page4

เดลินิวส์ 28/2/2542

เร่งรัดเจ้าคณะภาค 1 ตัดสินวัด"ธรรมกาย"

ผวากลัวพระธรรมปิฏกถูกคนโฉดทำร้าย หลังจากมีใบปลิวโจมตีกรณีเขียนหนังสือชี้ทางออกธรรมกายทำลายศาสนาให้ชาวพุทธตากระจ่าง เผยพระรูปใดที่เคยออกมาโต้วัดฉาวเป็นต้องถูกข่มขู่ พระพยอมซัดจนตรอกเหมือนเปรตมาสู้ปราชญ์ ระดมพลพบเจ้าคณะภาค 1 เร่งตัดสินกรณีอื้อฉาว ระบุธรรมกายถวายเงินพระผู้ใหญ่เป็นเรื่องจริง สาวก "ธัมมชโย" เร่งดูดคนร่วมงานมาฆบูชา โอ่ใครมาทำบุญจะเปล่งแสงได้ด้วยตัวเอง เป็นต้นแบบต้นบุญไปดูดทรัพย์คนอื่นได้ง่าย จัดสายไปนิมนต์พระต่างจังหวัดใครหาได้ 1 รูปได้ 1 พัน พบปูรุ่นเดอะชาวเมืองคอน ด่าธรรมกายมากเลยถูกหวยสบายไป

เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวรายงานจากวัดสวนแก้ว จังหวัดนนทบุรี ว่า ได้มีการบันทึกรายการ "ตามหา..แก่นธรรม" ก่อนการบันทึกเทปโทรทัศน์จะเริ่มขึ้น ได้มีแกนนำกลุ่มพุทธศาสนิกชนไทย เดินทางมาเรียกร้องให้ชาวไทยพุทธ เดินทางไปชุมนุมพร้อมกันที่วัดยานนาวา ในวันที่ 1 มี.ค. เวลา 11.00 น. เพื่อร้องขอความเมตตาจากพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ให้เร่งรัดการพิจารณากรณีของวัดพระธรรมกาย

หลังจากนั้น ดร.เจิมศักดิ์ได้นำเข้าสู่รายการ โดยมีกระทู้ถามส่งเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกรณีวัดพระธรรมกายเพียง 2 กระทู้ คือ การพิจารณากรณีของวัดพระธรรมกาย มีสาเหตุจากอะไรและการพิจารณาของมหาเถรสมาคมทำไมมีความล่าช้า อีกกระทู้เป็นเรื่องของกรณีที่ลูกขู่พ่อแม่ให้ไปทำบุญกับวัดพระธรรมกาย หากไม่ทำจะฆ่าตัวตาย

ดร.สมภาร พรมทา อาจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า พื้นฐานประการหนึ่งที่ต้องเข้าใจด้วยว่า มหาเถรสมาคม ไม่มีการจัดการองค์กรที่ดีพอ ไม่มีข้อมูลข่าวสาร ไม่มีการจัดเก็บข้อมูลข่าวสาร ที่สำคัญพระไทยมักมีความเกรงใจกันมาก ในที่ประชุมมหาเถรฯ ไม่เคยมีพระรูปใดออกปากเสนอต่อที่ประชุมว่ากรณีวัดพระธรรมกายนี้ขอลุยเอง แตกต่างจากกรณีของสันติอโศก

การกล่าวเช่นนี้ไม่ใช่ว่าชาวพุทธจะมาบีบหรือกดดันมหาเถรฯ แต่เป็นการขอความเมตตาจากคณะสงฆ์มากกว่า การไม่ยอมตัดสินเรื่องนี้เท่ากับว่าขาดความเมตตา ถึงช่วงนี้ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง พิธีกรแทรกขึ้นว่า เป็นไปได้มากน้อยเพียงใดว่ามีเรื่องของการถวายเงินเข้ามาเป็นแรงผลักดัน เพราะมีอดีตพระลูกวัดพระธรรมกายที่มีอำนาจสั่งจ่ายเช็คยืนยันว่า มีการสั่งจ่ายเงินให้พระผู้ใหญ่ ดร.สมภารกล่าวว่า เชื่อว่าวัดพระธรรมกายมีการถวายเงินนิมนต์พระผู้ใหญ่มากกว่าวัดอื่น ซึ่งมหาเถรฯ ควรแยกแยะประเด็นออกจากกัน เพราะเรื่องเงินกับความถูกต้องไม่มีทางเป็น
เรื่องเดียวกันได้ เรื่องนี้ควรพิจารณาด้วยความเด็ดขาด

