ดร.พิชัย โตวิวิชญ์ ที่ปรึกษาใหญ่มิตรต่างดาว

ดร.พิชัย โตวิวิชญ์ เกิดเมื่อปี พ.ศ.2482 เป็นชาวเชียงใหม่ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จาก คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี 2508 เข้ารับราชการเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ และไปศึกษาต่อที่เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเสตส์ สหรัฐอเมริกา จนสำเร็จปริญญาเอกทางเภสัชเคมี จากวิทยาลัยเภสัชศาสตร์แมสซาชูเสตส์ เคยเป็นหัวหน้าหน่วยภาษาอังกฤษของคณะวิทยาศาสตร์ เป็นหัวหน้าภาควิชาเคมี และเป็นกรรมการสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เป็นเลขาธิการโครงการร่วมมือทางเคมีส่วนภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ขององค์การยูเนสโก 7 ปี (พ.ศ.2520-2526) และเป็นผู้แทนประเทศไทยในโครงการนี้ 15 ปี (พ.ศ.2520-2534) เคยได้รับเชิญให้เป็นผู้เสนอชื่อสมควรได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมี เดินทางไปร่วมประชุมดูงานในประเทศต่างๆ ทั่วโลกมากว่า 20 ประเทศ

เคยเป็นอุปนายกสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย กรรมการสมาคมเคมี เป็นกรรมการเลขานุการ สาขาเคมี สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2518-ปัจจุบัน เป็นกรรมการผู้จัดการ มูลนิธิศาสตราจารย์ ดร.แถบ นีละนิธิ ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันไม่น้อยกว่า 20 ปี เคยเป็นที่ปรึกษากระทรวงวิทยาศาสตร์ ฯลฯ

นอกจากสนใจทางวิทยาศาสตร์แล้ว ยังสนใจทางจิตวิญญาณศาสตร์อีกด้วย ปัจจุบันเป็นประธานชมรมสวดพระคาถาชินปัญชร ชมรมสานุศิษย์สำนักปู่สวรรค์ฯ อันศักดิ์สิทธิ์ เลขาธิการสำนักงานทูตสันติภาพแห่งโลก และสมาพันธ์ศาสนสัมพันธ์เพื่อสันติแห่งประเทศไทย

ดร.พิชัย ได้จัดพิมพ์จุลสารเรื่อง '1999 โลกพินาศ 2542 แผนอยู่รอด' ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับคำทำนายเหตุการณ์โลกปี 2540-2544 โดยกล่าวถึง ภัยธรรมชาติต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ในช่วงปี พ.ศ.2540-2544 โดยเหตุการณ์สำคัญ จะเริ่มเกิดตั้งแต่ปี 2540 ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับโลกมนุษย์ในรูปของธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ หมายความว่า จะเกิดแผ่นดินไหว ฝนแล้งติดต่อกันยาวนาน เกิดน้ำท่วมในบางประเทศ มีลมพายุชนิดต่างๆ และภูเขาไฟระเบิด

นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในประเทศไทยตามภาคต่างๆ และสรุปว่าประเทศไทยเสียหายน้อยกว่าทุกประเทศคือ 70 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ประเทศอื่นๆ เสียหาย 90 เปอร์เซ็นต์ ทั่วโลกจะมีคนมีชีวิตรอดเหลือเพียงไม่เกิน 100 ล้านคน จากประชากรทั้งโลกในปัจจุบันมากกว่า 5,000 ล้านคน

แต่ประเทศไทยจะเหลือคนประมาณ 3 ล้านคน ซึ่งมากกว่าประเทศอื่น เพราะไทยโชคดีที่มีพระโพธิสัตว์ 2 องค์ คือ สมเด็จพระสังฆราชคูรูปาจารย์ (หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด) และสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี ได้ดลใจให้พวกเราสร้างสิ่งดุลกรรมให้แก่ประเทศขึ้นมา 2 สิ่ง คือ ปัญจเจดีย์พิทักษ์โลก (ภาคเหนือ) และเจ้าแม่กวนอิม 4 ปางพิทักษ์ไทย (ฝั่งทะเลตะวันตก ทางเข้าภาคใต้) ซึ่งจะทำให้โลกมนุษย์ยังอยู่รอด และพยายามทำให้เหตุการณ์ชะลอช้าลงไปอีก 30 ปี

ชาวไทยผู้มีศีลธรรม ซึ่งเหลือรอดจากภัยนี้ จะเป็นผู้บันทึกเหตุการณ์ให้คนรุ่นต่อไปทราบ โดยเฉพาะกลุ่มชนที่สวดมนต์ภาวนาจะมีบทบาทมาก หนทางแก้ไขคือรวมผู้มีอำนาจจิตมั่นคงในศีลห้า รวมกลุ่มสวดมนต์ให้มากทั่วโลก (ดำเนินการให้มีโครงการสวดมนต์เพื่อความมั่นคงของโลกมนุษย์) บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของผู้มีญานสูง เช่น ใบโพธิสัตว์ เหรียญมงคลจักรวาล ฯลฯ

นอกจากนั้น กล่าวถึงการเตรียมตัวทั้งในขณะนี้ ระยะที่ภัยพิบัติใกล้จะเกิดขึ้น และการปฏิบัติตัวในขณะที่เกิดภัยพิบัติ โดย 2 ระยะแรก เน้นที่การสวดมนต์ บำเพ็ญภาวนา ฝึกกรรมฐาน และรักษาศีล 5




Last modified: วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2542