เดลินิวส์ 21/6/2542
'ธรรมกาย'ดูดอีก เรี่ยไรพิสดาร
ทำหาบเงินหาบทอง
เร่ขอรับบริจาคทั่ววัด
ดีเดย์ 21 มิ.ย. ส่งตำรวจลุย เหนือ-อิสาน สอบที่ดินพระปลอมรุกล้ำพื้นที่ป่าสงวนเพชรบูรณ์-เลย เจ้าคณะจังหวัดปทุมฯ สวนกลับ เจ้าคณะอำเภอคลองหลวง ใครว่าคำฟ้องของ"มาณพ"ตก ยืนยันคำฟ้องของกรมการศาสนายังอยู่ สั่งพิจารณาต่อ พร้อมกับของ "สมพร เทพสิทธา" เดียรถีรย์ห้าวไม่เลิก สอนนิพพานเป็นอัตตาเช่นเดิม แถมข้างในวัดยังเรี่ยไรขอรับบริจาคทุกรูปแบบอีก พร้อมแจกเบอร์โทรศัพท์ กับที่อยู่ลูกแม่ถ้วน-สื่อทุกประเภทต่างหาก แกล้งโง่ อ้างพระวรธรรมคต ิของสมเด็จพระสังฆราช ไม่ได้หมายถึงวัดฉาว ตำรวจย้ำจับคนโทร.ขู่วางระเบิดไม่ผิดแน่ รอพิสูจน์หลักฐานสอบเสียงเท่านั้นได้เรื่อง ออกเอกสารลับ กรณีธรรมกายระบุ ความผิด 9 ประเด็น เตรียมแฉรายละเอียดให้ทั่วโลกรับรู้
จากกรณีที่ พระมหาปัญญา ชุนติธโม เจ้าอาวาสวัดบางหลวง ในฐานะรักษาการเจ้าคณะอำเภอคลองหลวงออกมาระบุว่า คำฟ้องของตัวแทน กรมการศาสนา นายมาณพ พลไพรินทร์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ กรมการศาสนาอาจจะตกไปเพราะผิดเงื่อนไขเรื่องศาสนานับถือ กระทั่งข้าราชการ กรมการศาสนาออกมายอมรับผิด และมีการวิพากษ์วิจารณ์กันในขณะนี้
ยันคำฟ้อง"มาณพ"ยังอยู่
เมื่อเวลา 9.00 น. วันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา พระสุเมธาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดมูลจินดารามและเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยว่า เรื่องบางเรื่อง ที่เห็นว่าเป็นความลับ ก็ไม่น่าจะเอามาพูด ไม่น่าจะปากเบาให้เป้นข่าว เพราะไม่เกิดผลดีมีแต่ความเสียหายมากกว่า เรื่องที่นายมาณพ ลืมระบุศาสนาที่นับถือนั้น ก็เป็นความบกพร่องเล็กน้อย ให้นำเอามาแก้ไขใหม่ก็ดำเนินการต่อไปได้ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่การให้ข่าวลักษณะนี้ ออกไปเผยแพร่สาธารณชน ทำให้ข่าวไม่มีวันสิ้นสุด ขอยืนยันว่าคำฟ้องที่พิจารณาอยู่นั้นมีของนายมาณพ พลไพรินทร์อยู่เช่นเดิม
ส่วนเรื่องการแต่งตั้งไวยาวัจกรนั้น พระสุเมธาภรณ์กล่าวว่า ไม่ควรมีการแต่งตั้งในเวลานี้เพราะกำลังมีเรื่องที่ยังพิจารณากันอยู่ นายวีระศักดิ์ ฮาดดา ที่เคยอ้างว่า เป็นไวยาวัจกรนั้น ก็ต้องมีเอกสารหลักฐานมาแสดงว่าอยู่ในฐานะอะไร พระครูปทุมกิจโกศล เจ้าอาวาส วัดสว่างภพและเจ้าคณะตำบล คลองหนึ่งไม่ควรที่จะส่งเรื่องขึ้นมาให้ พอกันกับพระมหาปัญญา ชุนติธโม ทำงานไม่ถูกไม่ต้องทั้งสองรูป เรื่องที่ควรทำ ก็ไม่ทำเรื่องที่ไม่ควรพูด ก็นำเอามาพูด มีแต่เรื่องมีแต่จะทำให้ปัญหาบานปลายออกไปทุกที อยู่เฉยๆกันไม่เป็นเงียบกันไม่ได้
ร้องให้ตั้งเจ้าอาวาส
