กรุงเทพธุรกิจฉบับ วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2542


รวบนักธุรกิจลวง5นักเรียนเข้าวัดธรรมกาย

เจ้าหน้าที่ตำรวจปทุม ตะครุบนักธุรกิจเมืองนนท์ศิษย์ธรรมกาย ล่อลวง 5 เด็กนักเรียนไปวัดดังเพื่อรับพระแจกรุ่นดัง ในวันบวชอุบาสกแก้ว ด้วยค่าจ้างคนละ 30 บาท ยอมรับศรัทธาวัดมาก ร่วมทำบุญ 3 ปีไปกว่า 2 แสนบาท แต่ช่วงหลังภาพพจน์วัดตกต่ำ คนเข้าน้อยเลยต้องทำยอด ไม่ได้มีเจตนาลักพาตัว

ขณะที่กรรมาธิการศาสนา ชี้เหตุเครื่องราชฯ ชักจูงนักบุญเข้าวัด พร้อมให้ทางวัดเข้าชี้แจง ก่อนส่งข้อมูล 30 หน้าให้กรมศาสนา มหาเถรสมาคมในสัปดาห์หน้า

ปทุมธานี - จากกรณีที่ผู้ปกครองเด็กนักเรียน 5 คน ประกอบด้วย ด.ช.ผดุงศิลป์ พูลผล ด.ช.ภาดา เมภัย ด.ช.ธรรมนูญ แสงศรี ด.ช.พิทักษ์ ข้องเกี่ยวพันธ์ ด.ช.ชำนาญ เจริญสาน ของโรงเรียนวัดชินวนาราม ต.บางเดือ อ.เมือง จ.ปทุมธานี เข้าแจ้งความว่าเด็กในปกครองได้หายตัวไปเมื่อวันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมา

เมื่อเวลา 11.00 น.วานนี้ ส.ต.ท.ประยูร ประกอบจันทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภอ.คลองหลวง ได้นำตัวนายพงษ์สวัสดิ์ พรประเสริฐ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/12 ต.บางพัง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มีอาชีพค้าขายและเป็นเจ้าของกิจการ "ร้านพรรุ่งเรือง" ผู้ต้องสงสัยส่งตัวให้ พ.ต.อ.ภูมิรา วัฒนปานี ผกก.สภอ. เมืองปทุมธานี ทำการสอบสวน

นายพงษ์สวัสดิ์ ให้ปากคำว่า เขาไม่มีเจตนาที่จะลักตัวเด็กแต่อย่างใด และไม่คิดว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ เพราะในวันเกิดเหตุเขาได้ไปที่วัดชินวนาราม และได้พบกับเด็กกลุ่มดังกล่าว จึงได้ชักชวนให้เด็กที่เต็มใจไปวัดพระธรรมกายด้วยกัน โดยให้ค่าจ้างคนละ 30 บาท เพื่อให้ช่วยไปรับพระ "มหาสิริราชธาตุรุ่นปิดเจดีย์" ซึ่งทางวัดได้แจกให้กับผู้เข้าร่วมงานบวชอุบาสกแก้ว เมื่อวันที่ 31ม.ค.ที่ผ่านมา

"ผมชื่นชมพระรุ่นนี้ และเป็นคนที่ศรัทธา และเข้าวัดนี้เป็นประจำ ทราบดีว่าทางวัดนี้มีคนมาน้อยลงไปมาก และทางวัดได้บอกให้ชวนคนมาที่วัดให้มากๆ ในวันดังกล่าว ผมจึงได้ชักชวนเด็กมาร่วมงานด้วย เพื่อให้วัดมีคนมากๆ " สานุศิษย์จากเมืองนนท์ กล่าว

นายพงษ์สวัสดิ์ ยอมรับว่า ที่ผ่านมาได้ไปทำบุญที่วัดพระธรรมกายพร้อมครอบครัวประมาณ 200,000บาทเศษ ในช่วงเวลาประมาณ 3 ปีกว่าแล้ว ยอมรับว่าศรัทธาวัดนี้มาก และเกิดความโลภอยากได้พระ เมื่อไปที่วัดชินวนาราม และเห็นเด็กทั้ง 5 คน จึงได้ชวนไปวัดพระธรรมกายด้วยกันเพื่อรับพระแจกโดยไม่ได้บอกพ่อแม่เด็ก เพราะไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โตเช่นนี้

