กรุงเทพธุรกิจฉบับ วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ.2542


ชาวบ้านแจ้งจับ'ธรรมกาย'ฉ้อโกงที่ดินวันนี้

ธรรมกาย เจอปัญหาหนัก พระบานเย็น พร้อมชาวบ้าน ประกาศแจ้งจับในข้อหาหลอกลวง คดีโกงประชาชนและทำให้เสียสิทธิในการครอบครองที่ดิน วันนี้ ขณะที่ "ทัตตชีโว" ออกโรงกลบ กระแสทางลบ เผยอย่าได้หวั่นไหวกับสิ่งรุมเร้า เรากำลังทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว

พระบานเย็น ชินวรโร หรือนายบานเย็น ดวงระยศ อดีตแกนนำกลุ่มชาวบ้านที่ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการไล่ที่ชาวบ้านจำนวน 64 ราย หรือพื้นที่ 2,000 ไร่ ของวัดพระธรรมกายเมื่อปี 2531 เปิดเผยว่า ในวันนี้ (18 ม.ค.) จะนำชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน 59 ครอบครัว จำนวน 150 คน เดินทางเข้าไปแจ้งความกับตำรวจกองปราบปราม เพื่อให้ดำเนินคดีกับเจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ตลอดจนกรรมการมูลนิธิและฆราวาส ในข้อหาหลอกลวง คดีโกงประชาชน และทำให้เสียสิทธิในการครอบครองที่ดิน ซึ่งข้อกล่าวหาทั้งหมดนี้ มีหลักฐานชัดเจน และพร้อมจะต่อสู้ให้ถึงที่สุด แม้จะมีอะไรเกิดขึ้นต่อชีวิตก็ยอม

"ที่ผ่านมาต้องประสบกับวิบากกรรมจากการกระทำของคนในวัดแห่งนี้ ถึงต้องติดคุกติดตะรางมาแล้ว ก็ถือว่าไม่เคียดแค้นเป็นการส่วนตัว และที่ต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ก็เพื่อชาวนาที่ยากจนหมดสิ้นหนทางทำกิน และเพื่อความจริงให้ประจักษ์แก่สังคม" พระบานเย็น กล่าว

นอกจากนี้ พระบานเย็น ยังกล่าวอีกว่า แม้มูลนิธิธรรมกายจะอ้างว่าเหลือชาวนาเพียง 7 รายที่ดื้อแพ่งไม่ยอมออกจากพื้นที่ แต่ให้นึกถึงความเป็นจริง แม้ 7 รายนี้จะทำหนังสือเช่าทำนาอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ก็ยังมีชาวนาที่ทำนาร่วมกับผู้เช่าดังกล่าวอีกจำนวนหนึ่งเป็นจำนวนหลายครอบครัว และเมื่อสังคมกำลังเปิดกว้างให้ตรวจสอบวัดพระธรรมกาย อาตมาในฐานะที่เป็นผู้หนึ่งอยู่ในเหตุการณ์มาโดยตลอดจำเป็นที่จะต้องออกมาต่อสู้

อย่างไรก็ดี ทางวัดพระธรรมกาย ได้ออกมาชี้แจงกรณีที่พระบานเย็นออกมาระบุว่าได้ซื้อที่ดินจำนวน 2,000 ไร่ ในนามมูลนิธิพระธรรมกายในปี 2526 แต่เมื่อเช็คดูพบว่ามูลนิธิตั้งขึ้นในปี 2528 นั้น เป็นการใส่ความและบิดเบือน

โดยระบุว่า มูลนิธิพระธรรมกายตั้งขึ้นมาในปี 2513 ซึ่งในครั้งแรกใช้ชื่อว่า มูลธรรมประสิทธิ์ จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ณ กระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 6 ส.ค.2513 และเมื่อสร้างวัดพระธรรมกายเสร็จ จึงได้ขอแก้ไขเอกสารเปลี่ยนชื่อเป็นมูลนิธิพระธรรมกาย เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2525 ณ ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี

และเพื่อไม่ให้สับสนกับชื่อวัดจึงจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงชื่อจากมูลนิธิพระธรรมกาย เป็นมูลนิธิธรรมกาย โดยได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติตามหนังสือที่ ศธ.1304/6088 ลงวันที่ 30 กันยายน 2528 ดังนั้น มูลนิธิพระธรรมกาย และมูลนิธิธรรมกาย ก็คือมูลนิธิเดียวกัน

