เดลินิวส์ 11/6/2542
'ชวน'สั่ง'ตูมตาม'ลุย ธรรมกาย เตะถ่วงโอนที่ ยอมแค่ 300 ไร่แจ้งกองปราบฯดำเนินคดีอาญา
ปลาไหล "ไชยบูลย์"ลื่นไม่หยุด ส่งเอกสารโอนที่ดินคืนวัดแค่ 300 ไร่เศษ ดื้อตาใส อ้างไม่รู้ว่า ต้องเอามา โอนให้หมด ที่เหลือรอเจรจาใหม่ ยอมรับทำหน้าที่นายหน้าค้าที่ดิน แถมขู่รมช. ศึกษา ระวัง โดนฟ้องกลับจะลำบากภายหลัง "อาคม"ไม่เคลิ้มตามให้แจ้งกองปราบฯดำเนินการตามกฎ หมาย เผยต้องการ ฟอกเดียรถีรย์ให้สะอาดเอาศาลเป็นที่พึ่ง เพื่อให้เกิดความโปร่งใส หากสุจริตจริง อย่าหวั่น นายกฯ สั่งการด่วนให้ดำเนินการปัญหาธรรมกายตามกฎหมาย "ปรีชา" ยันโอนที่ดิน ก็ไม่พ้น ความอาญาแผ่นดิน เป็นความผิดสำเร็จที่เกิดขึ้นไปแล้วอายุความ 10 ปี ศรภ.ชี้รัฐบาล ไม่เข้ามา ดำเนินการ จริงจังยุติยาก 20 มิ.ย.องค์กรพุทธเคลื่อนไหวใหญ่ "พระพยอม" เหน็บลึก นิพพาน ไม่ใช่อัตตา อนัตตา แต่เป็นโฉนดที่ดิน เหยื่อผีบุญโวยวัดพระธรรมกายออกหนังสือโกหกสาธารณชน ย้ำไม่เคยมี หนังสือถึงวัดพาลูกเมียเข้าไปร่วมงานบวชอุบาสกแก้ว แถมไม่เคย ระบุว่าเข้าใจ การทำงาน ของวัด
เมื่อเวลา 9.00 น. วันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้มีการประชุม คณะกรรมการศึกษา และปรับปรุงการปกครองคณะสงฆ์ มีนายสุรัฐ ศิลปอนันต์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธาน ใช้เวลาในการประชุม นานกว่า 3 ชั่วโมง โดยระหว่างการประชุมได้มีการแจ้งว่าพระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตโต) เจ้าอาวาส วัดญาณเวสกวัน ซึ่งเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการฯได้ขอลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจาก อยู่ระหว่างอาพาธ มีปัญหาด้านสุขภาพ เกรงว่าจะไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ แต่ยินดีให้คำปรึกษา ทั้งยังแสดงความเป็นห่วง ในวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นกับคณะสงฆ์
ถกปรับปรุงปกครองสงฆ์เครียด
หลังการประชุมนายสุรัฐ กล่าวว่า คณะกรรมการได้ศึกษากรณีปัญหาด้านศาสนาที่เกิดขึ้น และเห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคือความไม่สะดวก ในการแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการปกครองคณะสงฆ์ ยังมีข้อจำกัดทางด้าน กฎหมายทำให้การแก้ไขปัญหาล่าช้าไม่ทันใจประชาชน จึงพยายาม หาแนวทางแก้ไขปัญหา ต่างๆเช่น เสนอให้แยกระบบการพิจารณาทางโลกออกจากด้านวินัยสงฆ์อย่างเด็ดขาด เสนอร่างพ.ร.บ.อุปถัมภ์ และคุ้มครองพระพุทธศาสนา