ด้าน พ.ต.อ.ภูมิรา กล่าวว่า ได้ตั้งข้อหาล่อลวงเด็ก แต่จะหนักหรือเบาคงต้องรอให้ทางพ่อแม่เด็กมาให้ปากคำก่อน แต่เท่าที่ดูเจตนาของนายพงษ์ศักดิ์ ไม่มีเจตนาที่จะล่อลวงไปเพื่อเจตนาที่ไม่ดี เพราะเมื่อสอบปากคำเด็กทั้ง 5 คน ตรงกันหมด คือ ได้ตกลงไปรับพระแล้วจะจ่ายให้คนละ 30 บาท และไม่ได้พาออกไปที่อื่นโดยตรงไปที่วัด และไม่มีการกักขังหรือกควบคุมตัวเด็ก เรื่องนี้ต้องรอสรุปผลอีกครั้งก่อน เวลานี้เพียงแต่กักขังไว้ก่อนเพื่อรอให้ปากคำโดยละเอียดอีกครั้งหนึ่งทั้งสองฝ่าย

ที่รัฐสภาวันเดียวกัน นายอรรถสิทธิ์ ทรัพยสิทธิ์ โฆษกคณะกรรมาธิการการศาสนา และศิลปวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า กรรมาธิการฯ ได้พิจารณารายงานของคณะทำงานศึกษากรณีวัดพระธรรมกาย ซึ่งคณะทำงานชุดดังกล่าวได้ข้อมูลมาจำนวนมาก แต่ที่ประชุมมีมติให้คณะทำงานไปศึกษาข้อมูลให้รอบคอบอีกครั้ง พร้อมทั้งจะให้โอกาสวัดพระธรรมกายมาชี้แจงด้วย หากคณะกรรมาธิการพิจารณารายงานเบื้องต้นเสร็จในสัปดาห์หน้าก็จะส่งผลสรุปให้กรมศาสนา และมหาเถรสมาคมทันที

พร้อมกันนี้ นายรรถสิทธิ์ ปฏิเสธว่า คณะกรรมาธิการไม่ได้พิจารณากรณีสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ถ่ายทอดสดพิธีบวชอุบาสกแก้ว เนื่องจากยังไม่มีการร้องเรียนเข้ามาส่วนเรื่องที่มีการกล่าวหาเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายว่ามีปัญหาเรื่องชู้สาวนั้น ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเช่นกัน

ด้านนายอำนวย สุวรรณคีรี ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า หากต้องการให้เรื่องยุติโดยเร็ว ทางสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ต้องรายงานเรื่องนี้ต่อรองนายกฯ และรัฐมนตรีที่ดูแลงานด้านความมั่นคง เพื่อพิจารณานำผลสรุปส่งให้มหาเถรสมาคมดำเนินการ

นายสุเมธ สุวรรณพรหม ผู้ชำนาญการประจำคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯ ได้พิจารณาเรื่องที่วัดพระธรรมกายขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้ผู้บริจาคเงินให้กับวัดโดยได้ประสานไปยังนายวิษณุ เครืองาม เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้รับคำตอบว่า ได้ระงับเรื่องนี้ไปแล้ว เนื่องจากเห็นว่าการบริจาคเงินให้วัดพระธรรมกายไม่ได้นำมาซึ่งผลประโยชน์ของสาธารณะ แต่เป็นไปเพื่อผลประโยชน์เฉพาะกลุ่มเท่านั้น

"ที่วัดพระธรรมกายขอเครื่องราชฯ ติดต่อกันมาเป็นเวลาถึง 3 ปีนั้น แสดงให้เห็นว่าหากได้รับพิจารณาให้เครื่องราชฯ ไปแล้วก็จะเป็นเหตุให้คนมาบริจาคมากขึ้น เพราะคนที่มีเงินทิ้งมากๆ บางคนก็อยากได้เครื่องราชฯ เพื่อไปเป็นเกียรติยศ เหมือนกรณีที่เคยเกิดขึ้นในอดีตที่มีเจ้าอาวาสวัดดังแห่งหนึ่งทำเครื่องราชฯ ปลอมให้กับคนที่บริจาคให้วัดเป็นจำนวนสูงๆ มาแล้ว" นายสุเมธ กล่าว

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ข้อสรุปเบื้องต้นที่คณะทำงานของคณะกรรมาธิการเสนอมานั้นส่วนหนึ่งเหมือนกับที่สื่อมวลชนนำเสนอ แต่คณะกรรมาธิการเห็นว่ายังต้องมีการปรับถ้อยคำเนื้อหาให้กระชับชัดเจนเพื่อให้เป็นรายงานที่สมบูรณ์ โดยเฉพาะจะต้องมีแห่งอ้างอิงข้อมูลเพื่อป้องกันปัญหา จึงได้มอบหมายให้นักวิชาการ และผู้ชำนาญการไปศึกษาดู โดยรายงานดังกล่าวจะมีความหนาประมาณ 30 หน้ากระดาษ