ด้านพระพยอม กัลยาโณ ประธาน มูลนิธิวัดสวนแก้วกล่าวว่า ความจริงเรื่องนี้ที่เป็นข่าวครั้งแรกได้ให้สัมภาษณ์ไปในทำนองตักเตือน แต่กลับกลายเป็นเรื่องของความอิจฉา พอมาตอนนี้กลับบอกว่าแค่เตือนก็พอ อย่างนี้ไม่ได้แล้วเพราะความผิดเพี้ยนชัดเจนมากแล้ว พระมีเมียความผิดยังไม่เท่าพระสอนผิดจากคำสอนของพระพุทธเจ้า เรื่องแบบนี้เป็นเพราะวัดพระธรรมกายต้องการดูดเงิน โดยอาศัยความกลัวของคนมาเป็นจุดอ่อนของชาวพุทธ ทั้งโลกแตก สงคราม โลกครั้งที่ 3

ในส่วนของการพิจารณาของมหาเถรฯนั้น จะว่าอืดอาดก็ได้ แต่มีความเป็นไปได้ว่าเกรงใจมวลชนจัดตั้งของวัดพระธรรมกาย เพราะมีการแสดงพลังมหาชนกันมาก อาจรอให้มวลชนลดลงก่อนค่อยจัดการก็ได้ ซึ่งก็ลดลงอย่างมากแล้ว สำหรับกรณีขู่พ่อแม่ไปทำบุญหาไม่แล้วจะฆ่าตัวตาย เรื่องนี้ใครเป็นคนสอนต้องรับผิดชอบ จึงสมควรปลดเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายได้แล้ว หากไม่ยอมปลดก็จะสอนกันผิด ๆ ต่อไป

รายงานข่าวจากวัดญาณเวศกวัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางวัดเพิ่มความระมัดระวัง เนื่องจากพระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตโต) ถูกใบปลิวโจมตีจากผู้ไม่ประสงค์ดีของคนกลุ่มหนึ่ง ที่ไม่พอใจในการออกมาปกป้อง
พระศาสนาของพระธรรมปิฎก ด้วยการออกหนังสือ "กรณีธรรมกาย" เพื่อชี้ให้เห็นถึงข้อเท็จจริงของคำสอนธรรมกายที่ผิดเพี้ยน เป็นการทำลายพระธรรมวินัย และเรื่องนี้สร้างความวิตกกังวล-เป็นห่วงให้กับญาติโยมลูกศิษย์มากมาย ได้โทรศัพท์มาสอบถาม เพราะก่อนหน้านี้เคยมีใบปลิวโจมตีนายเสฐียรพงษ์� วรรณปก ราชบัณฑิต และดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทองขนาดที่มีการระบุถึงเวลาหรือยังที่จะสามัคคีกัน "ฆ่าทิ้ง" บุคคลเหล่านี้

อย่างไรก็ตามวัดมิได้ขอกำลังไปทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากพระธรรมปิฎกบอกว่าบริสุทธิ์ใจ และปกป้องพระศาสนา จึงไม่กริ่งเกรงอันตรายใด ๆ อีกทั้งทางเข้าออกของวัดเองก็จะมีเจ้าหน้าที่ ซึ่งดูแลพุทธมณทล ตรวจตราดูแลอยู่แล้ว

พระมหาบุญถึง ชุตินฺธโร ผู้ช่วยอธิการบดี ฝ่ายกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์กล่าวว่า รู้สึกเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของพระธรรมปิฎก เพราะคนพวกนี้สามารถทำร้ายผู้ที่ออกมาปกป้องพระศาสนา
และขัดผลประโยชน์ และเคยกระซิบบอกกับพระครูปลัดปิฎกวัฒน์ พระเลขาฯของพระธรรมปิฎกว่า ควรจะหาญาติโยมหรือพระสงฆ์สัก 2-3 คน มาดูแลสักพักหนึ่ง เนื่อง จากกุฏิท่านพระธรรมปิฎกเป็นไม้หลังเล็ก ๆ อยู่โดดเดี่ยวติดกับกำแพงไม่ปลอดภัย ต้องป้องกันไว้ก่อน เพราะคนพวกนี้ไม่กลัวบาป

"แม้อาตมาก็ยังโดนโจมตีและมีจดหมายเขียนมาในลักษณะข่มขู่ ว่า ต่อไปห้ามให้ข่าวหรือให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เป็นอันขาด หรือไม่ก็เขียนมาว่า แม้วัดพระธรรมกายจะยังไม่สำเร็จพระอรหันต์ พระธรรมปิฎก,อาตมาและพระสงฆ์องค์อื่นก็ไม่บรรลุ
อรหันต์เช่นกัน ฉะนั้นอย่ามาทำตัวเป็นผู้พิพากษามาตัดสินใคร ไม่น่าจะมาเป็นตัวอิจฉาอะไรทำนองนี้ อาตมาไม่สนใจ"

ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์รายงานจากนครศรีธรรมราชว่าได้มีนายไกรสร ต่อเจริญ อายุ 85 ปี ได้ตระเวนพูดคุยชี้แจงประชาชนถึงการสอนของวัดพระธรรมกายที่ผิดเพี้ยน โดยนายไกรสรกล่าวว่าตนทำงานรับจ้างเฝ้าอู่รถยนต์แห่งหนึ่ง และต่อต้านวัดแห่งนี้เพราะสอนไม่ถูกต้อง โดยตนเคยบวชเรียนและศึกษาธรรมะอย่างดี โดยล่าสุดไปเยี่ยมพรรคพวกเพื่อนฝูงในตลาดบ้านดอน อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี และว่าวัดอย่างรุนแรง เสียงดังจนมีคนทักว่าไม่กลัวสิ้นเนื้อประดาตัวหรือ เพราะมีการไปแอบอ้างว่าใครว่าวัดพระธรรมกายจะมีกรรมตามทัน ตนก็ตอบไม่กลัว และได้ซื้อลอตเตอรี่อีก 1 ซีกให้ดู โดยไม่เลือกหมายเลข ทั้งที่ไม่ได้ซื้อเป็นประจำ ปรากฏว่าลอตเตอรี่นั้นถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตนไม่ได้พบกับเคราะห์กรรมเหมือนกับที่อ้างกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันจันทร์ที่ 1 มี.ค.นี้จะเป็นวันมาฆบูชา โดยกลุ่มสาวกแกนนำของวัดได้ทำการส่งจดหมายเผยแพร่ไปยังลูกศิษย์คนอื่น ๆ ขอให้มาร่วมชุมนุมพร้อม
กันที่วัดพระธรรมกาย โดยระบุว่าอานิสงส์ของการจุดมาฆประทีปที่วัดจะเป็นผู้มีรัศมีกายสว่างไสว ใครพบเป็นก็เห็นที่ตั้งแห่งศรัทธา สามารถเป็นต้นแบบและต้นบุญชักชวนให้คนทั้งหลายทำความดีได้อย่างง่ายดาย

การบอกข่าวนี้ได้มีการอ้างถึงพระมงคลพุทธเจ้า ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าที่เคยตรัสรู้ในอดีตนานมาแล้ว โดยพระพุทธเจ้าพระองค์นี้จะมีรัศมีวรกายสว่างไสว โดยไม่มีรัศมีของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ใช้แต่รัศมีวรกายของพระองค์ทดแทน โดยกุศลที่พระองค์ทำในอดีตชาติคือการกราบบูชาพระเจดีย์ของพระพุทธเจ้าด้วยประทีป และทางสาวกวัดพระธรรมกายเทียบให้เห็นว่าธรรมกายเจดีย์เป็นเจดีย์แห่งพระรัตนตรัย เป็นตัวแทนของพระพุทธเข้า การมาจุดโคมมาฆประทีปมอบธรรมกายเจดีย์จะเป็นกุศลยิ่งใหญ่ ซึ่งวัดขายโคมประทีปอันละ 300 บาทด้วย

ทางด้านพระพยอม กัลยาโณ ประธานมูลนิธิวัดสวนแก้วให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ในวันมาฆบูชาทำบุญที่ไหนก็เหมือนกัน ตอนเช้าให้ใส่บาตร เวียนเทียน และถ้าค้างคืนปฏิบัติธรรมได้ก็ทำ แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ และไม่จำเป็นต้องไปซื้อโคมประทีปถึงวัดพระธรรมกาย ไม่จำเป็น โดยให้ทุกคนทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องแผ้วครบก็ถือว่าได้บุญแล้ว หากทุกคนแห่ไปวัดพระธรรมกายต่อไปวัด
ในชนบทล่มสลายหมด

สำหรับกรณีที่มีการข่มขู่พระธรรมปิฎกพระพยอมกล่าวว่าเป็นธรรมดาเมื่อ
จนตรอกก็ต้องสู้ทุกรูปแบบ เหมือนกับความพยายามของเปรตมาสู้กับปราชญ์

ส่วนผลการสอบสวนปัญหาวัดพระธรรมกายของกรรมาธิการการศาสนาพระพยอมกล่าวว่า
คงต้องมีหลักฐานถึงออกมาเช่นนี้ได้ ขนาดที่จับได้ว่าอยู่กับสีกาแล้วเหงื่อตกหัวซิก ๆ ซึ่งถ้าไม่จริงก็น่าจะออกมาชี้แจง และถ้ากระทบความมั่นคงรัฐยังเกรงใจคณะสงฆ์อยู่ก็อาจขอประชามติกันก็ได้

ขณะเดียวกันได้มีพระจากจังหวัดนครสวรรค์ที่ขอปกปิดชื่อและฉายา โทรศัพท์แจ้งเดลินิวส์ว่า ได้มีสาวกธรรมกายออกไปหาพระสงฆ์เพื่อนิมนต์มาร่วมงานวันมาฆบูชา โดยเท่าที่ทราบถ้าสาวกหาพระไปได้ 1 รูป จะได้ค่าตอบแทน 1,000-1,500 บาท.