นายสุทธิวงศ์ ตันตยาพิศาลสุทธิ์ รองอธิบดีกรมการศาสนากล่าวว่า กรมการศาสนา ได้สรุปประเด็นปัญหา ด้านการปกครองคณะสงฆ์ให้ที่ประชุมรับทราบ อาทิ มหาเถรสมาคม ยังไม่ได้ตรากฎมหาเถรฯ ว่าด้วยการกำหนดโทษ หรือวิธีลงโทษทางการปกครอง ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 15 จัตวาของพ.ร.บ.คณะสงฆ์ ซึ่งกฎดีงกล่าวจะเป็น เครื่องมือของเจ้าคณะผู้ปกครอง ในการดำเนินการ กับพระที่ประพฤติ ให้เกิดความเสียหาย ต่อพระพุทธศาสนา เมื่อไม่มีกฎนี้พระก็ประพฤตผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นอุปสรรคในการแก้ไขปัญหา
นายอำนวย สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมเปิดเผยว่า เรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ ที่สุดในเวลานี้คือการแก้ปัญหาการปกครองคณะสงฆ์ให้ถูกจุด ต้องมีการแก้ไขกฎหมาย คณะสงฆ์ ให้มีความชัดเจน ในการบริหารงาน มีความฉับไวในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งนี้ในการประชุมครั้งต่อไป (24 มิ.ย.)จะเสนอตั้ง คณะกรรมการชุดต่างๆเช่น คณะทำงานแก้ไขพ.ร.บ.คณะสงฆ์ และคณะทำงานศึกษา และแก้ปัญหา กรณีวัดพระธรรมกาย เป็นต้น
เหยื่อผีบุญท้าพิสูจน์ศิษย์วัดฉาว
จากกรณีวัดพระธรรมกาย มีเอกสารชี้แจงฉบับที่ 8/2542 ลงวันที่ 9 มิถุนายน 2542 ว่า นางกนกวรรณและสามีคือนายวิชัย เลิศตระกูลพิทักษ์ ได้มาเรียกร้องขอเงินที่บริจาคให้วัดพระธรรมกายคืน และทางวัด ได้อนุเคราะห์เงิน ช่วยเหลือไปจำนวน 90,000 บาทตั้งแต่ปลายเดือนม.ค.2542 พร้อมทั้งมีหนังสือ จากนายวิชัยมายัง วัดพระธรรมกายบอกว่าทราบดีถึงการทำงานของวัด เมื่อทำบุญแล้วไม่สามารถขอคืนได้ ตลอดจนทราบดีว่า วัดได้นำเงินดังกล่าวไปใช้ตามวัตถุประสงค์ของผู้ทำบุญ นอกจากนี้ในวันบวชอุบาสกแก้ว นางกนกวรรณ และเพื่อนบ้านก็จะไปร่วมงานบุญด้วย โดยนายวิชัยจะเป็นผู้พาไปส่งด้วยตนเองนั้น