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดมูลจินดารามนั้นมีชาวบ้านจำนวนกว่า 200 คนเดินทางมาจากวัดดาวเรือง ต.บางพูด อ.เมือง ปทุมธานี เพื่อเข้าร้องเรียนต่อ พระสุเมธาภรณ์ ในฐานะเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี กรณีระงับการแต่งตั้งพระสมภพ เขมเทโว ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดดาวเรือง ให้เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดดาวเรือง โดยก่อนหน้านี้พระครูสิริปัญญาโสภณ เจ้าคณะตำบลบ้านกลาง ได้พิจารณาแต่งตั้งพระสมภพ แต่ทาง พระสุเมธาภรณ์ระงับเรื่องไว้ เนื่องจากเอกสารที่ส่งมานั้นไม่สมบูรณ์ ซึ่งชาวบ้านระบุว่าหากไม่มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ จะยกขบวนมาอีก 2,000 คน เพื่อร้องเรียนเรื่องนี้
พระสุเมธาภรณ์กล่าวกับชาวบ้าน ที่มาชุมนุมว่า ได้ขอให้มีการส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมมาให้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2542แล้ว แต่พระสมภพ ซึ่งเซ็นรับหนังสือไว้ไม่ยอมติดต่อมาอีกเลย เคยเรียกให้มาพบหลายครั้งก็ไม่ยอมมาแต่ส่งตัวแทนมาพบ การที่มาร้องเรียนเรื่องน ี้จึงเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะที่ไม่ยอมแต่งตั้งก็เนื่องจากหลักฐานของพระสมภพที่ไม่ยอมมาพบด้วย ไม่อยากให้เรื่องยุ่งเพิ่มเติมขึ้นมาอีก กรณีของวัดพระธรรมกาย ก็ยังไม่เสร็จสิ้น
ย้ำ"นิพพาน"ไม่ใช่อนัตตา
ส่วนที่วัดพระธรรมกาย เมื่อเวลา 9.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้มาปฏิบัติธรรมราว 1,000 คนเดินทางมาทำบุญนั่งสมาธิและฟังเทศน์ตามปกติ โดยในระหว่างนั่งสมาธินั้น นายไชยบูลย์ สุทธิผล อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ได้ขอให้ทุกคนทำใจให้นิ่ง อย่าอ่อนไหวกับการสรรเสริญ และนินทาว่าร้าย เพราะเรื่องเช่นนี้ มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล แม้แต่พระพุทธเจ้าเองก็ทรงโดนเรื่องเช่นนี้มาก่อน
นายไชยบูลย์กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้พูดถึงเรื่องเบญจขันธ์และธรรมขันธ์ ครั้งนี้ะจขอพูดเรื่องการเข้าถึงนิพพานอีก โดยจะต้องถอดกาย ออกเป็นขั้นๆ เพื่อเข้าถึงธรรมกาย คือการถอดภายใน พระพุทธเจ้าได้แบ่งกายออกเป็น 2 ประเภทคือ ขันธ์ 5 หมายถึงความไม่เที่ยงเป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง อยู่ในไตรลักษณ์ เมื่อตระหนักขันธ์ 5 ว่าเป็นทุกข์ ไม่เที่ยงก็จะเบื่อไปเอง จากนั้นก็หาทางสละปล่อยวางขันธ์ 5 เพื่อเข้าสู่ภายใน ประเภทที่ 2 คือธรรมขันธ์ ซึ่งพ้นจากไตรลักษณ์พ้นจากอนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่มีค่ามาก เป็นบรมสุข เป็นตัวตนที่แท้จริง
สำหรับบรรยากาศ บริเวณสภาธรรมกายสากลนั้น ผู้นำบุญยังคงเปิดซุ้มเรี่ยไรขอรับบริจาคเพื่อก่อสร้างถาวรวัตถุภายในวัดพระธรรมกายเช่นเดิม โดยมีการสับเปลี่ยนยุทธวิธี การขอรับบริจาคใหม่ รูปแบบใหม่นี้ผู้นำบุญเรียกว่า หาบเงินหาบทอง โดยที่คานหาบนั้นเป็นสีทอง ส่วนของที่หาบนั้น ก็คือกล่องรับบริจาคปัจจัย ประดับประดาด้วยผ้าแพรสีต่างๆ ติดป้ายว่า บริจาคเพื่อกองทุนธรรมะคุ้มครองโลกและสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ ผู้หาบมีพระมหาสิริราชธาตุ ห้อยคออยู่ มีการเดินถือหาบเหมือนแม่ค้าหาบของขายตระเวนเรี่ยไรไปรอบสภาธรรมกายสากล สร้างความฮือฮา และเป็นที่สนใจ ของผู้มาปฏิบัติธรรมพอสมควร
