เดลินิวส์ 3/3/2542

พบปิกอัพแดงบึ้ม'ราชบัณฑิต' นักโฆษณาสาวโต้ลั่นยุ่งธรรมกาย

"ชวน"สั่งคุ้มกัน"พระธรรมปิฎก"รวมถึงบุคคลที่ตกอยู่ในข่ายใบสั่งถูก"ร่วมกันฆ่าทิ้ง" 12 คน ฐานต่อต้านธรรมกาย จี้รายงานปัญหาวัดฉาวทุกสัปดาห์ พบปิกอัพสีแดงต้องสงสัยระเบิดบ้าน"เสฐียรพงษ์"ห้อตะบึงหนี เจ้าคณะภาค1ขีดเส้นตายมี.ค.นี้ชี้ขาดแน่ ระบุ"ธัมมชโย"ถูกขู่ฆ่าเหมือนกัน แถมยังท้อแท้เงินบริจาคหดกว่าครึ่งขาดอีก 5 พันล้านสร้างเจดีย์ไม่ได้ นักโฆษณาสาว"เมตตา สุวชิตวงศ์"ออกโรงโต้ลั่นถูกป้ายสีตกเป็นข่าวพัวพันเจ้าอาวาส
โวยใครทำต้องเป็นพวกเขียนหนังสือปกขาว ธรรมกายวางแผนจัดงานช้างฉลองแฮปปี้เบิร์ทเดย์ 55 ปี พระไชยบูลย์ ดูดคนมาบวชให้เป็นของขวัญ

ส่วนที่มีใบปลิวที่มีการข่มขู่คน 12 คน ซึ่งมีนายเสฐียรพงษ์และนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ด้วยนั้นนายอาคมกล่าวว่ายังไม่เห็น ที่ธรรมกายอ้างว่าเป็นพวกรับเงินทำลายศาสนา จะมาอ้างลอย ๆ ไม่ได้ ตนค่อนข้างจะพอใจทั้งนายเสฐียรพงษ์และนายเจิมศักดิ์ รวมไปถึงพระพยอม กัลยาโณ รวมถึงพระธรรมปิฎก ที่ออกมาในที่แจ้ง ดีกว่าพวกที่อยู่ในที่มืดและเผารถคนอื่นถือเป็นอันตราย บุคคลที่กล่าวถึงมานี้ก็ไม่เห็นว่าจะ
ไปรับเงินจากไหน ส่วนใหญ่ทำกิจกรรมปกป้องศาสนามามาก น่าให้การสนับสนุนมากกว่า ส่วนคนออกใบปลิวจิตไม่ปกติ ไม่กล้าแสดงตัว

สำหรับกรณีที่สำนักข่าวกรอง ระบุว่าพระไชยบูลย์พัวพันสีกา นายอาคมกล่าวว่าถ้ามีหลัก ฐานจะตรวจสอบให้ทั้งนั้น เรื่องนี้ไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการ จะนำมาเป็นหลักฐานไม่ได้ เพราะเป็นข้อมูลที่สำนักข่าวกรองฟังแล้ว
ประเมินสถานการณ์ว่าจะเป็นอย่างนั้น ถ้าเป็นจริงควรรายงานตามขั้นตอนถึงรองนายกรัฐมนตรีที่ดูแล ถ้าผิดกฎหมายดำเนินคดีได้ทันที โดยปัญหาวัดพระธรรมกาย นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีแสดงความห่วงใยมาตลอด โดยสอบถามอย่างสม่ำเสมอ เมื่อ 2-3 วันก่อนก็โทรศัพท์มาให้เร่งดำเนินการหาข้อเท็จจริงตลอด

นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การที่บ้านนายเสฐียรพงษ์ ถูกปาระเบิดและมีการแจกใบปลิวข่มขู่
พระผู้ใหญ่เนื่องจากไปวิจารณ์วัดพระธรรมกายนั้น ตนได้กำชับสั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในท้องที่ให้ดูแลความเรียบร้อย และไม่น่าจะมีอะไร เพราะพระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตโต) เป็นพระที่มีความเห็นเป็นกลาง ตามหลักศาสนา ไม่ได้มีความก้าวร้าว
ถึงแม้คนที่ไม่ห็นด้วยคงให้ความเคารพจึงไม่น่าจะมีปัญหา

