เดลินิวส์ 9/6/2542
มท.1จ้องถอนราก ธรรมกาย
เสธ.หนั่น แสดงท่าทีชัดถ้ากรมศาสนาฟ้องเดียรถียร์เมื่อไหร่มหาดไทยจัดการต่อให้แน่ อัยการสูงสุด นัดถกด่วน พิจารณา ข้อ กฎหมาย ชี้ขาดเจอ กี่กระทง เจ้าคณะปทุมฯ ยอมรับ กรรมการ ระดับ บิ๊กมส. โทรมาจริง ไม่รับ-ไม่ ปฏิเสธเป็น "สมเด็จเกี่ยว" หรือไม่ บอกคุยกันเฉย ๆ ศึกษาธิการ ปทุมฯ ย้ำทำอย่างน ี้สร้างแรงกดดัน แน่ให้เร่ง จัดการ พระปลอม ตามลายพระหัตถ์ สภาทนายความ รับเรื่อง 3 แม่ลูกเหยื่อสูบบุญ น้อง"จ๊ะเอ๋" โชว์รูปวาด "ไชยบูลย์" ชี้หนูเกลียดมาก ทำให้พ่อ-แม่ ทะเลาะกัน บ้านไม่มีเงินซื้อนมจนต้องขายรถ สมเด็จ พระสังฆราช ทรงอนุญาตให้เข้าเฝ้าแล้ว
การสางเสี้ยน ศาสนาพระปลอม"นายไชยบูลย์ สุทธิผล"ที่ต้องปาราชิกไปแล้วตามลายพระหัตถ์สมเด็จพระสังฆราช มาถึงจุดสำคัญ อีกครั้งเมื่อ กรมการศาสนา ประกาศท่าทีชัดเจนหากไม่ยอมโอนที่ดินกว่า 1,700 ไร่ ในวันที่ 10 มิ.ย.จะดำเนินการตามกฎหมายขึ้นเด็ดขาด
"สนั่น"รับลูกจัดการแน่
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลา 9.30 น. นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ผู้ช่วยเลขานุการรมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่าหากวันที่ 10 มิ.ย.ไม่โอน ที่ดินจะดำเนินการ ตามกฎหมาย แน่นอน โดยนายอาคม เอ่งฉ้วน รมช. ศึกษาธิการ สั่งการให ้กรมการศาสนา ทำหนังสือ ถึงสำนักงาน อัยการสูงสุด เพื่อขอความเห็น เกี่ยวกับการท ี่จะกล่าวโทษนายไชยบูลย์ตามมาตรา 147 ของประมวล กฎหมายอาญา ว่าด้วยเจ้าพนักงาน ยักยอกทรัพย์ และมาตรา 157 ว่าด้วยการ ที่เจ้าพนักงาน ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หากได้รับคำตอบ กรมการศาสนาจะยื่นฟ้องต่อตำรวจ หลังจากนั้น ตำรวจจะหาหลักฐานดำเนินการ
"พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยออกมาแสดงท่าทีชัดเจนในวันนี้ว่าหากมีการฟ้องร้องนายไชยบูลย์จริง มหาดไทย ยินดี ดำเนินการต่อไป ล่าสุด ได้มีการประสานงาน ภายใน ขอให้อัยการ สูงสุด เร่งส่งคำตอบ โดยข้อเท็จจริง ที่ปรึกษาด้าน กฎหมาย ของ นายอาคม และกรมการศาสนา ยืนยันมาแล้วสามารถฟ้องร้องได้ การยื้อไม่โอนที่ดินเป็นการแสดงเจตนาได้ดี กรมจะไม่หารือ กับตัวแทน อีกต่อไป เพราะมีการ กล่าวกับ อธิบด ีกรมการศาสนา มาว่ายินดีโอนให้แต่ติดขัดที่ตัวแทนของวัดไม่ยอมโอน"
นายชินวรณ์ กล่าวอีกว่าการอ้างว่าตัวแทนวัดไม่โอนคงไม่ได้ เพราะนายไชยบูลย์มีอำนาจเต็มในหลักของตัวการตัวแทน และไม่มีเหตุผล จะอ้างถึง เจตนา ของผู้บริจาค ส่วนกรณีที่นายมานิต รัตนสุวรรณ ที่ปรึกษา ของวัดจะมา หารือก็ไม่จำเป็นต้องมา หากไม่โอน ที่ดินถือว่าเยีบดยัง ยักยอกทรัพย์ ต้องไปต่อสู้กัน ในศาล นอกจากนั้น จะให้กรมการศาสนา ไปแจ้งมหาเถรสมาคม ให้ดำนินการ ในข้อหาขัดคำสั่ง เจ้าคณะผู้ปกครองด้วย