แจกที่อยู่"ชวน-สื่อฯ"
ผู้สื่อข่าว รายงานด้วยว่า สำหรับผู้ที่บริจาคเงินเข้ากองทุนธรรมะคุ้มครองโลกนั้น ผู้ที่บริจาคตามที่วัดกำหนดไว้แล้ว จะได้รับรูปปั้นหลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ อุ้มบาตรรุ่น "พบสมบัติ" ขนาดความสูง 1 ฟุตเป็นของกำนัล นอกจากกองทุนดังกล่าวแล้ว ยังมีการเชิญชวน บริจาคเพื่อสมทบทุน ในกองทุนผ้าป่า 1 หมื่นวัดด้วย ซึ่งจะมีการจัดขึ้นในวันที่ 22 ส.ค.นี้ โดยโครงการนี้จะมีการนิมนต์พระจากวัดต่างๆทั่วประเทศมาร่วมรับปัจจัย
รายงานระบุด้วยว่า นอกจากการรับบริจาคเงินแล้ว กลุ่มผู้นำบุญยังได้มีการนำใบปลิวมาแจกจ่ายแก่ผู้มาปฏิบัติธรรมอีกด้วย ใบปลิวดังกล่าว จะมีชื่อที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ ของบุคคลสำคัญและสื่อมวลชนแขนงต่างๆทั้งสิ่งพิมพ์ วิทยุโทรทัศน์ อาทิ ของนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตร ีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายอาคม เอ่งฉ้วน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายพิภพ กาญจนะ อธิบดีกรมการศาสนา และแม้กระทั่งที่อยู่ ของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นต้น โดยให้เหตุผลว่า เพื่อให้ผู้มาปฏิบัติธรรม ได้เขียนจดหมายหรือโทรศัพท์ ไปถึงบุคคลสำคัญ และสื่อมวลชนเหล่านั้น เรียกร้อง ขอความเป็นธรรมและให้มีการเสนอข่าวนา่ยไชยบูลย์อย่างสร้างสรรและเป็นกลางที่สุด
แกล้งโง่ตีความพระวรธรรมคติ
พระปลัดสุธรรม สุธัมโม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย กล่าวถึงพระวรธรรมคติของสมเด็จพระสังฆราชที่ประทานในเรื่องภัยพระศาสนาว่า คงเป็นเรื่อง ที่ทรงประทานในภาพรวม ไม่ว่าคิดว่าสมเด็จพระสังฆราชจะหมายถึงเฉพาะวัดพระธรรมกาย เพราะพระในวัดก็ให้ความเคารพ นับถือสมเด็จพระสังฆราชมาก ขณะนี้ทางวัดกำลังเตรียมหลักสูตรการสอนพระอภิธรรม ตามที่มหาเถรสมาคมได้ให้คำแนะนำ โดยได้ประสานกับ พระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่เชี่ยวชาญการ สอนพระอภิธรรม แต่ขอไม่ออกชื่อว่าเป็นพระรูปใด คาดว่าในเร็วๆนี้จะมีหลักสูตรนี้ ออกมาให้ พระเปรียญในวัดได้ศึกษา จากนั้นจะขอให้นำความรู้ที่เรียนมาเป็นครูสอนพระรูปอื่นๆ รวมทั้งญาติโยมที่มาปฏิบัติธรรมต่อไป
ต่อมาเวลา 12.00 น. พล.ต.ต.พิชิต ควรเดชะคุปต์ รองผบช.ภ.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางมาตรวจด ูความเรียบร้อยภายในวัดพระธรรมกาย โดยบอกว่า มาดูความเรียบร้อยและให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ วึ่งเท่าที่ตรวจด ูก็เรียบร้อยดีทุกอย่าง ส่วนเรื่องของคนที่โทรศัพท์มาขู่วางระเบิดวัดมูลจินดารามนั้น ขณะนี้ได้ส่งเทปเสียง ผู้ขู่วางระเบิดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ อัดไส้ไปพิสูจน์ที่กองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อเทียบเคียงว่าตรงกับเสียงของผู้ที่ต้องสงสัยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อ.ธัญบุรีนำมาสอบปากคำหรือไม่ คาดว่า คงจะทราบผลในเร็วๆนี้ แต่ในทางสืบสวนนั้น เชื่อว่าเป็นบุคคลเดียวกัน ทางตำรวจมีรายงานนี้อยู่แล้ว
