกว่า ก็โยมบริจาคเองไม่ใช่หรือ ให้ไปพูดกันในศาล ทำให้ตนกลั้นอารมณ์ไม่อย ู่จึงบอกไปว่าจะร้องเรียน นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี และไปผูกคอตาย หน้าทำเนียบฯทำให้พระรูปนั้น วางหูโทรศัพท์โครมทันที นางกนกวรรณยืนยันว่าจะไปร้องเรียนนายชวน เพราะตอนนี้ไปไหน คนก็ให้กำลังใจตลอด

ส่วนด.ญ.กัลยา หรือน้องจ๊ะเอ๋ บุตรสาว ของนางกนกวรรณ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า อยกาไปร้องเรียนท่านนายกฯให้ช่วยแม่ของหนูด้วย ให้ได้เงินคืน จากวัดพระธรรมกาย เพราะ ถูกหลอกให้บริจาค

ด.ญ.จ๊ะเอ ๋ได้เขียนหนังสือ ร้องเรียนด้วยตัวเองถึงนายชวนด้วยว่าเวลานี้ครอบครัวหนูไม่มีความสุขเลย หนูภาวนาอยากเจอกับนายกฯ เพื่อกราบเรียนท่านว่า หนูชื่อด.ญ.กัลญา มีน้องชื่อนันทิยา แม่เอาเงินส่วนที่ยกให้หนูกับน้องไปทำบุญสร้างองค์พระธรรมกาย เนื่องจากช่วงนั้น แม่ไม่สบายมาก โดนวัดธรรมกาย หลอกจนเงินหมด เพราะไปหลงเชื่อผู้นำบุญที่ว่าถ้าสร้างพระธรรมกายแล้วจะหายป่วย จะร่ำรวยไม่เดือดร้อน แต่มันตรงกันข้าม เพราะพ่อแม่หนูก็ทะเลาะกันทุกวัน ครอบครัวหน ูไม่มีความสุขกันเลย หนูขอความเป็นธรรมด้วย หนูต้องการเงินคืน เพราะนำไปศึกษา เล่าเรียน ตอนน ี้อยู่ป. 6 กำลังขึ้นม. 1 ใฝ่ฝันว่าจะจบปริญญาตรีกับน้อง

ธรรมกายทรนงจนพัง

วันเดียวกันนี้ ที่วิทยสถานแห่งวัฒนธรรมตะวันออก ได้จัดให้มีการอภิปรายในหัวข้อเรื่อง "ธรรมกาย..ปัญ หาการปริยัติและปฏิบัติ โดยมีผู้ร่วมอภิปราย ประกอบด้วย พระมหาบุญถึง ชุตินฺธโร ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และ นายทวีวัฒน์ ปุณฑริกวิวัฒน์ อาจารย์ประจำ ภาควิชามนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ดำเนินการอภิปรายโดย นายปรีดี เกษมทรัพย์ อธิการวิทยสถานแห่งวัฒนธรรมตะวันออก

พระมหาบุญถึง เริ่มการอภิปราย ว่า ปัญหากรณีวัดพระธรรมกายเป็นเรื่องของความทรนงสำคัญผิด ที่คิดเอาเองว่ามีฐานกำลังผู้ศรัทธาจำนวนมาก ไม่ยอมปฏิบัติตาม มติมหาเถร สมาคมทั้ง 4 ข้อตามที่พระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 เสนอแนวทาง ถ้ายินยอมกลับตัวเสียแต่ตอนแรกเริ่ม ปฏิบัติตามมติของมต ิมหาเถรฯที่ออกมา เรื่องก็จะไม่ลุกลามบานปลายมาก ถึงขนาดนี้ เมื่อมาถึงตอนนี้ทุกอย่างก็สายเกินกว่าจะแก้ไขได้แล้ว ส่วนมหาเถรฯ เองก็มีส่วน ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากไม่เลือกใช้ วิธีซื้อเวลาให้เนิ่นนานออกไป หันมาใช้หลักพระธรรมวินัยตัดสิน ทุกอย่างก็จะออกมาสวยหรู ไม่เน่าเหม็น ทั่วตัวอย่างทุกวันนี้

ขณะเดียวกันคำสอน ของนายไชยบูลย์ เป็นการสอนให้เกิดศรัทธามากกว่าที่จะสอนให้ลูกศิษย์ได้รู้จักใช้ปัญญา พอศรัทธาเสื่อม ลูกศิษย์ก็พากันหนีหน้า ห่างหายจนหมด เป็นเพราะ เริ่มประจักษ์ชัดแล้วว่า นายไชยบูลย์เลือกที่จะปกป้องทรัพย์สินที่ดินของตัว มากเสียกว่าจะปกป้องพระศาสนา

อย่างไรก็ตาม คงถึงเวลาที่ชาวพุทธจะได้สังคยนาพระพุทธศาสนากันแล้ว เพราะเห็นชัดว่ามีการจาบจ้วงพระศาสนา จึงต้องหันมาปรับปรุงกันเสียที ต้องปรับปรุง กันทั้งระบบ ทั้งพระและฆราวาส คณะสงฆ์ก็ต้องปรับปรุงในเมื่อไม่สามารถแก้ไขปัญหาวัดพระธรรมกายได้ ที่สำคัญไม่เห็นความสำคัญ ของสมเด็จพระสังฆราช