"การที่ นายมาโนชญ์ วิชัยกุล เลขานุการรมว.มหาดไทยกล่าวว่าการยื่นคำขาดครั้งนี้จะล้มเหลว ผมคิดว่า เป็นการพูด โดยไม่เข้าใจเจตนา ของกฎหมาย และหาก ไม่เข้าใจ กระบวนการ ตามหลัก พระธรรมวินัย และกฎหมายแล้ว ไม่น่าออกมา แสดงความเห็น เพราะทำให้เกิดความสับสน"
เถียงนัวเนียฟ้องไม่ฟ้อง
นายชินวรณ์ กล่าวด้วยว่า การดำเนินการกับนายไชยบูลย์ในเรื่องที่ดินนั้นคงจะไม่รอความเห็นของสำนัก งานอัยการสูงสุด เพราะไม่รู้ว่า จะส่งเรื่องมา ให้เมื่อใด คงไปเร่งเขาไม่ได้เพราะต้องให้เวลาเพื่อความรอบคอบ แต่ทาง กรมการศาสนา จะต้องดำเนินการ แจ้งความ ดำเนินคด ีกับนายไชยบูลย ์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 และมาตรา 157 ไปก่อน จากนั้น ก็เป็นการดำเนินการ ตามขั้นตอน ของกฎหมาย นายพิภพ กาญจนะ อธิบดีกรมการศาสนากล่าวว่าการที่นายชินวรณ์ จะให้กรมฟ้องร้อง โอยไม่ต้องรอ ผลการหารือกับ อัยการสูงสุดก่อนนั้น คงทำไม่ได้ และเรื่องทั้งหมด ได้มีการ หารือกับ นายอาคมรวมถึงวัดพระธรรมกายด้วย เรื่องทั้งหมด ต้องรอถึงวันที่ 10 มิ.ย.เสียก่อน
นายสุทธิวงศ์ ตันตยาพิศาลสุทธิ์ รองอธิบดีกรมการศาสนากล่าวว่า การยื่นฟ้องต้องมีหลักฐานพอสมควร และอาจฟ้องหลังวันที่ 10 มิ.ย.โดย ต้องรอคำตอบ จากอัยการสูงสุด ส่วนการ จะยื่นฟ้องมหาเถรฯ ว่านายไชยบูลย ์ขัดคำสั่ง เจ้าคณะผู้ปกครอง ความจริง การปกครองสงฆ์แบ่งสายงาน กันชัดเจน หากเรื่องใด เข้ามหาเถรฯ หมายถึง เจ้าคณะผู้ปกครอง จัดการไม่ได้ ขณะนี้อยู่ในกระบวนกา รศาลสงฆ ์ต้องรอไปก่อน เหมือน ข้าราชการ ทำผิด ต้องให้อธิบด ีลงโทษ ก่อนเข้าครม. และคงไปเร่งรัดขั้นตอนของศาลสงฆ์ไม่ได้
อัยการสูงสุดถกด่วน
ผู้สื่อข่าว รายงานด้วยว่าในการประชุมครม.วันนี้ที่มีนายพิชัย รัตตกุล รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน นายอาคม รายงาน ความคืบหน้า ปัญหาธรรมกาย โดยระบุว่า หากไม่โอนที่ดินจะแจ้งความตามกฎหมายอาญาใน 3 ข้อหา คือมาตรา 137 เป็นเจ้าพนักงานแล้ว แจ้งความเท็จ มาตรา 147 เป็นเจ้าพนักงาน ยักยอกทรัพย์และมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานแล้วปฏิบัติหน้าที่ทุจริต
ในวันเดียวกันน ี้นายสหาย ทรัพย์สุนทรกุล รองอัยการสูงสุดรักษาการอัยการสูงสุด รับข้อหารือ ทางกฎหมาย จากกรมการศาสนา ในการฟ้องร้อง นายไชยบูลย์ และตั้งนายพันธ์ สุริยพร รองอัยการ สูงสุดเป็น ประธานคณะทำงาน โดยนายพันธ ุ์เรียกหารือ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการถกกันในวันที่ 9 มิ.ย.