ธรรมกายทำบ้านแตก
และเมื่อเวลา 13.00 น. ที่วัดสวนแก้ว พระพิศาลธรรมพาทีหรือพระพยอม กัลยาโณ ประธานมูลนิธิวัดสวนแก้ว ได้บรรยายธรรมต่อพุทธศาสนิกชน โดยระบุว่า ยุคนี้เป็นยุคสมัย ที่ชาวพุทธจะต้องปรับปรุงท่าทีเรื่องการลุ่มหลงบุญผิดทาง คือนำเงินไปทำบุญก่อสร้างวัตถุขนาดใหญ่ แทนที่จะนำเงินนั้น ไปสนบัสนุนโครงการที่มีประโยชน์ในการช่วยเหลือเด็ก และควรทำบุญให้เหมาะสมแก่สถานการณ์ เพราะตอนนี้มีเรื่องแปลก ในขณะที่ประชาชนไม่มีเงิน แต่วัดบางวัดกลับเรี่ยไรเงินไม่หยุด แล้วนำไปก่อสร้างในสิ่งที่ไม่มีความจำเป็นเพียงพอ นอกจากนี้ต้องปรับ ท่าทีในเรื่องของการขอหวย ใบ้หวยกันด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงก่อนที่จะมีการเสวนาเรื่องเปิดแฟ้มคดีธรรมกายนั้น นายจำรัส นวลประดิษฐ์ อายุ 64 ปี ชาวจังหวัดนนทบุรี ซึ่งได้รับผลกระทบ จากปัยหาของวัดพระธรรมกาย ได้เปิดเผยเรื่องราวของตนเองต่อสาธารณชนว่า ตนเองมีบุตรมีด้วยกัน 3 คน ทั้งหมด เมื่อเรียนจบการศึกษา ก็เข้าไปศึกษาอบรมในวัดพระธรรมกาย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีเพราะธรรมะจะช่วยกล่อมจิตใจให้เป็นคนดี การทำบุญ ไม่มีเสียมีแต่ได้ทางใจ บุตรทั้ง 3 คนเคยชักชวนให้เข้าวัด จึงได้ตัดสินใจเข้าไปศึกษาที่วัดพระธรรมกาย
"แต่เมื่อเข้าไปแล้วกลับพบว่า คำสอนของวัดพระธรรมกายไม่ตรงกับหลักธรรมที่เคยศึกษามา จึงได้ตักเตือนบุตร จนทำให้เกิดความขัดแย้ง โดยทั้งบุตรและภรรยาได้ทำบุญ อย่างหนักโดยเฉพาะการสร้างพระธรรมกายประจำตัว ทำให้ไม่มีเงินเก็บสะสม พอเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ต้องออกจากงาน ภาระหนี้สินมีมากจนเกิดความเดือดร้อน ถือว่าเป็นการกระทำที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ และเสียใจมากมาจนทุกวันนี้"
แฉ 9 ประเด็นลับ"ไชยบูลย์"
ด้านนายสมประสงค์ พระสุจันทร์ทิพย์ ในฐานะผู้จัดทำหนังสือ"แฟ้มคดีธรรมกาย"กล่าวว่า การรวบรวม ข้อมูลหลักฐานครั้งน ี้ได้มีการดำเนินการมานานแล้ว และได้มีการติดต่อกับทางสำนักข่าวต่างประเทศเพื่อจะแถลงและชี้แจงในวันที่ 7 ก.ค.นี้ โดยหนังสือฉบับดังกล่าว มีความยาว ประมาณ 202 หน้า ราคา 150 บาท โดยเงินส่วนที่ได้จากการขายหนังสือนี้จะนำเข้าสมทบกับกองทุนป้องปรามภัยพระพุทธศาสนา
สำหรับรายละเอียด ของหนังสือฉบับดังกล่าวระบุโดยสรุปว่า คณะทำงานฯได้แฝงตัวเข้าไปในกลุ่มกัลยาณมิตรของวัดพระธรรมกาย และพบความไม่ชอบมาพากล พบเห็นการจัดตั้งเครือข่ายเป็นองค์กรขนาดใหญ่ มีการใช้เล่ห์เพทุบายเพื่อประทุษร้ายบุคคลที่เป็นฝ่ายตรงข้าม และบานปลาย ถึงขั้นจาบจ้วงเบื้องสูง กระทบต่อความมั่นคงของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ไปแล้ว