การสอบสวนปัญหาวัดพระธรรมกายนายชวนกล่าวว่า ต้องให้เกียรติมหาเถรสมาคมที่ต้องพิจารณาด้วย
ความสุขุมรอบคอบไม่ใช่พิจารณาตามกระแส ต้องใช้เหตุผล เพียงแต่อาจไม่ทันใจบ้าง และได้มีการกำชับกระทรวงศึกษาธิการรวบ รวมเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ประสานกับมหาเถรสมาคมเท่าที่จะทำได้ และให้รายงานตนทุกสัปดาห์ เมื่อผลออกมาเชื่อว่าทุกฝ่ายจะยอมรับได้

สำหรับผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการการศาสนาฯ เกี่ยวกับวัดพระธรรมกายนั้น โดยหลักแล้วไม่ถูกต้องที่จะฟัง
ผลสรุปของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพียงฝ่ายเดียว ดังนั้นมหาเถรสมาคมจึงเป็นหน่วยงานที่ต้องรวบรวมและพิจารณาข้อเท็จจริง หลังจากที่ได้เรื่องก็สามารถประสานข้อมูลกันได้

ที่ท่าอากาศยานกรุงเทพ เมื่อเวลา 11.40 น. พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเดียวกัน ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รายงานให้ทราบแล้ว ยังไม่ทราบสาเหตุแต่ได้สั่งให้หาสาเหตุ
และตามจับมาให้ได้ เพราะเป็นเรื่องสำคัญ การโยนระเบิดเพลิงเข้าไปในบ้านถือเป็นอันตรายอย่างมาก นอกจากนี้ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลบุคคล อื่น ๆ ที่คาดว่าจะเกิดเรื่องทำนองนี้ขึ้นอีก

พล.ต.สนั่นกล่าวว่ากระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการอย่างไรกับวัดพระธรรมกายไม่ได้ เพราะยังไม่มีคนแจ้งความดำเนินคดี การจะไปจับใครหรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งก็ต่อเมื่อมีโจทก์มาแจ้งความ และทางกระทรวงศึกษาธิการก็ยังไม่ได้แจ้งความกับวัดพระธรรมกายแต่อย่างใด อย่างไร ก็ตามหากปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ทางกระทรวงมหาดไทยจะไม่นิ่งนอนใจจะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งแน่นอน

ส่วนความคืบหน้าในการคลี่คลายคดี คนร้ายลอบปาระเบิดเพลิงใส่บ้านนายเสฐียรพงษ์ วรรณปก นั้น เมื่อเช้าวันที่ 2 มี.ค. พ.ต.อ.นราสุข หาสุณหะ ผกก.สภ.อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เปิด เผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งหาข่าวอย่างหนัก มีพยานที่กำลังเล่นสนุ้กเกอร์อยู่หน้าหมู่บ้านสมชายให้การว่าระหว่างเกิดเหตุเห็นรถปิกอัพสีแดง จำยี่ห้อและทะเบียนไม่ได้ วิ่งออกจากหมู่บ้านทางซอย 2 อย่างรวดเร็วหลบหนีไปทางสะพานพระราม 7

ขณะที่ พ.ต.ต.อาคม พิพัฒน์เดชพงษ์ สว.สส. สภ.อ.บางกรวย ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกหาข่าวตามปั๊มน้ำมันทุกแห่งในรัศมีรอบ 10 ก.ม. บรรดาเจ้าของปั๊มน้ำมันทุกแห่งต่างยืนยันว่าไม่มีใครมาซื้อน้ำมันใส่แกลลอนขนาด 5 ลิตรแต่อย่างใด เพียงแต่มีหญิงสาวคนหนึ่งนำถังแกลลอนน้ำมันเครื่องมาขอซื้อน้ำมันเบนซิน แต่เป็นถังสีเขียว ซึ่งต่างจากคนร้ายที่ใช้ถังน้ำมันเครื่องสีดำ อย่างไรก็ตามยังไม่ทิ้งประเด็นนี้ ซึ่งจะได้สอบปาก คำเจ้าของปั๊มอย่างละเอียดเพื่อตรวจสอบหาหญิงคนดังกล่าวว่าจะเกี่ยวพันกันหรือไม่ ส่วนบรรยา กาศภายในบ้านของนายเสฐียรพงษ์ บริเวณหมู่ บ้านสมชายได้มีรถสายตรวจท้องที่วิ่งตรวจตราผ่านมาเป็นระยะทุก ๆ ครึ่งชั่วโมง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวัดพระธรรมกายวาง แผนการใหญ่อีกครั้ง ในการระดมคนเข้ามาแสดงพลัง โดยจะกำหนดให้เป็นวันที่ 22 เมษายน ซึ่งตรงกับวันเกิดปีที่ 55 ของพระไชยบูลย์ ธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย โครงการสำคัญที่วางไว้เรียกว่า "55 ปี พระราชภาวนาวิสุทธิ์" โดยจะเกณฑ์คนให้เข้ามาบวชเป็นของขวัญให้กับพระไชยบูลย์ วัดพระธรรมกายเปิดรับสมัคร คนที่จะเข้ามาบวช โดยจะต้องเป็นชายที่จบการศึกษาแล้ว และต้องอบรมธรรมทายาทแล้วหรือไม่ ก็ต้องมีกัลยาณมิตรรับรอง โดยระยะเวลาของโครงการกำหนดไว้ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม ถึงวันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม จะเปิดรับสมัครจนถึงวันเสาร์ที่ 13 มีนาคมนี้ และจะมีการสัมภาษณ์บุคคลที่จะมาบวชในวันเดียวกันเวลา 13.00 น. จากนั้นจะเป็นการบวชในวันที่ 3 เมษายน