นายธวัชชัย ชำนาญหล่อ เลขานุการนายสหาย กล่าวว่าหน้าที่ของอัยการคือเป็นตัวแทนหรือทนายความของรัฐ การหารือมา เช่นนี้ไม่ได ้หมายความว่า สำนักงาน อัยการสูงสุดต้องรับข้อหารือแล้วให้คำตอบทุกเรื่องไป เพราะบางเรื่อง อาจเป็นการเอา ข้อเท็จจริง มาชี้ขาดก่อน ทีจะเกิดคดี และอาจทำให้ เกิดความไม่เป็นธรรม
ส่วนนายชัยเกษม นิติสิริ รองอธิบดีอัยการสำนักงานที่ปรึกษา กล่าวว่าทางปฏิบัต ิดูไม่เหมาะ ที่จะตอบข้อหารือ ทางกฎหมาย เพื่อดำเนินคด ีอาญากับใคร เพราะจะเป็นการ ผูกมัดอัยการต่อไปหากมีการดำเนินคดีกันจริง ข้อหารือทั้งหมด อาจจะไม่ตอบทุกข้อ หรืออาจให้คำ หารือบางประเด็น กรณีที่กรมการศาสนา เป็นผู้เสียหายก็ได้
ชี้รูปไชยบูลย์หนูเกลียด
เมื่อเวลา 13.00 น.ที่สภาทนายความ นางกนกวรรณ เลิศตระกูลพิทักษ์ พร้อมลูกสาวทั้ง 2 คนได้ด.ญ.กัลยาหรือ"น้องจ๊ะเอ๋"กับด.ญ.นันทิยาหรือ"น้องจ๊ะจ๋า" เดินทางมา ร้องเรียน ขอความช่วยเหลือ กรณีที่ทำบุญ วัดพระธรรมกาย จนมีหนี้สิน โดยนายอุดม ศุภสินธุ์ กรรมการ ฝ่ายช่วยเหลือประชาชนเป็นตัวแทนรับเรื่อง
นางกนกวรรณ กล่าวด้วยความคับแค้นใจว่าถูกชักชวนให้ทำบุญกระทั่งหมดตัว ครอบครัวมีปัญหา คำอวดอ้างโฆษณาอานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ หรือพระดูดทรัพย์ ที่วัดอ้างไม่เป็นไปตามนั้น แต่กลับเป็น เรื่องตรงกันข้าม สภาพครอบครัว ย่ำแย่กว่าที่เคยเป็น ทำให้รู้สึกว่าถูกหลอก เหมือนกับมี นายหน้ามาขาย เครื่องสำองาค์ว่าดีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่พอใช้กลับ ผื่นเต็มหน้า และขอยืนยันว่า ถูกหลอก เพราะวัด อวดอ้างยกอานุภาพ ปาฏิหารย์ ของพระดูดทรัพย์ ขึ้นมาขาย ชักชวนให้บริจาคเงิน ต่อเนื่อง ตลอดเวลา
ระหว่างท ี่นางกนกวรรณให้สัมภาษณ์โดยวิงวอนทั้งน้ำตาอยู่นั้นน้องจ๊ะเอ๋กับน้องจ๊ะจ๋าได้เข้าสวมกอดแม่ของตัวเอง และยกมือป้ายน้ำตาให้ โดยน้องจ๊ะเอ๋ กล่าวขึ้นมาว่า"ขอความเป็นธรรมให้กับหนูและน้องที่น่าสงสาร ครอบครัว หนูจำเป็นต้องใช้เงินมาใช้จ่าย นำเงินมา ซื้อนมให้น้อง ที่ตอนนี้ยังต้องกินอยู่ " ผู้สื่อข่าวถามน้องจ๊ะเอ๋ว่า ทำไมคุณพ่อถึงไม่มาด้วย น้องจ๊ะเอ๋ ตอบว่าที่ไม่มา เพราะทำงาน อยู่บ้าน ไม่เช่นนั้น จะไม่มีเงินซื้อข้าวกิน จากนั้น หันไปพูดกับมารดา ของตนเองที่ยังร้องไห้อยู่ว่า"แม่จ๋า..อย่าร้องไห้เดี๋ยวพี่ ๆ ก็จะช่วยเรา"
จากนั้น น้องจ๊ะเอ๋ ได้นำสมุดเรียนมาเปิดให้ดูภาพชายหัวโล้นนุ่งห่มจีวรสีเหลือง ใส่แว่นตาดำมาแสดงพร้อมกับบอกว่า"คน ๆ นี้หนูเกลียดเขามาก เพราะเขาเป็นต้นเหต ุทำให้พ่อแม่ทะเลาะกัน บ้านก็ถูกยึด ค่าใช้จ่าย ในบ้าน ก็ไม่มี รถก็เอามาขาย โรงเรียนก็ไม่มีจะอยู่" ผู้สื่อข่าว ถามว่ารู้จักไหมว่าเป็นใคร น้องจ๊ะเอ๋ ตอบโดยงไม่ลังเลเลยว่ารู้ คือนายไชยบูลย์