มหายานก็ไม่เอา

ขณะที่นายทวีวัฒน์ กล่าวว่า การที่วัดพระธรรมกายกล่าวอ้างคำภีร์ของมหายานว่า ระบุนิพพานเป็นอัตตานั้น ขอยืนยันชัดลงไปว่า ไม่เคยมีสำนักใด ในมหายาน แม้แต่สำนักเดียว ที่สอนนิพพานเป็นอัตตาเลย ทั้งนี้ที่พบในคำภีร์ต่างก็ระบุว่านิพพานเป็นสุญญตา ซึ่งก็เป็นความว่างเปล่า ไม่มีสถานที่หรือตัวตน

สำหรับปัญหา การตีความทางพุทธศาสนาเกี่ยวกับการสอนนิพพานเป็นอัตตา ขอบอกว่าถ้าให้วัดพระธรรมกายไปเกิดในประเทศจีน ญี่ปุ่น หรือที่เป็นมหายาน วัดพระธรรมกาย ก็จะอยู่ไม่ได้เหมือนกัน ทั้งนี้เป็นความเข้าใจผิดที่ว่า การสอนแบบวัดพระธรรมกายเป็นการสอนแบบมหายาน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีนิกายใดในมหายาน ที่สอนนิพพานเป็นอัตตา เท่ากับว่ามหายานก็รับไม่ได้ เพราะมหายานถึงจะมีสิ่งอื่นปลอมปนบ้าง แต่ก็ยังรักษา แก่นธรรมไว้

"แม้แต่นิกายสุขาวดี ที่พระของวัดพระธรรมกายมักอ้างว่า คำภีร์สุขาวดีวยุหสูตรบัญญัติชัดว่านิพพานเป็นสถานที่มีอายตนนิพพานนั้น ไม่เป็นความจริงเลย เพราะในคำภีร์ สุขาวดีวยุหสูตร ไม่ปรากฏว่ามีคำสอนเช่นว่านี้เลย จึงเป็นความชัดแจ้งว่าข้อกล่าวอ้างของวัดพระธรรมกายฟังไม่ขึ้น และยังแสดงให้เห็นด้วยว่า เมื่อวัดพระธรรมกาย ปริยัติผิดเพี้ยนแน่นอนการปฏิบัติต้องผิดเพี้ยนเช่นกัน"

ด้านนายปรีดี สรุปตอนท้ายว่า ไม่อยากให้มีการแก้ไขกฏหมายคณะสงฆ์ เพราะการแก้กฏหมายจะกลายเป็นว่าจับโจรไม่ได้ ก็หันมาแก้ไขกฏหมาย เพื่อจับโจร เวลานี้สมเด็จพระสังฆราช ทรงแสดงออกอย่างชัดเจนที่จะปกป้องพระศาสนา ก็เหลือแต่เฉพาะมหาเถรสมาคมหากดำเนินการตามกฏหมาย โดยยึดหลัก พระธรรมวินัย ปัญหาอยู่ที่ว่า คณะสงฆ์จะทำหรือไม่ทำ และไม่เกี่ยวข้องว่าแก่หรือไม่แก่ด้วย ขอเพียงทำกันอย่างจริงจังว่ากันตามความถูกต้อง พุทธบริษัท ต้องให้การสนับสนุนแน่นอน

เจอหลักฐานที่เพชรบูรณ์

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหลักฐาน ความไม่ชอบมาพากล ในการครอบครองที่ดิน ของนายไชยบูลย์ของพนักงานสอบสวน ปรากฎชัดที่อ.ชนแดนจ.เพชรบูรณ์� โดยได้มอบให ้นายถาวร พรหมถาวร เป็นตัวแทนในการไปซื้อพร้อมสีกาตุ้ย และใช้เงินกว่า 30 ล้านบาทในการซื้อ โดยให้ราคาสูง ถึงไร่ละ 3-5 หมื่นบาท สูงกว่าราคาประเมิน ของกรมที่ดินถึง 5 เท่า อย่างไรก็ตาม ในการแจ้งสัญญาซื้อ-ขาย กับสำนักงานที่ดินกลับแจ้งต่ำ กว่าราคาที่แท้จริง เพื่อเลี่ยงภาษี

ที่ดิน ผืนดังกล่าวพบว่า มีการสำรวจพบแร่ทองคำโดยกรมทรัพยากรธานี แต่ชาวบ้านบางคนไม่รู้ว่ามีสายแร่ทองคำอยู่ จากการตรวจสอบหลักฐาน ที่ดินของ นายไชยบูลญ์ อาจมีเงื่อนไขบางประด็น ที่ได้กรรมสิทธิ์ไม่โปร่งใสอยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยเฉพาะเอกสารบางประเภทมีการระบุห้ามซื้อขาย

การซื้อ-ขายบางสัญญา ยังให้ชาวบ้าน ลงนามในสัญญาโดยไม่ระบุชื่อผู้ซื้อ บางคนมีการจ่ายเงินสดให้ก่อน บางรายโอนเข้าบัญชีแบ่งจ่ายเป็นงวด ๆ