นางกนกวรรณ เหยื่อผีบุญที่บริจาคเงินจนเกือบหมดตัวให้แก่วัดพระธรรมกายเปิดเผยว่า นึกไม่ถึงว่า วัดพระธรรมกาย จะออกหนังสือชี้แจงแบบนี้ได้ ทั้งที่ข้อความดังกล่าวนั้นไม่เป็นความจริงแม้แต่นิดเดียว ข้อเท็จจริงมีเพียงว่า ได้เคยติดต่อวัดพระธรรมกายเพื่อขอเงินที่บริจาคไปนั้นคืน เนื่องจากเห็นว่าสิ่งที่ผู้นำบุญ โฆษณาชวนเชื่อนั้น ไม่เป็นความจริง ต่อมาวัดพระธรรมกายได้ให้นายสมเกียรติ ศรลัมภ์ แกนนำวัดฝ่ายฆราวาสคนหนึ่ง มาเจรจายื่นข้อเสนอให้กับสามีคือนายวิชัย ที่โรงแรมริชมอนด์ โดยคืนเงินให้ 90,000 บาท แต่ให้ลงนามในหนังสือยืนยันไว้ว่า ไม่เคยได้รับเงินคืนจากวัดแต่อย่างใด ซึ่งนายวิชัย ก็ได้รับเงินและลงนามให้ไป เพื่อตัดความรำคาญ และจะได้ไม่ต้องติดต่อกันอีก
"เห็นทางวัด ชี้แจงข่าวแล้วคุณวิชัยแกโกรธมาก นึกไม่ถึงว่าวัดจะกล้าทำขนาดนี้ เขาไม่นึกถึงศีล 5 กันบ้างหรือไง ตอนนั้นนายสมเกียรติ นี่มาบอกว่า เขาคืนเงินให้ 90,000 บาทแล้วช่วยลงนามยืนยันว่าไม่ได้รับเงินจากวัด ทั้งขอร้องว่า อย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกสื่อมวลชน มาตอนนี้กลับทำหนังสือชี้แจงสื่อมวลชนอีกอย่าง ชี้แจงแบบน ี้คุณวิชัยแกเสียหาย แกบอกกับดิฉันว่า หากนายสมเกียรติ มีความเป็นลูกผู้ชายจริง กล้ามาประจัญหน้า แถลงข่าวต่อหน้า สื่อมวลชนกันเลยดีกว่า ข้อเท็จจริงทั้งหมด จะได้ถูกเปิดเผยให้สาธารณชนได้รับรู้"
เหน็บนิพพานเป็นโฉนดที่ดิน
พระพิศาลธรรมพาที หรือพระพยอม กัลยาโณ ประธานมูลนิธิวัดสวนแก้ว ได้แสดงเทศนาธรรมที่จัง หวัดนครศรีธรรมราช แก่นักเรียน นักศึกษา ข้าราชการและประชาชนกว่า 1,000 คนว่า การทำบุญในพุทธศาสนานั้นขอให้ทำบุญด้วยความรู้สึกที่ดี ไม่ใช่หลงงามงายหลงในวัตถุ อย่างกรณีวัดพระธรรมกายนั้น มีแนวทางการสอนให้คนทำบุญโดยหลงงมงายในวัตถุ ถือเอาศาสนา เป็นเรื่องของไลยศาสตร์ แก้ไขความเดือดร้อนของประชาชนด้วยวัตถุและน้ำมนตร์ ทำให้ปัญหาวิกฤต กลายเป็นความวิบัติ
"เรื่องนิพพานเป็นอัตตา หรืออนัตตาเขาไม่ได้สนใจ รู้แต่ให้นิพพานเป็นโฉนดที่ดินก็เอาแล้ว มีการอวดอ้างวิเศษวิโส สร้างเหรียญธรรมกาย รุ่นดูดทรัพย์ ลงทุนแค่ 200 บาทขายเหรียญละ 3 หมื่นบาท วันก่อนสองพี่น้อง จ๊ะเอ๋กับจ๊ะจ๋าไปร้องเรียนว่า แม่ของเขาซื้อเหรียญรุ่นนี้มาถึง 9 องค์ หมดเนื้อหมดตัวหมดเงินส่งลูกเรียนหนังสือ ดูดทรัพย์ไปจากชาวบ้าน จนสิ้นเนื้อประดาตัว ถ้ามันวิเศษจริงคงไม่ต้องให้ประชาชนไปซื้อมาหรอก รัฐบาลคงแลกเอาไปแขวน ไว้หน้ากระทรวงการคลังเพื่อดูดทรัพย์เข้ามาโดยไม่ต้องไปพึ่งเงินกู้ไอเอ็มเอฟแล้ว"