คดีมีความสมบูรณ์
ส่วนนายอุดม กล่าวว่า คำร้องเรียนทั้งหมด ส่วนตัวเห็นว่า กรณีที่บริจาคเงิน ให้ด้วยความเสน่หา แล้วมีการทำผิด วัตถุประสงค์น่า จะเรียกเงินคืนได้ หากเป็นการบังคับ ขู่เข็ญหรือ มีการชี้นำ ให้บริจาค โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จากข้อมูล เบื้องต้น และหลักฐาน ประกอบเห็นว่า คดีนี้มีความสมบูรณ์ แต่ต้องรอสอบ พยานบุคคลเพิ่ม จึงจะส่งเรื่องให้ คณะกรรมการ พิจารณาว่า อยู่ในเกณฑ์ ที่ผู้เสียหายยากไร้ หรือไม่ได้รับ ความเป็นธรรมหรือไม่ จากนั้น ถึงชี้ชัดได้ว่า เข้าข่ายความผิดคดีใด และจะใช้เวลาประมาณ 7 วัน
"สมเด็จเกี่ยว"อีกแล้ว?
ในวันเดียวกัน พระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ให้สัมภาษณ์รายการเพื่อบ้านเพื่อเมือง ทางวิทยุคลื่นเอฟเอ็ม 97 เมกกะเฮิร์ต ถึงการสืบสวน สอบสวน นายไชยบูลย์ ว่า มีสำนวนรอการพิจารณาอยู่ 4-5 รายส่วนใหญ ่เป็นเรื่องพระธรรมวินัยที่ข้อหาหนักที่สุด แต่ที่ร้องเรียน มากที่สุดก็คือเรื่องที่ดิน ซึ่งก็รออยู่ว่า ในวันที่ 10 มิ.ย.นี้จะว่ากันอย่างไร และแม้กรมการศาสนาจะแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ทางศาลสงฆ์ ก็จะยังดำเนินการต่อไป เพราะเป็นเรื่อง ที่เกี่ยวข้องกัน ต้องพิจารณาดูว่าเข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์หรือไม่ โดยนำหลักนี้ มาพิจารณาด้วย
ส่วนกรณี ที่ศึกษาธิการจังหวัดระบุว่า มีกรรมการมหาเถรฯบางรูปโทรศัพท์มาสอบถามเรื่องการพิจารณาจนทำให้เกิดความอึดอัดนั้น ยืนยันว่า ไม่ได ้อึดอัดใจอะไร แค่โทรศัพท์ มาบอกว่า ให้พิจารณา ด้วยความรอบคอบ เป็นเพียงคำแนะนำคำเตือนเท่านั้น ผู้ดำเนิน รายการถามว่า กรรมการมหาเถรฯ ที่ว่านั้น จากวัดสระเกศใช่หรือไม่ พระสุเมธาภรณ์กล่าวว่าแค่พูดคุยกันธรรมดาเท่านั้น ไม่หนักใจ ถ้าการพิจารณา เป็นไปตามขั้นตอน ตามระเบียบ
นายประทีป หงษ์โสภา ศึกษาธิการจังหวัดปทุมธานีกล่าวในรายการเดียวกันนี้ว่า เรื่องมาถึงการพิจารณาสถาบันสูงสุดทางสงฆ์แล้ว มีการพิจารณา ไปช่วงหนึ่ งแต่ยังไม่สิ้นสุด กระบวนการ ก็ได้มีการ เปลี่ยนทิศทางใหม่ ในเมื่อเป็นเรื่องทางวินัยสงฆ์ก็ควรให้เจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ และเจ้าคณะ จังหวัดได ้ทราบข้อเท็จจริง อยากให้เรื่องนี้ มีการพิจารณา โดยเร็วและ การพิจารณา จะต้องถูกต้อง และเป็นธรรม กับทุกฝ่าย แน่นอนว่ าการทำงานย่อมมีความกดดัน ถ้าไม่ได้มาจากบ้านเมืองก็มาจากคณะสงฆ์ ซึ่งมีทั้ง คนแสดงความเห็นและชี้นำ
