หนังสือพิมพ์ต่างประเทศประโคมข่าว วัดพระธรรมกายกระหึ่มวิพากษ์สุดสลด เป็นพ่อค้าขายปิรามิดมากกว่านักบวชที่แสวงหาธรรม แถมแจกแจงความผิดละเอียดยิบวิธีขายบุญประชาชน "ตูมตาม" ตีบทแตก ป้องมติมหาเถรฯ เต็มตัว อ้างต้องการประนีประนอมมากกว่าแตกหัก ยืนยันจะเร่งดำเนินการวัดฉาวตามมติมหาเถรฯ โดยเร็ว เคาะกะลารอบสอง 5 เม.ย. ต้องมีคำตัดสินวัดฉาวผิดอีก

นายอาคม เอ่งฉ้วน รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยถึงความคืบหน้า กรณีการดำเนินการกับวัดพระธรรมกาย ตามมติของมหาเถรสมาคมว่า การที่มหาเถรฯมีมติออกมาใน 4 ประเด็นนั้นถือว่า เป็นคำสั่งให้ทางวัดต้องปฏิบัติตาม ยิ่งไปกว่านั้นมติดังกล่าวยังมอบหมายให้พระพรหมโมลี เจ้าอาวาสวัดยานนาวาและเจ้าคณะภาค 1 เป็นผู้ควบคุมดูแลให้วัดปฏิบัติตามมติดังกล่าวอีกด้วย การที่ประชาชนไม่เข้าใจมองว่ามหาเถรฯไม่กล้าที่จะดำเนินการ ใด ๆ กับวัดพระธรรมกายนั้น โดยส่วนตัวคิดว่ามหาเถรฯต้องการยึดหลักประนีประนอมมากกว่า

ส่วนการที่มหาเถรฯ ไม่ได้กำหนดเรื่องเงื่อนเวลาไว้นั้น ต้องเข้าใจว่ามติของมหาเถรฯไม่เหมือนคำพิพากษาของศาลที่มีผลในทันที แต่การไม่ได้กำหนดเวลา ก็ไม่ใช่ว่าไม่ต้องทำหรือละเลยไปได้ ซึ่งเรื่องนี้ได้ถามพระพรหมโมลีแล้ว และได้รับคำตอบว่า ได้เคยพูดกับวัดพระธรรมกายไปแล้วว่าจะดำเนินการตามมติให้เสร็จเมื่อใด ทางวัดก็ขอผ่อนปรนจากเจ้าอาวาส เช่นการให้จัดตั้งสำนักอภิธรรม ทางเจ้าอาวาสก็ต่อรองว่าช่วงเวลานี้รายได้ของวัดไม่ดี

"เจ้าอาวาสบอกว่าคนมาทำบุญน้อยขอผ่อนปรนไปสักระยะหนึ่งก่อน อย่างไรก็ตาม ผมเห็นว่า เรื่องที่วัดสามารถปฏิบัติได้อย่างทันทีก็คือเรื่องการโอนที่ดินให้มาเป็นชื่อของวัด ส่วนนี้จะให้เวลากับวัด 30 วัน หากครบกำหนดแล้วยังไม่ได้ดำเนินการ ก็จะเร่งรัดพระพรหมโมลีอีกครั้ง สำหรับเรื่องอื่น ๆ นั้นต้องมติมหาเถรฯในวันที่ 5 เม.ย.นี้"

นายกมล ศรีนอก เลขาธิการสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และพิธีกรรายการวิทยุ
ธรรมะร่วมสมัย กล่าวว่า หลังมหาเถรฯมีมติออกมา ต้องยอมรับว่า มีกระแสความไม่พอใจกับการตัดสินเป็นจำนวนมาก
ได้โทรศัพท์เข้ามาในรายการ ทั้งหน้าไมค์หลังไมค์คือพูดในทำนองเดียวกันว่า เหมือนไม่ได้ตัดสินอะไรเลย ไม่มีการชี้ถูกชี้ผิดทั้งที่เห็นกันอยู่ว่าผิดชัดเจนในหลายประเด็น บางคนท้อใจและมีการต่อว่าต่อขานกับพระสงฆ์ในยุคปัจจุบัน บ้างก็ว่าพระผู้ใหญ่ยังหลงใหลกับลาภยศ สรรเสริญ บ้างก็ว่าองค์กรสูงสุดของพระสงฆ์ไม่มีประสิทธิภาพ บ้างก็ว่าถูกล็อบบี้รับปัจจัยทิ้งพระศาสนาต่าง ๆ นานา "ผมและทีมงานรับโทรศัพท์กันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีข่าวเสนอตามหน้าหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับการลงชื่อถวายฎีกา ได้มีพระสงฆ์และสามเณรจำนวนมากในหลายจังหวัดโทรศัพท์เข้ามาถามว่า จะให้มีการลงชื่อเมื่อไร ยังไงบ้าง พระ-สามเณรพร้อมที่ร่วมด้วยเต็มที่ เนื่องจากเห็นความไม่ชอบมาพากล หรือความไม่ถูกต้องของผู้ที่เป็นพระผู้ใหญ่ บางรูปยังบอกว่าเมื่อพึ่งองค์กรสูงสุดพระสงฆ์ไม่ได้แล้วก็ต้องพึ่งตัวเอง และถึงเวลาแล้วที่พระเณรและฆราวาสต้องช่วยกันปกป้องรักษาพระพุทธศาสนา เมื่อภัยร้ายกล้ำกรายเข้ามา เป็นของเราทุกคนมิใช่ของมหาเถรสมาคมเพียงผู้เดียว"