พระพยอมกล่าวด้วยว่า การอ้างว่าร่วมกันทำบุญเพื่อสร้างมหาธรรมกายเจดีย์เป็นวัตถุที่ยิ่งใหญ่ แต่ความเป็นจริง การทำบุญนั้นไม่ได้เน้นที่วัตถุ แต่เน้นช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนก่อน ขอให้ชาวพุทธทำบุญให้เป็น หากทำตามวัดพระธรรมกาย สอนให้คนทำบุญกันสุดฤทธิ์สุดเดชถือว่าไม่ถูกต้อง
ไม่จำเป็นต้องเจรจาแล้ว
นายอาคม เอ่งฉ้วน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการเปิดเผยว่า ขณะนี้กรมการศาสนา ได้รับหนังสือตอบอย่างเป็นทางการ จากสำนักงานอัยการสูงสุดแล้วว่า สามารถแจ้งความ ดำเนินคดีอาญา ตามมาตรา 147 และมาตรา 157 ต่อนายไชยบูลย์ สุทธิผล อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายได้ ซึ่งหากว่ายังไม่มีการ ดำ เนินการโอนที่ดินทั้งหมดคืนให้แก่วัดภายใน 1-2 วันนี้ จะให้กรมการศาสนา ไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามฯทันที เพื่อให้เกิดความฉับไวต่อการดำเนินการเรื่องนี้
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้ช่วยเลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องมีการเจรจา หารืออะไรอีกแล้วระหว่าง ตัวแทนนายไชยบูลย์ สุทธิผล กับกรมการศาสนาและนายอาคม เอ่งฉ้วน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นแล้วใน 2 กรณีคือ 1.เป็นความผิดสำเร็จที่เกิดขึ้นไปแล้ว และ 2.การแสดงเจตนา การโอนที่ดินนั้นไม่ใช่แสดงต่อกรมการศาสนา ตัวแทนนายไชยบูลย์จะต้องไปแสดง ต่อหน้า กรมที่ดินเท่านั้น เพราะกรมที่ดินจะเป็นผู้ดำเนินการ ดังนั้นไม่ว่าจะเจรจา อย่างไรหรือจะโอนคืน ตอนไหนก็มีความผิดอาญาเหมือนกัน
นายพิภพ กาญจนะ อธิบดีกรมการศาสนากล่าวว่า กรมการศาสนาได้ตั้งโจทย์ให้แก่คณะตัวแทนของนายไชยบูลย์ 3 ประเด็นคือ 1.ถ้ามาโอน ที่ดินคืนให้แก่วัดทั้ง 1,747 ไร่ทันทีก็จะไม่แจ้งความดำเนินคดี 2.ถ้าไม่โอนให้หมด ต้องมีเหตุผลที่ดี และ 3. ถ้าไม่โอนทันทีทั้งหมดวันที่ 11 มิ.ย.จะไปแจ้งความดำเนินคดีที่กองปราบปรามฯ
ถ้ารัฐบาลเอาด้วยปัญหายุติ
ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวจากศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ(ศรภ.)กล่าวว่า จากการติดตามสถาน การณ์ของศรภ.นั้น มีการวิเคราะห์กันว่าเรื่องนี้จะจบได้หากรัฐบาลเข้ามาดำเนินการเองอย่างจริงจัง เพราะหากไม่เป็นเช่นนั้น ปัญหาก็ไม่จบและคะแนนนิยมรัฐบาลก็จะลดลง เนื่องจากเป็นเรื่องที่ประชาชน ให้ความสนใจ เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังพบว่าในวันที่ 20 มิ.ย.นี้จะมีองค์กรทางพุทธศาสนา หลายองค์กรจะมีการออกหนังสือ เพื่อเปิดเผยข้อมูลลับของวัดพระธรรมกาย ตั้งแต่เรื่องที่ดิน การกว้านซื้อที่ดิน จนถึงเรื่องการไม่เคารพ สถาบันชั้นสูงด้วย รวมทั้งได้ติดตามพฤติกรรมของเสี่ยส. ซึ่งถือเป็นมือขวา ของนายไชยบูลย์ด้วย