ข้อมูลหลักฐาน ดังกล่าวนี้มีเนื้อหากล่าวถึงการที่หน่วยงานความมั่นคงและการข่าวของรัฐ ได้ทำรายงานความไม่ชอบมาพากลของวัดพระธรรมกายและนายไชยบูลย์ เสนอต่อนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 1 เมื่อ พ.ศ.2532 ครั้งที่ 2 พ.ศ.2535 อีกทั้งสภา รักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ก็ได้ขึ้นบัญชีดำ หรือแบล็กลิสต์วัดพระธรรมกาย ว่าเข้าข่ายเป็นภัยต่อความมั่นคง ของชาติตั้งแต่ปี 2534 ด้วย
ที่ผ่านมามูลนิธิธรรมกาย ระดมทุนจากประชาชนหลายวิธีการ มีเงินหมุนเวียนในมูลนิธินับหมื่นล้านบาท แต่กลับไม่มีการรายงาน ในงบดุล หรือรายงานแค่เล็กน้อย ทางการเองก็ละเลยปล่อยให้มีการดำเนินการท้าทายอำนาจรัฐ ละเมิดกฎหมาย ในส่วนของนายไชยบูลย์นั้น น่าจะมีเงินสดในบัญชี ธนาคารหลายพันล้านบาท
นอกจากนี้ในหนังสือ ยังระบุถึงความไม่ชอบมาพากลอื่นๆอีกหลายเรื่อง อาทิ กรณีวัดพระธรรมกายตัดต้นไม้มงคลของพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูง ซึ่งมีหลักฐาน เป็นภาพถ่ายเปรียบเทียบ การมรณภาพอย่างปริศนาของพระชิตชัย มหาชิโต (วิญญนันทกุล) พระลูกวัดวัดพระธรรมกาย ที่ญาติๆสงสัยว่า อาจเป็นฆาตกรรมอำพราง กรณีการถือครองที่ดินทั่วประเทศของนายไชยบูลย์ กรณีอวดอ้างคุณค่า ของพระมหาสิริราชธาตุ มาหลอกลวงประชาชนให้เสียทรัพย์ กรณีความสัมพันธ์ของนายไชยบูลย์กับสตรีเพศ 7 คน รวมถึงคำให้การ ของพยานบุคคลเกี่ยวกับ การตบทรัพย์โดยอ้างว่า จะอัดวิชชาธรรมกายให้
ขอ 2 วันรู้บุกป่าสงวนฯ
รายงานข่าวจากคณะทำงาน ชุดสืบสวนสอบสวนกรณีวัดพระธรรมกายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งว่า ประเด็นที่ชุดสืบสวนสอบสวน สงสัยกันมากในขณะนี้ ก็คือเรื่องที่ดินบางแปลง นส. 3 ก ที่อยู่ในกรรมสิทธิ์ของนายไชยบูลย์นั้นทับซ้อนอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหรือไม่ เนื่องจากข้อเท็จจริง ที่ได้รับรายงานนั้นพบว่า ที่ดินในเขตอำเภอชนแดน จ.เพชรบูรณ์ รวมทั้งที่ดินในเขตพื้นที่ จังหวัดเลยหลายแปลง เป็นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จึงไม่น่าที่จะมีผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ นส. 3 ก ได้ ดังนั้นในวันที่ 21 มิ.ย.นี้ชุดสอบสวน ที่รับผิดชอบ พื้นที่ภาคเหนือ และอิสานตอนบน จะลงพื้นที่ไปสอบพยานและตรวจสอบเอกสารทั้งหมด กับทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัดว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร
พ.ต.ท.ระพีพงษ์ สุพรศรี รองผกก. 3 ป. เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่า นายไชยบูลย์กับพวกนั้นบุกรุกที่ป่าสงวนหรือไม่ ต้องรอให ้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงไปตรวจสอบ ข้อเท็จจริงในพื้นที่ก่อน เนื่องจากหลักฐาน เรื่องที่ดินซึ่งกรมการศาสนา นำมามอบให้กับทางกองปราบปรามฯนั้น ยังไม่มีความชัดเจนเพียงพอโดยเฉพาะในด้านรายละเอียด คาดว่าจะใช้เวลาในการตรวจสอบไม่เกิน 2 วัน จากนั้นคงจะสามารถ รายงานผลการสืบสวนต่อพล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ ผบช.สง.ก.ตร. ในฐานะหัวหน้าชุดสอบสวนได้