ขณะเดียวกัน พระภาวนาวิริยคุณ หรือหลวงพ่อทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย กล่าวกับผู้มาร่วมทำบุญที่ศาลาธรรมกาย กว่า 5,000 คน ว่า ขอให้มีครบด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คิดทำสิ่งใดสมปรารถนา และขอย้ำว่าสิ่งที่พวกเรากำลังทำอยู่ในเวลานี้นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง อย่าได้หวั่นไหวกับสิ่งที่รบกวนและรุมเร้า

"ขอให้เชื่อเถิดว่าทำบุญสิ่งใดก็ได้ผลตอบแทนในสิ่งนั้น เช่น หากปลูกถั่ว ผลที่งอกมาต้องเป็นเมล็ดถั่ว และอย่าลืมในวันที่ 31 มกราคมนี้ พวกเราที่มาวันนี้ขอให้เชิญคนในครอบครัวที่เรารักใคร่ รวมทั้งพ่อแม่มาช่วยกันสร้างบุญด้วยการบวชอุบาสิกาแก้ว ซึ่งจะมีถึง 1 แสนคน" หลวงพ่อทัตตชีโว กล่าว

พร้อมกันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ทางวัดพระธรรมกายยังได้แจกเอกสารซึ่งเป็นแบบสอบถามนำมาแจกให้กับผู้ที่มาทำบุญ โดยในแบบสอบถามได้ตั้งคำถามไว้กว่า 10 ข้อ ถามถึงเรื่องที่มีข่าวออกมาตามหน้าหนังสือพิมพ์โจมตี แต่เหตุใดพวกที่มาอยู่ที่วัดเวลานี้ยังคงมาตามปกติ โดยอ้างว่าต้องการข้อมูลไปทำวิจัยในหลายแง่มุมของผู้ที่มาทำบุญ และที่มาปฎิบัติธรรมในวัดพระธรรมกายนี้

และในเวลา 12.00 น.ทางวัดได้แพร่ภาพทางโทรทัศน์วงจรปิด โดยใช้ชื่อว่า รายการ 072 มีการสนทนาตอบโต้ระหว่างผู้จัดรายการและหญิงสาว ซึ่งเป็นคู่สนทนาร่วมกัน โดยมีใจความสรุปได้ว่า สิ่งที่สื่อมวลชนเผยแพร่ออกไปนั้นได้คลาดเคลื่อนต่างจากความเป็นจริงที่เกิดขึ้น และหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปคงไม่เกิดผลดีกับทางวัดพระธรรมกาย ขอให้ผู้ที่มาร่วมกิจกรรมช่วยกันอธิบายให้กับบุคคลใกล้ชิดได้เข้าใจ โดยมีเวลาประมาณ 10 นาที ท่ามกลางความสนใจของผู้คนเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่วัดพระธรรมกาย ได้แจกเอกสารให้กับผู้ที่มาร่วมงานซึ่งเป็นเอกสารชี้แจงข่าวของวัดพระธรรมกายที่มีข่าวออกมากรณีที่วัดตัดต้นโพธิ์ที่วัดผาเงา ว่า ได้ขออนุญาตกับทางกองสำนักกองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ก่อนแล้ว

โดยได้นำหนังสือขอพระราชทานอนุญาตของสำนักราชเลขาสวนจิตรลดา ที่ รล 0007/6883 ลงวันที่ 28 มิถุนายน 2531 มีใจความว่า เรื่องขอพระราชทานพระราชานุญาตย้ายต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่ทรงปลูกนมัสการเจ้าอาวาสวัดพระธาตุผาเงา (พระอธิการวันชัย สีสวณ.โณ) อ้างถึงลิขิตที่ ผง31/2531 ลงวันที่ 16 มิถุนายน 2531 ใจความว่า ตามลิขิตที่อ้างถึงแจ้งว่า ทางวัดพระธาตุผาเงา ขอพระราชทานพระราชานุญาตย้ายต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ได้ทรงปลูกไว้ เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2528 ไปไว้ยังที่เหมาะสม

เนื่องจากต้นศรีมหาโพธิ์เจริญงอกงาม จนอาจจะไปเบียดเบียนวิหารหลวงพ่อผาเงา และอ่างเก็บน้ำคอนกรีตของทางวัดให้แตกร้าวเสียหายได้นั้น ขอพระคุณเจ้าดำเนินได้ตามความประสงค์ ลงชื่อท่านผู้หญิงสุประภาดา เกษมสันต์ ราชเลขานุการในองค์สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