กรุงเทพธุรกิจฉบับ วันเสาร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ.2542


พระพยอมยกวีรกรรม'วิริยสกโก'

พระพยอมยกย่องวีรกรรม พระอดิศักดิ์ วิริยสกโก เป็นนักสู้เพื่อศาสนา พร้อมเรียกร้องพระผู้ใหญ่ สร้างกุฏิสำหรับพระที่ต่อสู้เพื่อศาสนา ส่วนมูลนิธิธรรมกายออกแถลงการณ์ ปฏิเสธข้อกล่าวหาสื่อมวลชนทุกกรณี ขณะที่กรรมการสอบข้อมูลวัดพระธรรมกาย ประสาน กมธ.ศึกษา-สื่อฯ ขอข้อมูลประกอบผลการพิจารณาเพื่อเสนอต่อพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ภายใน 2 สัปดาห์ ยอมรับไม่สามารถชี้ผิดชี้ถูกได้

พระอดิศักดิ์ วิริยสกโก อดีตเหรัญญิกและผู้ร่วมก่อตั้งวัดพระธรรมกาย ซึ่งได้ออกมาเปิดโปงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของวัดพระธรรมกาย จนทำให้สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เรียกเข้าพบและให้ออกจากวัดโดยเร็วที่สุด ภายใน 1-2 วัน กล่าวภายหลังเข้าพบพระพิศาลธรรมพาที หรือพระพยอม กัลยาโณ ประธานมูลนิธิวัดสวนแก้ว ว่า ได้ขอบคุณพระพยอมที่ได้สนับสนุน การออกมาเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย และได้ขอจำวัดอยู่ที่วัดสวนแก้ว เนื่องจากยังหาวัดใหม่จำวัดไม่ได้

ด้านพระพยอมกล่าวว่า สามารถรับพระอดิศักดิ์ เข้ามาจำวัดในวัดสวนแก้วได้ แต่ต้องปรึกษาพระผู้ใหญ่ก่อนว่า เห็นสมควรหรือไม่

อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถทำได้ก็มีความพร้อมช่วยเหลือ โดยมีแนวความคิดที่จะจัดสร้างกุฏิที่พักให้ สำหรับพระที่ถูกให้ออกจากวัด เนื่องจากการปกป้องศาสนา

"ความจริงเรื่องนี้ถือเป็นวีรกรรมที่ปกป้องศาสนา พระชั้นผู้ใหญ่น่าจะมีแนวคิดเหล่านี้บ้าง" พระพยอมเสนอและว่า พระเหล่านี้ ไม่ใช่สุนัข แมว แต่แผ่นดินนี้เป็นของคนไทย แล้วจะให้เขาไปอยู่ที่ไหน

ขณะเดียวมูลนิธิธรรมกาย ได้ส่งเอกสารชี้แจงสื่อมวลชน โดยพระปลัดสุธรรม สุธัมโม ผู้ช่วยเจ้าอาวาส กรรมการและเลขานุการมูลนิธิธรรมกาย ที่กรมทะเบียนการค้าระบุว่ามีบริษัทหลายแห่งนามสกุลเดียวกับเจ้าอาวาส และรองเจ้าอาวาส เป็นเจ้าของ เป็นกรรมการบริษัทนั้น ไม่ได้หมายความว่าจะเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เพราะนามสกุลพ้องกันได้

นอกจากนี้ วัดพระธรรมกาย ยังไม่เคยนำเงินไปประกอบธุรกิจอย่างกับบริษัทใดๆ ทั้งสิ้น และพระราชภาวนวิสุทธิ ก็ไม่เคยเดินทางไปสหรัฐ ไม่เคยขอกรีนการ์ด สัญชาติอเมริกัน และไม่เคยนำเงินไปลงทุนเช่นกัน

