page4

เดลินิวส์ 27/4/2542

มหาเถรฯยอมตามพระลิขิต'สังฆราช'

มหาเถรฯ ยอมตามพระลิขิต สมเด็จพระสังฆราชแล้ว ลงมติพระถือครองที่ดินต้องโอนให้วัด หลังจาก"ธัมมชโย" ท้าทายประมุขสงฆ ์ไม่ยอมโอนที่ดินให้วัด รอรับรองมติอีกครั้งก็ประกาศใช้ได้ "อาคม" บุกพบ ถามชัด ๆ จะโอนหรือไม่โอน อาจารย์มหาจุฬาฯ ไม่เลิกถอน ปริญญาเอกเจ้าอาวาสวัดฉาว จี้ให้เชิญ "ธรรมกิตติวงศ์" พระเถระระดับสูงที่แนบแน่น กับธรรมกาย ลาออกจากสภามหาวิทยาลัย ป้องกันถูกครอบงำความคิด พร้อมกับ ทบทวนเรื่องถอดถอนอีกครั้ง

เมื่อวันที่ 26 เม.ย. เวลา 14.00 น. ที่ตำหนัก เพชร วัดบวรนิเวศ มีการประชุมมหาเถรสมาคม เพื่อพิจารณา ปัญหาวัดพระธรรมกาย ซึ่งสมเด็จพระสังฆราช ทรงมีพระลิขิตไว้ 2 ประการคือ 1.การบิดเบือนพระธรรมคำสอน ทำให้สงฆ์หลงเชื่อ แตกแยกเป็นสอง เป็นการทำลายพระพุทธศาสนา ทำสงฆ์ให้แตกแยก เป็นอนันตริยกรรม ต้องได้รับโทษปัจจุบัน และอนาคตที่หนัก และ 2.การถือครองที่ดินของพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธัมมชโย) เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ที่มิใช่การลงโทษ แต่เป็นการกระทำที่ถูกต้อง คือต้องมอบสมบัติทั้งหมดขณะเป็นพระให้วัดให้วัดทันที และปรากฏว่า ทำท่าจะไม่ยอมโอนที่ดิน ที่พระไชยบูลย์ถือครองนับพันไร่ให้วัด และมีการระบุว่าไม่มีเงินค่าโอน มหาเถรฯ ไม่เคยมีคำสั่งเรื่องนี้ รวมถึง ควรจะตรวจสอบวัดอื่นด้วย ไม่ใช่เฉพาะวัดพระธรรมกายเท่านั้น

นายพิภพ กาญจนะ อธิบดีกรมการศานาเปิดเผยภายหลังการประชุมที่ใช้เวลา 3 ชั่วโมง ว่าวันนี้ กรมการศาสนา เสนอคำแนะนำ เรื่องกรรม สิทธิ์ที่ดินของวัดต่าง ๆ แต่ว่ายังไม่มีลงมติถึงขั้นรับรอง คำแนะนำดังกล่าวคือ การบริจาคที่ดินให้วัดต้องทำโดยเร็ว เจ้าอาวาส หรือพระรับไว้ก็ต้องโอนให้วัด

กรมการศาสนายังรายงาน ผลคืบหน้า การจัดงานตอบปัญหาธรรมะของวัดพระธรรมกายเมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งมีพระ เณร ประชาชนมาเป็นจำนวนมาก นายพิภพกล่าวว่าในวันนั้นตนได้เข้าพบพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ด้วย และนำเอาข้อสอบไปมอบให้พระพรหมโมลี ซึ่งวิเคราะห์ แล้วไม่ผิดเพี้ยน รวมถึง ยังรายงานเรื่องที่ดินที่พระไชยบูลย์ โดยวัดบอกว่า การโอนที่ดินใช้เงินมาก และจะโอนเมื่อมีเงินค่าโอน บางแปลง เป็นที่ดิน ใช้ประโยชน์ได้บางแปลงใช้ประโยชน์ไม่ได้ วัดจะตั้งกรรมการ พิจารณาโอนเป็นแปลง ๆ ไป และสาเหตุ ที่ที่ดินเป็นชื่อเจ้าอาวาส เพราะต้องการสนองเจตนาของผู้บริจาค แต่ทางปฏิบัต ิเจ้าอาวาสตั้งใจ โอนให้วัดอยู่แล้ว