ในวันดังกล่าว วัดยังได้ประกาศเชิญชวน ให้คนมาบริจาคเงินคนละ 500 บาท เพื่อให้กับพระเณร เป็นทุนในการเรียนด้านพระปริยัติธรรมด้วย โดยก่อนหน้านี้พระไชยบูลย์เคยประกาศจะบริจาคเงินให้พระเณร 5 หมื่นรูป โดยให้รูปละ 1,000 บาท และให้ค่าเดินทางมารับทุนที่วัดอีกรูปละ 500 บาทด้วย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 75 ล้านบาท แต่ถูกต่อต้านจากพระเณรจำนวนมาก เนื่องจากการมารับทุนจะเท่ากับเป็นการมาสร้างภาพให้วัดที่กำลังมีปัญหา สุดท้ายพระไชยบูลย์ก็ถึงกับประกาศขอเงินบริจาคกับสานุศิษย์ให้กับพระเณรเหล่านี้

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานถึงผลสรุปของคณะกรรมาธิการการศาสนาเกี่ยวกับสีกาที่มาพัวพันกับพระไชยบูลย์ว่า มีเจ้าของบริษัทโฆษณามีชื่อแห่งหนึ่งแถวซอยทองหล่อ สุขุมวิท 55 เริ่มเข้าวัดปี 2528 เป็นผู้ที่เจ้าอาวาสให้ความใกล้ชิดเป็นพิเศษ บทบาทสำคัญของสีกาคนนี้คือเป็นผู้คิดงานโฆษณาชุดปาฏิหาริย์ตะวันแก้ว รวมถึงมีหน้าที่แก้ข่าว ปฎิเสธถึงการมีส่วนรู้เห็นของเจ้าอาวาสในงานโฆษณาชุดดังกล่าวนั้น

นางเมตตา สุวชิตวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทดีเอ็มแอนด์เอส กล่าวว่าตนเป็นผู้ที่ทำโฆษณาชุดนี้ให้กับวัดพระธรรมกาย และการที่ตนตกเป็นข่าวก็ไม่คิดอะไรเพราะบริสุทธิ์ใจ แต่คิดอยู่ว่าทำไมเอาตนเข้าไปพัวพัน และมีคนพยายามจะสร้างเรื่องขึ้นมา

"ความจริงมันก็คือความจริงวันยังค่ำ เรื่องที่เกิดขึ้นนี้มีอยู่ 3 ประเด็นคือ 1.บิดเบือน 2.หลอกลวง 3.สร้างข่าว ตัวดิฉันเองเป็นบริษัทโฆษณา หนังสือพิมพ์สื่อทุกชนิดก็รู้จัก เปิดเผยตัวอยู่แล้ว ไม่ได้ปิดอะไร ไม่เคยทำร้ายสื่อ คนที่เขียนเรื่องแบบนั้นต้องเขียนหนังสือปกขาวแน่เพราะมันทุเรศ" นางเมตตา กล่าวว่า การคิดโฆษณาวันอัศจรรย์ตะวันแก้ว ตนเคยให้สัมภาษณ์รายการ"ถอดรหัส" ไปแล้วไม่ได้มีอะไรปกปิด เรื่องที่เกิดขึ้นถือว่าถูกใส่ร้าย ทำให้คนไขว้เขว และจะเป็น "นารีพิฆาต" ได้อย่างไร ในเมื่อนารีพิฆาตนั้นคนที่เป็นต้องออกมาพูดว่าอย่างนั้นอย่างนี้ ออกมาใส่ร้าย แต่ตนเปล่าเลย มีแต่คนอื่นเขียนใส่ร้าย