ขณะเดียวกัน นายสุวัฒน์ เงินฉ่ำ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการรวบรวมข้อมูลวัดพระธรรมกาย เปิดเผยผลการประชุมว่า ที่ประชุมได้แบ่งข้อมูลเป็น 2 ส่วน ในส่วนที่หนึ่ง ทางคณะกรรมการได้วิเคราะห์ถึงผลงานของวัดทั้งที่เป็นประโยชน์ของพระสงฆ์ และประชาชน รวมถึงการดำเนินงานของวัด ที่มีการตั้งข้อสังเกตทางสื่อมวลชน ซึ่งในส่วนนี้ทางคณะกรรมการจะขอความกรุณาจากวัดเพื่อจัดส่งข้อมูลมาให้ และสอง ประเด็นที่จะมีการศึกษา ประกอบด้วย 4 ประเด็น คือ

1.ศาสนธรรม ได้แก่ คำสอน การเผยแผ่พุทธศาสนา 2.ศาสนบุคคล ซึ่งมีกรอบ พ.ร.บ.สงฆ์ ในเรื่องอำนาจหน้าที่และภูมิหลังประวัติของพระภิกษุสงฆ์ 3.เรื่องศาสนสถาน และศาสนวัตถุ ที่ทางวัดได้ดำเนินการในขณะนี้ รวมถึงทรัพย์สินของวัดที่มีอยู่ 4.การบริหารงาน และการจัดกิจกรรมของวัด

เขากล่าวว่า ทั้งนี้ทางคณะกรรมการ จะขอความร่วมมือจากกรรมาธิการการศึกษา และสื่อมวลชน รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อขอข้อมูลประกอบ และรวบรวมให้เสร็จภายใน 2 สัปดาห์ จากนั้นจะนำเสนอต่อพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 เจ้าอาวาสวัดยานนาวา เพื่อประกอบการพิจารณา และอาจจะนำเสนอหลักธรรม คำสอนเปรียบเทียบกับสิ่งต่างๆ ที่วัดดำเนินการมาเพื่อให้เห็นภาพ

"ส่วนจะนำเสนอต่อที่ประชุมเถรสมาคมเมื่อไรขึ้นอยู่กับพระพรหมโมลี เพราะคณะกรรมการไม่มีสิทธิชี้ผิดชี้ถูก และไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ เพราะมีหน้าที่เพียงรวบรวมข้อมูลเท่านั้น"

สำหรับกรณีที่พระอดิศักดิ์ วิริยสักโก ถูกสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำและกรรมการเถรสมาคม สั่งให้ย้ายออกจากวัดปากน้ำ ภายใน 2 วัน เนื่องจากออกมาเปิดโปงข้อมูลไม่ชอบมาพากลของวัดพระธรรมกายนั้น นายสุวัฒน์กล่าวว่า วัดถือเป็นนิติบุคคล ดังนั้นเจ้าอาวาสวัดเป็นผู้มีอำนาจเด็ดขาดตามกฎหมาย และเชื่อว่าเจ้าอาวาสทุกรูปทรงคุณธรรม การที่จะวินิจฉัยอย่างไร คงนึกถึงความมั่นคงของพุทธศาสนาเป็นหลัก เราในฐานะฆราวาส ไม่สามารถไปล่วงละเมิด หรือบอกได้ว่า คำวินิจฉัยนั้นถูกหรือผิด และการให้ข้อมูลข่าวสาร เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล สังคม และพระอุปัชฌาย์จะเป็นผู้พิจารณาว่า เหมาะสมกับสมณเพศอย่างไร

นายอำนาจ บัวศิริ นักวิชาการระดับ 8 กรมศาสนา เลขานุการคณะกรรมการรวบรวมข้อมูลวัดพระธรรมกาย กล่าวว่า ตาม พ.ร.บ.สงฆ์ พ.ศ.2535 ระบุว่าเจ้าอาวาสมีอำนาจสั่งการให้บรรพชิต หรือคฤหัสถ์ ซึ่งไม่อยู่ในโอวาท เจ้าอาวาสสามารถสั่งให้ออกไปจากวัดได

ส่วนที่ข่าวว่า พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ได้สัญชาติอเมริกันนั้น เท่าที่ทราบขณะนี้ทางวัดยืนยันมาว่า พระธัมมชโย ไม่ได้สัญชาติอเมริกัน และไม่เคยเดินทางไปอเมริกา