"ส่วนตัวผม ถวายความเห็นกับพระพรหมโมลีว่าเรื่องที่ดิน หากเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายพร้อมโอนจะ ลดกระแสสังคมได้มาก และผมกับรมช.อาคม เอ่งฉ้วน จะไปพบเจ้าอาวาสวัดพระธรรม กายเพื่อพูดเรื่องนี้ "

ผู้สื่อข่าว รายงานด้วยว่า บริเวณทางเข้าออกตำหนักเพชร กลุ่มธรรมาประชาธิปไตย นำโดยนายปราจิณ ฐานังกูร นำโต๊ะหมู่บูชามาตั้งที่ประตูรั้ว ซึ่งมีกระโถนและมีธูปเทียนปักอย่างละดอก เหนือขึ้นไป มีรูปพระไชยบูลย์ แม่ชีจันทร์ และมีคำภาษาบาลีเขียนแปลได้ว่าว่า ธัมมชโยเป็นที่พึ่งอันสูงสุด และมีป้ายติดข้าง ๆ ว่าฝ่ายภิกษุบริษัทเก่งจังเลยสามารถทำให ้ประชาชนเบื่อศาสนาพุทธได้ ควรปรับตัวใหม่ได้แล้ว ครั้งที่แล้วยันตระมีเมีย ตัดสินไม่เสร็จ ครั้งนี้ธัมมชโย อวดอุตริฯ ตัดสินแบบคลุมเครือ พิจารณาตัวองได้แล้วครับ หากมหาเถรฯยึดธัมชโยเป็นที่พึ่งที่ระลึกก็ ทำต่อไป ถ้าเอาพระพุทธเจ้า พระพุทธศานา ก็ให้กลับตัวเสียใหม่ทุกคน พร้อมอภัยให้ โต๊ะหมู่บูชารูปพระไชยบูลย์นี้ ได้รับความสนใจ จากประชาชน มีพระ เณร ไปชวนเพื่อนมาดู

นายอาคม เอ่งฉ้วน รมช.ศึกษาธิการ เปิด เผยว่าตนได้รับรายงานจากอธิบดีกรมการศาสนาว่า กรมเสนอเรื่อง การถือครองที่ดิน ขณะเป็นพระ โดยประมวลรายละเอียดต่าง ๆ เสนอไม่เฉพาะกรณีธรรมกาย แต่เป็นการแก้ปัญหาทั้งประเทศ โดยที่ประชุมมหาเถรฯเห็นชอบ และมีมติว่า 1.การบริจาคที่ดินเป็นของวัด เมื่อวัดได้รับ จากญาติโยม ต้องโอนเป็นของวัดโดยเร็ว และ 2. เจ้าอาวาส กรรมการวัด หรือภิกษุรูปใด ต้องไม่ถือกรรมสิทธิ์ที่ดิน ซึ่งญาติโยมให้ไว้เป็นของส่วนตัว หากได้รับต้องเร่งโอน ให้วัดโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม มติครั้งนี้ยังไม่มีผลบังคับใช้ เพราะต้องรอรับรองรายงานการประชุมในวาระหน้า ก่อนจะออกประกาศแถลง การณ์คณะสงฆ์ และสมเด็จพระสังฆราชลงนาม จึงจะเป็นข้อบังคับ หากออกมาแล้ว จะมีผลครอบ คลุม ทั่วประเทศ ไม่เฉพาะวัดพระธรรมกาย

"ที่ผ่านมา การบริจาคที่ดินให้วัดมีปัญหา ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวง มหาดไทยก่อน ตามมาตรา 84 ของประมวลกฎหมายที่ดิน แม้จะเสียค่าธรรมเนียเพียง 0.01% ทำให้ญาติโยม ที่จะบริจาคที่ดิน ให้วัดเลี่ยงโอนให้เจ้าอาวาส กรรมการวัดแทนไปก่อน เพราะแม้เสียค่าธรรมเนียม 2% ก็ดำเนินการได้เลย จึงทำให้ที่ดินวัดจำนวนมาก ติดอยู่ กับผู้ดูแลผลประโยชน์ของวัด"

นายอาคม กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า ตนจะเดินทางไปพบพระไชยบูลย์ เพื่อสอบถามเรื่องการโอนที่ดินด้วย และจะเป็น ผู้ประสานงาน เรื่องการโอนที่ดินให้วัด