"ผู้ที่ประกอบธุรกิจ เครื่องสำอางค์ซึ่งเข้ามาในวัดแห่งนี้เป็นไปเพื่อหวังผลประโยชน์ ชักจูงให้ผู้คน เข้าสู่ระบบขายตรงไต่เต้าเป็นเพชร เพชรคู่และมงกุฎฑูต เพราะเมื่อถึงขั้นนี้แล้วก็สามารถอยู่เฉยๆได้ จะมีเงินก้อนใหญ่ ไหลเข้ามาโดยอัตโนมัติ เช่นเดียวกับนักธุรกิจ ก่อสร้างที่เข้ามาในวัด ก็เพื่อผลประโยชน ์ในการสร้างงานในวัด นักธุรกิจบางคนที่ออกมาเคลื่อนไหวปกป้องการโอนที่ดินก็เช่นกัน ต้องดิ้นรนมาก ในขณะนี้เพราะไม่ร ู้จะไปไหนทำอะไร หากพ้นจากตรงนี้ไปก็ไม่มีอะไรเหลือแล้วจึงออกมาต่อต้านอย่างเต็มที่"
โอนก็หนีความอาญาไม่พ้น
นายปรีชา สุวรรณทัต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์และผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายกล่าวว่า นายไชยบูลย์ ได้กระทำความผิดไปแล้ว แม้จะโอนที่ดินทันตามกำหนดวันที่ 10 มิ.ย.ก็ไม่สามารถลบล้างได้ คดีนี้ไม่ใช่คดีอาญาที่เป็นส่วนตัว แต่เป็นคดีอาญาแผ่นดินอายุความ 10 ปี และไม่สามารถยอมความได้ เจ้าอาวาส ถือเป็นเจ้าพนักงาน ตามกฎหมาย เมื่อมีเจตนาเบียดบัง ทรัพย์สินเป็นของตนเอง โทษที่ได้รับย่อมรุนแรง กว่าประชาชนทั่วไป โดยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 และ 157
ทั้งนี้หากในที่สุดไม่มีการโอนที่ดิน และต้องดำเนินคดีอาญาหลังจากกรมการศาสนาเป็นโจทย์ร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยมีพยานเอกสาร หลักฐานต่างๆเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับกุมได้เลย และส่งให้อัยการสูงสุดฟ้องร้องต่อไป ส่วนกรณีจะให้สละ สมณเพศก่อนได้หรือไม่ เมื่อมีพยานหลักฐาน ชัดเจนและทางตำรวจเห็นว่า คดีนี้มีผลกระทบรุนแรง และสั่งห้ามไม่ให้มีการประกันตัว ก็เป็นอำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะถอดจีวรได้ก่อนขัง
"ตอนนี้เรามาถูกทางแล้ว แต่อย่าหวังเฉพาะจะเอาที่ดินมาเป็นของวัดเท่านั้น ที่หวังคือให้เป็นไปตาม พระบัญชาของสมเด็จพระสังฆราช ที่ชี้ว่านายไชยบูลย์เป็นพระปลอมต้องปาราชิก เป็นอดีตเจ้าอาวาสไปแล้ว"
รับ"ไชยบูลย์"นายหน้าค้าที่ดิน
ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. นายมานิต รัตนสุวรรณ ตัวแทนนายไชยบูลย์ ได้เดินทางมาพบกับอธิบด ีกรมการศาสนาเพื่อหารือ เกี่ยวกับการโอนที่ดินจำนวน 1,747 ไร่คืนให้แก่วัดพระธรรมกาย โดยก่อนเข้าหารือ เปิดเผยว่า ได้นำโฉนดที่ดินมามอบให้เพียง 12 แปลงรวม 304 ไร่เท่านั้น แยกเป็นที่ชลบุรี 5 ไร่ จันทบุรี 21 ไร ่และลพบุรี 278 ไร่ เนื่องจากไม่รู้มาก่อนว่าจะต้องนำมาคืนทั้งหมด แต่การนำโฉนดจำนวนนี้ มามอบให้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า นายไชยบูลย์มีเจตนาที่จะมอบโฉนดที่ดินทั้งหมดให้แก่วัด จากนั้นจึงเข้าหารือ กับผู้บริหารระดับสูงของกรมการศาสนา
หลังการหารือนายมานิต แถลงแก่สื่อมวลชนอีกครั้งว่า ขอให้เห็นใจด้วย เนื่องจากโฉนดที่ดินที่นำมามอบ ครั้งนี้ก็ใช้เวลาทำงาน 2 วันเต็มทั้งกลางวันและกลางคืน ซึ่งการโอนครั้งนี้ทางวัดจะต้องใช้เงินกว่า 1.9 ล้านบาทเป็นค่าธรรมเนียม เนื่องจากเป็นที่ดินบริจาคให้ส่วนตัว อย่างไรก็ตาม ที่มอบโฉนดให้เท่าน ี้ไม่ใช่เรื่องการผิดนัด เพราะหากไม่เชื่อใจ จะให้นำโฉนดที่ดินที่เหลือ ทั้งหมดมามอบให้ กรมการศาสนาก่อนก็ได้
ส่วนการโอนก็ต้องค่อยๆ ดำเนินการกันต่อไป ต้องให้เวลาบ้างเพราะที่ดินบางแปลงได้รับบริจาคมาหลาย 10 ปีแล้ว บางราย เจ้าของที่ดินบริจาคให้นายไชยบูลย์เพื่อให้นำเอาไปขายต่อให้แก่ลูกศิษย์ที่ต้องการซื้อ เพื่อจะได้เอาเงิน มาทำบุญกับวัด
ปลาไหลขู่ฟ้องกลับ"ตูมตาม"
สำหรับที่ดิน ที่จังหวัดพิจิตรที่ระบุว่าซื้อมาทำเหมืองทองนั้น นายมานิตกล่าวว่า ข้อเท็จจริงก็คือที่ดิน ดังกล่าวมีกลุ่มคนมาซื้อไว้เพื่อทำประโยชน์ แต่เมื่อเห็นว่าทำประโยชน์ไม่ได้ก็เลยบริจาคให้แก่นายไชยบูลย์ ไม่ใช่เป็นการซื้อมา เพื่อทำเหมืองทองแต่อย่างใด
ต่อข้อถามที่ว่า หากนายอาคม ยังยืนยันที่จะให้มีการแจ้งความดำเินนคดีกับนายไชยบูลย์ต่อไป นายมานิตกล่าวว่า อยากจะเตือนนายอาคม ให้ระมัดระวังข้อกฎหมายให้ดี รัฐบาลนายชวน หลีกภัยก็มีนักกฎหมาย มือดีมากมาย ถ้าเกิดสู้กันในศาลแล้วปรากฎว่าทางนายไชยบูลย์ชนะก็อาจจะฟ้องกลับได้ ตัวแทนกรมการศาสนา ที่จะไปแจ้งความนั้นคงต้องคิดหนัก เพราะตามกฎมหาเถรฯก็ไม่ได้ห้ามพระถือครองที่ดิน และผู้บริจาค ก็สามารถฟ้องแย้ง การโอนที่ดินของนายไชยบูลย์หใ้แก่วัดได้ เพราะเป็นเรื่องผิดวัตถุประสงค์
นายกฯย้ำดำเนินการตามกม.