"อย่างไรเสียดิฉันก็นับถือพระอยู่ เอาพระมาว่าอย่างนั้นบาปกินหัว ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดและอยากทราบรายชื่อของคณะกรรมาธิการศาสนาว่ามีใครบ้าง ใครเป็นคนส่งเรื่องนี้เข้าไป เพราะไม่เป็นความจริงเลย เรื่องนี้ดิฉันจะสืบให้ได้"

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มว่าเมื่อเวลา 18.00 น. นายอาคม เข้าพบพระพรหมโมลี ที่วัดยานนาวา เพื่อเร่งรัดการแก้ปัญหาวัดพระธรรมกาย โดยใช้เวลาเข้าพบ 1 ชั่วโมง นายอาคมกล่าวว่าการหารือครั้งนี้พระพรมโมลี ต้องการให้ประชาชนทราบว่า ท่านไม่ได้หวั่นวิตกในปัญหานี้ และกรณีที่มีการวิจารณ์ท่านไม่กล้าดำเนินการ ก็ขอชี้แจงว่ากำลังดำเนินการอยู่แต่ต้องใช้เวลานานเพราะมีเอกสารเป็นจำนวนมาก ทั้งที่เป็นเอกสารจากวัดพระธรรมกายที่ชี้แจงข้อมูลมาให้ และเอกสารจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย รวมถึงจากต่างประเทศ จากกระทรวงศึกษาธิการ และกรรมาธิการการศาสนา

"ท่านยืนยันว่าจะพิจารณาตามที่ได้รับมอบหมายจากมหาเถรสมาคมให้เกิดความถูกต้องและเป็นธรรมที่สุด ผมถามพระพรหมโมลีว่าระยะเวลา 2 เดือนเศษเพียงพอสำหรับการพิจารณาหรือไม่ ท่านบอกว่าจะพิจารณาให้เสร็จในเดือนมีนาคมนี้ หากประชาชนมีข้อมูลก็ไม่ต้องส่งมาแล้ว เพราะ ข้อมูลเริ่มซ้ำ"

นายอาคมยังกล่าวว่าพระพรหมโมลีเล่าให้ฟังด้วยว่าเมื่อมีข่าวการบวชสามเณรีของวัดพระ ธรรมกาย พระพรหมโมลีก็เดินทางไปที่วัดพระ ธรรมกาย กับพระเลขาฯ และได้สังเกตการณ์ที่วัดเป็นเวลา 1 ชั่วโมง จากนั้นได้พบกับพระไชยบูลย์เจ้าอาวาสและพระเผด็จ ทัตตชีโว รองเจ้าอาวาส ซึ่งสังเกตเห็นได้ชัดว่าทั้ง 2 รูป เริ่มวิตกและเป็นห่วงเกี่ยวกับเงินทำบุญของวัด ที่ลดไปประมาณ 50 % และเกรงว่า ศาลาปฏิบัติธรรม ที่จะใช้บรรจุคน 3 แสนคน รวมถึงธรรมกายเจดีย์จะไม่เสร็จตามกำหนดเวลา เพราะขณะนี้ยังขาดเงินใช้ในการก่อสร้าง 5,000 ล้านบาท ซึ่งเห็นได้ชัดว่าทั้ง 2 รูปเริ่มท้อแท้เหมือนกัน

สำหรับแนวทางที่พระพรหมโมลีวางไว้นายอาคมกล่าวว่าคือจะให้พระไชยบูลย์และพระเผด็จมา
พบและพูดคุยให้ปฏิบัติตามแนวทางที่พระพรหมโมลีตัดสิน โดยจะให้ลงชื่อเป็นลายลักษณ์อักษร และทำบันทึกถึงสมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม ในฐานะกลางที่ปกครองคณะสงฆ์มหานิกาย
ในเขตภาค 1 หากไม่มีการแก้ไขก็จะนำรายงานเสนอต่อมหาเถรสมาคมต่อไป แต่หากทางวัดไม่ปฏิบัติตามแนวทางที่พิจารณา พระพรหมโมลียืนยันจะดำเนินการในขั้นต่อไป
"ในวันนี้พระพรหมโมลี มอบหมายให้ผมรายงานต่อประชาชนแทนท่านว่าไม่เกินเดือนมี.ค.เรื่องจะยุติ ท่านไม่ได้เป็นห่วงหรือเกรงกลัว หรือเคยเป็นหนี้บุญคุณกับวัดพระธรรมกาย ท่านพิจารณาตามมติมหาเถรสมาคม การข่มขู่ที่เกิดขึ้นในขณะนี้พระพรหมโมลีก็เล่าว่าในวันที่ท่านไปตรวจวัดพระธรรมกาย พระไชยบูลย์ ก็ถูกโทรศัพท์ มาขู่ว่าห้ามออกจากวัด ถ้าออกมาจะตายบนถนน ถ้าอยู่ในวัดจะตายด้วยปืนเก็บเสียง เข้าใจว่าเป็นพวกแอบจิต ถ้าใครมีพฤติกรรมเช่นนี้อย่าทำ"