ต่อข้อถามที่ว่า ในฐานะ ผู้ใกล้ชิด คอยสนองงาน ต่อเจ้าคณะจังหวัด การให้สัมภาษณ์เรื่องความอึดอัดใจของพระสุเมธาภรณ์น่าจะมีมูลเหตุจากความเป็นจริง นายประทีป กล่าวว่า แน่นอน การทำงาน ไม่ได้ทำบน สุญญากาศต้องมีการกระทบกระทั่งและแรงเสียดทานกดดันมากพอควร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ หลักการ และเหตุผล ตลอดจนความ ถูกต้องและความเป็นธรรม ส่วนที่ตน พูดว่ากระแส สังคม ได้พิพากษา นายไชยบูลย์ หมดความเป็นพระ ไปแล้วและ ไม่ควรต่อสู้ ทำให้สังคม เกิดความ แตกแยกนั้น นำมาจากลายพระหัตถ์ของสมเด็จพระสังฆราช ที่ทรงระบุว่าเป็นพระปลอม เป็นอดีต เจ้าอาวาส วัดพระธรรมกายไปแล้ว จึงยึดถือตามนั้น เพราะสมเด็จพระสังฆราช คือประมุขฝ่ายสงฆ์ การที่พระองค ์ทรงมีลายพระหัตถ ์ออกมาก็ต้องตั้ง อยู่บนข้อมูล และเหตุผล
ต้านธรรมกายในสหรัฐ
พระมหาธวัชชัย นรินโท เจ้าอาวาสวัดธรรมาคุณาราม มลรัฐยูท่าห์ สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า กลุ่มพระธรรมทูต ที่ออกไปเผยแพร ่คำสอนใน ต่างประเทศได ้หารือกัน ถึงปัญหา วัดพระธรรมกาย ในเรื่องหลัก คำสอนเกี่ยวกับ เรื่องนิพพานเป็นอัตตา ว่าควรจะต้องถือ ตามพระไตรปิฎก ในแบบเถรวาท คือจะต้องเป็น อนัตตา ซึ่งในการเดินทางไปเผยแพร่คำสอนครั้งนี้ได้มีการนำหนังสือ กรณีธรรมกา ย ของพระธรรมปิฎก จำนวน 300 เล่มไปเผยแพร่ด้วย คนไทยที่นับถือศาสนาพุทธในสหรัฐอเมริกานั้นใช้ปัญญาไตร่ตรอง ไม่ใช่เชื่อ ด้วยคำโฆษณาชวนเชื่อ
ส่วนกรณ ีการโอนที่ดินคืนให้วัดนั้น พระมหาธวัชชัยกล่าวว่า เป็นเรื่องที่กระทำได้ง่ายหากมีความบริสุทธิ์ใจ เพราะการถือ ครองที่ดิน ในนามบุคคลนั้น ไม่สมควร กระทำถึงแม้จะไม่สึกออกไปก็ตาม หากเกิดเหตุด่วน ให้พระรูปนั้น มรณภาพไปก่อน ที่จะโอนจะเกิดปัญหา ได้ภายหลัง อาจจะมีการ ทวงสิทธิ์กันตามกฎหมาย
ที่วัดบวรนิเวศ บ่ายวันเดียวกันพระสะท้าน จิตตวโร ผู้สนองงานสมเด็จพระสังฆราช เปิดเผยว่าในวันที่ 9 มิ.ย.ตั้งแต่เวลา 7.00 น.สมเด็จ พระสังฆราช จะทรงเปิดโอกาส ให้ประชาชน ที่เดินทางมา ถวายสักการะ ได้มีโอกาสเข้าเฝ้า พระองค์เป็นครั้งแรก ในช่วงเช้าถือ เป็นการเข้าเฝ้า แบบไม่เป็นทางการ เวลา 14.00 น.ที่ตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศ มีการประชุม คณะกรรมการ มหาเถรสมาคม มีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ)วัดสระเกศ เป็นประธาน และไม่มีการ นำเรื่อง วัดพระธรรมกาย เข้ามาหารือ มีการพิจารณา เฉพาะเรื่องที่ดิน ธรณีสงฆ์และการเช่าคลื่นวิทยุเท่านั้น.