นายชัชวาล ปุญปัน อาจารย์พิเศษ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ ซึ่งเป็นแกนนำ ในการผลักดันถอดถอน ปริญญาเอก ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาพุทธศาสตร์ ที่ มหาจุฬาฯ มอบให้พระไชยบูลย์ กล่าวว่าการที่สภามหาจุฬาฯ ประชุม และมีมติไม่สามารถถอดถอน ปริญญา พระไชยบูลย์ เพราะกฎหมายการจัดตั้งมหาจุฬาฯไม่ได้กำหนดไว้นั้น ควรจะมีการทบทวน เรื่องนี้ใหม่ โดยให้คณะกรรมการ กฤษฎีตีความ สภามหาวิทยาลัยมีอำนาจในการถอดถอนปริญญาหรือไม่

นอกจากนั้น ยังเสนอให้ สภามหาวิทยาลัยฯ มีมติยกเลิกมติที่ประชุมครั้งที่ 10/92536 ที่เป็นการพิจารณา อนุมัติปริญญา ให้พระไชยบูลย์�โดยถ้ายกเลิกมติดังกล่าวก็เท่ากับเป็นการยกเลิกการอนุมัติปริญญาโดยปริยาย และเป็นอำนาจของ สภามหาวิทยาลัยอยู่แล้ว ส่วนที่มีการอ้างว่าไม่มีประเพณีการถอดถอนปริญญาเอก ในมหาวิทยาลัยสงฆ์ ขอแย้งว่าที่ผ่านมา ยังไม่มีใครเคยมีพฤติกรรมเหมือนพระไชยบูลย์ หากเคยม ีและไม่ได้ถอน ขอให้สภามหาวิทยาลัย ยกตัวอย่างด้วย และที่อ้างไม่มีประเพณี การถอนปริญญา ในมหาวิทยาลัย ทางโลกเช่นกัน ก็ถือเป็นข้อด้อย ของมหาวิทยาลัยทางโลก แต่ทางสงฆ์ควรเป็นผู้นำ ด้านความถูกต้อง และควรทำอย่างยิ่ง

นายชัชวาลกล่าวอีกว่า เพื่อให้มหาวิทยาลัยสงฆ์ มีความเป็นอิสระทางวิชาการ ไม่ติดขัดกับอำนาจครอบงำ ในกรณีวัดพระธรรมกาย ควรเชิญบุคคลต่าง ๆ ในกรรมการสภาฯที่มีส่วนพัวพันเกี่ยว ข้องกับวัดพระธรรมกาย ดังที่สังคมทราบด ีเช่นพระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ออกจากการเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยเสีย หรือหาก พระธรรมกิตติวงศ์เห็นว่า โดยมารยาทควรลา ออกไปด้วยตัวเองก็จะทำให้สังคม ไม่เคลือบ แคลงต่อ อำนาจการตัดสินใจใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับมหาวิทยาลัย.

ม.ล.จิตติ นพวงศ์ ลูกศิษย์ใกล้ชิดสมเด็จพระสังฆราช "ห้องกระจก" เปิดเผยว่า ศิษย์สมเด็จพระสังฆราช ได้ติดตามฟังรายการ "ธรรมะร่วมสมัย" ของศิษย์เก่ามหาจุฬาฯที่กล่าวถึงปัญหาธรรมกาย และการพิมพ์หนังสือ "กรณีธรรมกาย" ของพระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตโต) โดยศิษย์ห้องกระจก จะนำเงินจำนวน 20,000 บาท ไปมอบ เพื่อเข้าร่วมกองทุนพระธรรมปิฎก เพื่อจัดพิมพ์หนังสือเล่มดังกล่าว และเมื่อ สมเด็จพระสังฆราช ทราบเรื่อง ทรงรับสั่งให้ลูกศิษย์นำเงินจำนวน 200,000 บาท ประทานเข้ากองทุนด้วย

นอกจากนั้นยังมีรายงานข่าวว่า คณะของรายการธรรมะร่วมสมัย ก็ได้รายงานให้พระธรรมปิฎก ทราบถึงการประทานเงิน ของสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งเรื่องนี้พระธรรมปิฎกกล่าวว่า หากหายป่วยดีแล้ว หรืออาการทุเลาลง ก็จะเดินทางไปเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช เพื่อกราบขอบพระคุณ และจะนำเรียนหารือ พูดคุยหาทางออก เกี่ยวกับสถานการณ์ ของพระพุทธศาสนา ที่กำลังวิกฤติอยู่ในขณะนี้ด้วย.