ทางด้านสำนักอุทยานโพธิสัตว์กวนอิม ใน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เปิดเป็นสำนักปฏิบัติธรรม ให้คนทั่วไปเข้าไปเป็นลูกศิษย์ ในสถานที่นั้นมีเนื้อที่หลายสิบไร่ ภายในบริเวณกลางลานมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมผิดแผกแปลกไปจากที่อื่น ๆ โดยเป็นรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมเหยียบจานบิน และมีมนุษย์ต่างดาวยืนอยู่รอบๆ พร้อมกับมีวิทยากรบรรยายเกี่ยวกับเรื่องของมนุษย์ต่างดาวว่ามาด้วยจานบินจากดาวศุกร์ แล้วถูกมนุษย์โลกยิงจานบินตกทำให้มนุษย์ต่างดาวจากดาวศุกร์ตาย 8 คน 1 ใน 8 นั้นเป็นลูกสาวของเจ้าดาวศุกร์ด้วย ทำให้ประชาชนที่เข้าไปเห็นเกรงว่าสำนักปฏิบัติธรรมนั้น เกรงจะเป็นการหลอกลวงชวนเชื่อไปในทางผิดหลักของพระพุทธศาสนา จนกระทรวงศึกษาธิการสั่งให้ผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบ ตามที่เคยเสนอข่าวไปนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมมาในวันที่ 2 มี.ค. ว่า พล.ต.ต.นริศ แก้วสวาท ผบก.ภ.เพชรบุรี เปิดเผยความคืบหน้าเรื่องนี้ว่า ขณะนี้ยังไม่มีใครมาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับสำนักอุทยานโพธิสัตว์กวนอิมแห่งนี้ แต่ทาง พล.ต.ท. บุญชัย ชื่นสุชน ผบช.ภ. 7 สั่งการให้ดำเนินการตามที่มีหนังสือมาจาก นายอาคม เอ่งฉ้วน รมช.กระทรวงศึกษาธิการ ให้ตรวจสอบอุทยานโพธิสัตว์กวนอิมใน อ.แก่งกระจาน ว่ามีการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้ามีการทำผิดกฎหมายให้ตำรวจดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และรายงานให้ทราบ พร้อมทั้งให้ตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องความมั่นคงแห่งชาติด้วย อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ทาง บก.ภ.เพชรบุรี สั่งการให้ พ.ต.ท.ชาลี สร้อยมุกดา รองผกก.หน.สภ.อ.แก่งกระจาน กับ พ.ต.ท.เพ็ญ กรุดพันธ์ สว.สส. ตรวจสอบสืบสวนไปแล้วมีการรายงานมาให้ทราบบางส่วน

สำหรับการตรวจสอบในเรื่องของความมั่นคงนั้น เราคงเพียงทำได้แค่รายงานให้สภาความมั่นคงแห่งชาติทราบเท่านั้น ส่วนการดำเนินคดีอุทยานโพธิสัตว์กวนอิม จะทำได้โดยประชาชนที่ไปเที่ยวมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษว่ามีการหลอกลวง เพื่ออามิสสินจ้าง หรือเพื่อเอาประโยชน์ หากมีความผิดฐานบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ กรมป่าไม้จะต้องเป็นเจ้าทุกข์เข้าแจ้ง ความ หรือถ้าทำความผิดด้านวัฒนธรรม กระทรวงศึกษาฯจะต้องเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ตำรวจถึงดำเนินการสอบสวนได้ แต่ในชั้นนี้ตำรวจคงยังทำอะไรไม่ได้

ด้าน นายสุรวงศ์ วัฒนกูล ประธานชมรมดำรงธรรม จ.เพชรบุรี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เท่าที่ดูสำนักอุทยานโพธิสัตว์กวนอิมเวลานี้ ผู้ที่จะต้องร้องทุกข์กล่าวโทษคือกระทรวงศึกษา เพราะมีการกระทำความผิดด้านวัฒนธรรมอย่างชัดเจน ทั้งยังทำกิจกรรมทางศาสนา และการสร้างพระพุทธรูปต่าง ๆ ผิดไปจากหลักพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอีกด้วย น่าจะเอาผิดกับสถานที่แห่งนี้ได้.