นายกมลกล่าวด้วยว่า รู้สึกดีใจที่ชาวพุทธตื่นตัวและได้เห็นความสามัคคีในเรื่องนี้อย่างมาก เป็นเครื่องชี้ให้เห็นว่าศาสนาพุทธยังศักดิ์สิทธิ์อยู่ อีกอย่างคือการเผยแพร่ข่าว ในกรณีปัญหาวัดพระธรรมกายทำให้มีผู้ที่หลงทางกลับใจหันกลับมาเดินทางที่ถูกต้อง หรือที่กำลังจะก้าวเข้าไปถอยกลับมาทัน มีจำนวนมากที่ได้คิดและมองอย่างมีเหตุผล มีนักศึกษาจำนวนไม่น้อยที่มาเปิดใจพร้อมกับเล่าเรื่องช่วงที่หลงผิดให้ฟัง จึงได้รู้พฤติกรรมการฝังหัวนักศึกษาว่าเป็นอย่างไร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนังสือพิมพ์ใหญ่หลายฉบับที่มีบทบาทต่อแนวคิดของประชาชน เสนอข่าวโจมตีพร้อมตั้งข้อสังเกตคณะสงฆ์ในวัดพระธรรมกาย เช่น นิวซีแลนด์ เฮอร์รัลด์ (Newzeland Herald) ระบุว่า พระสงฆ์ในวัดฯกำลังได้ชื่อว่า เป็นเหมือนกลุ่มพ่อค้าขายพีระมิดมากกว่านักบวชที่แสวงหาธรรม ทิ้งการปฏิบัติ ธรรมมาสู่การเรี่ยไรเงิน โดยอ้างว่า ดวงอาทิตย์กลายเป็นรูปพระทองคำในระหว่างที่มีผู้เลื่อมใสราว 20,000 คน กำลังนั่งวิปัสสนาอยู่ที่หน้ามหาธรรมกายเจดีย์ ที่มีลักษณะคล้ายจานบินมากกว่าสถานที่ปฏิบัติธรรม

นอกจากนี้ ยังได้ประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ผ่านทางสื่อ และโปสเตอร์ทำให้ได้เงินมหาศาล ทางตำรวจ กรมการศาสนากำลังสืบสวนในคดีฉ้อโกง การทำธุรกิจและการบิดเบือนคำสอนของพระ พุทธศาสนา ซึ่งผู้ที่ถูกเพ่งเล็งคือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาส ที่มีกลเม็ดต่าง ๆ ในการโน้มน้าวจิตใจ อ้างว่ามีอำนาจจิตและสามารถทำนายอนาคตได้

"การบิณฑบาตก็ไม่เหมือนกับวัดอื่น ๆ แต่กลับมีการให้สั่งอาหารจีนมาฉันวันละ 2 มื้อ พร้อมทั้งมีการชักชวนให้มีการบริจาคสร้างพระพุทธรูปจำนวน 1,000,000 องค์ในสนนราคา 10,000-30,000 บาท โดยการสนับสนุนให้ลูกศิษย์ใช้วิธีการตลาดขายบุญ ซึ่งจะช่วยให้ได้บุญมากและเมื่อตายไปก็จะไปเกิดในภพที่ดีขึ้น ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์กันรุนแรงว่า นำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาทำการค้า ทำให้มีผู้ค้าธรรมะอาศัยพีระมิดมาเป็นศาสนา และได้มีการประชุมกันหลายหน่วยงานเช่น สภาความมั่นคงฯ ทหาร สำนักข่าวกรอง และตำรวจ เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลที่มี ขณะที่กิจกรรมของเจ้าอาวาสยังเป็นเรื่องที่ลึกลับ ทั้งเรื่องของพื้นที่วัดพระธรรมกายทางเจ้าหน้าที่ของรัฐ ก็ไม่สามารถเข้าได้ถึง.