นายอาคม ให้สัมภาษณ ์อีกครั้งหลังจากที่ตัวแทนนายไชยบูลย์ได้เข้าพบอธิบดีกรมการศาสนาว่า ยังไม่ได้ดูรายละเอียด แต่เท่าที่ทราบจากการรายงานจากอธิบดีกรมการศาสนาว่าวัดได้นำโฉนดมามอบให้บางส่วนเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่พอใจ เพราะต้องการให้นำมาทั้งหมดและถ้าไม่เอามาก็จะแจ้งความทันที แต่เมื่อนำมาบางส่วน ก็คงต้องไปดูเหตุผลว่า เพราะอะไร และโฉนดที่ดินที่มามอบให้นั้นสามารถโอนได้ทันทีหรือไม่
อย่างไรก็ตาม หากมีเหตุผลที่ยังไม่สามารถโอนที่ดินคืนให้วัด อย่างน้อยก็น่าจะนำโฉนด ทั้งหมดมามอบให้กรมการศาสนา ถึงแม้โฉนดที่ดินบางส่วนจะโอนไม่ได้ก็ตาม เพื่อจะแสดงเจตนา ที่ดีว่าวัดต้องการจะ โอนให้วัดจริงๆ อย่างไรก็ตามก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย และรักษาคำมั่นสัญญา ที่ให้กับประชาชนไว้ ส่วนจะแจ้งความต่อไปหรือไม่ ต้องขอดูรายละเอียดก่อน และอย่างช้า 9.00 น.วันที่ 11 มิ.ย. จะรู้กันว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป
มีรายงานข่าวแจ้งว่า นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการนายอาคม เอ่งฉ้วน รมช.ศึกษาฯ ให้ดำเนินการปัญหา ของวัดพระธรรมกายตามกฎหมาย ทำให้รมช.ศึกษาฯ ยืนยันที่จะให้ดำเนินคดี กับนายไชยบูลย์ต่อไป หลังจากที่ได้รับทราบว่า ตัวแทนนายไชยบูลย ์ได้ติดต่อนำเอกสาร หลักฐานการโอนที่ดิน มาให้แค่ 304 ไร่เท่านั้น โดยระบุว่าที่เหลือนั้นค่อยมาเจรจากันใหม่ ซึ่งถือว่าผิดไปจากข้อตกลงเดิม ที่ว่าไม่โอนหรือโอนไม่ครบ และผิดไปจากหนังสือเจตนาที่เคยแสดงไว้ นอกจากนี้ยังเห็นว่า การดำเนินการ ตามกระบวนการ ยุติธรรมโดยเอาศาลเป็นที่พึ่งนั้น การดำเนินการตาม กฎหมายก็เพื่อให้ นายไชยบูลย์ได ้ฟอกตัวเองให้โปร่งใส นายไชยบูลย์ไม่ควร หวั่นไหวต่อเรื่องนี้หากมั่นใจว่า ที่ผ่านมานั้นไม่ได้คิด ยักยอกทรัพย์และทุจริตต่อหน้าที่
มีรายงานข่าวแจ้งว่า นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการนายอาคม เอ่งฉ้วน รมช.ศึกษาฯ ให้ดำเนินการ ปัญหาของวัดพระธรรมกาย ตามกฎหมาย ทำให้รมช.ศึกษาฯยืนยันที่จะให้ดำเนินคดีกับนายไชยบูลย์ต่อไป หลังจากที่ได้รับทราบว่าตัวแทนนายไชยบูลย์ได้ติดต่อนำเอกสารหลักฐานการโอนที่ดินมาให้แค่ 304 ไร่เท่านั้น โดยระบุว่า ที่เหลือนั้นค่อยมาเจรจากันใหม่ ซึ่งถือว่าผิดไปจากข้อตกลงเดิม ที่ว่าไม่โอน หรือโอนไม่ครบ และผิดไปจากหนังสือ เจตนาที่เคยแสดงไว้ นอกจากนี้ยังเห็นว่า การดำเนินการ ตามกระบวนการ ยุติธรรมโดยเอาศาล เป็นที่พึ่งนั้น การดำเนินการตามกฎหมายก็เพื่อให้นายไชยบูลย์ได้ฟอกตัวเองให้โปร่งใส นายไชยบูลย์ไม่ควร หวั่นไหวต่อเรื่องนี้หากมั่นใจว่าที่ผ่านมานั้นไม่ได้คิดยักยอกทรัพย์และทุจริตต่อหน้าที่