ปูมหลัง 'ดร.สุชาติ'

กับอาณาจักรหุบผาสวรรค์ในอดีต

นายสุชาติ โกศลกิติวงศ์ เดิมชื่อ กิมฮง แซ่ฉั่ว เกิดเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2486 ที่เขตสัมพันธวงศ์ เป็นลูกคนที่ 5 ในจำนวน 7 คน เรียนจบชั้นประถมปีที่ 4 ที่โรงเรียนวัดราษฎร์บูรณะ เริ่มทำงานเลี้ยงชีพตั้งแต่อายุ 14 ปี ต่อมาถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารที่ค่ายธนะรัชต์ ปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และกรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1 (ปตอ.) กรุงเทพฯ

อายุ 17 ปี ได้เช่าบ้านแห่งหนึ่งย่านถนนริมทางรถไฟวงเวียนใหญ่ เพื่อเป็นสถานที่ประทับทรงโอปาติกะสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี และหลวงปู่ทวด โดยรับรักษาโรคร้ายที่แพทย์แผนปัจจุบันไม่รับรักษา ปลุกเสกเครื่องรางของขลังให้แก่ผู้ศรัทธาได้เช่า และทำน้ำมนต์เพื่อแจกจ่ายแก่ผู้ศรัทธา เมื่อมีคนศรัทธาเลื่อมใสมากขึ้น จึงย้ายสำนักไปอยู่ที่ถนนสุขสวัสดิ์ บางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ เมื่อปี 2508 และขณะที่อายุ 22 ปี ก็ได้รับแต่งตั้งจากโองการทั้ง 3 โลก อันได้แก่ พรหมโลก เทว-โลก และนรกโลก ให้เป็นผู้อำนวยการสำนักปู่สวรรค์

จากนั้นได้แยกไปก่อตั้ง 'สมาคมศาสนาสัมพันธ์' ที่บ้านเลขที่ 59 ถ.สุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตพระโขนง กรุงเทพฯ โดยมี พล.ต.ปราการ ภูวนาถนุรักษ์ เป็นผู้ยื่นจดทะเบียนที่ กทม. เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2518

ช่วงนี้มีประชาชนเลื่อมใสเป็นอันมาก จนมีผู้บริจาคที่ดินสำหรับเป็นที่ตั้งสำนัก เลขที่ 270 ซ.จาตุรงค์สงคราม ถ.เพชรเกษม บางแคเหนือ ภาษีเจริญ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักปู่สวรรค์ และมีสำนักงานสาขาย่อยอีกหลายหน่วยงาน อาทิ หนังสือพิมพ์สาส์นสวรรค์ ชมรมอาหารมังสวิรัติแห่งประเทศไทย ภาคีสภามังสวิรัติแห่งโลก และสำนักงานทูตสันติภาพแห่งโลก ซึ่งมีนายสุชาติ เป็น 'ทูตสันติภาพแห่งโลก' ขององค์การสภาธรรมนูญโลก ภาคีสหประชาชาติ นอกจากนี้ เขายังได้เป็น 'ดอกเตอร์' จากปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากจอห์น ดุย ยูนิเวอร์ซิตี้ คอนเซอร์เตียม ออฟ อเมริกา ในรัฐนิวเจอร์ซี สหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2530

ต่อมาได้มีการหาสถานที่แห่งใหม่เป็นสำนักงาน บริเวณเขาเสือหมอบ หรือเขาถ้ำพระ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากวัดเขาถ้ำพระ ราว 2 กิโลเมตร สำนักงานใหม่นี้ตั้งอยู่ที่ ต.ดอนทราย อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ซึ่งกรมศิลปากร ประกาศเป็นโบราณสถานสำหรับชาติเมื่อปี 2478 สำนักแห่งนี้รู้จักกันในนามของ 'อาณาจักรหุบผาสวรรค์' เป็นที่ทำการของหน่วยงานที่เขาตั้งขึ้นเกือบทุกหน่วยงาน ได้แก่ มูลนิธิชินนะปูโตอนุสรณ์ สำนักงานทูตสันติภาพแห่งโลก สภาพัฒนาจิตเยาวชน โครงการส่งเสริมอาหารมังสวิรัติ โครงการฝึกบำบัดโรคด้วยพลังจิต โครงการหมู่บ้านพระโพธิสัตว์ สมาคมศาสนาสัมพันธ์แห่งโลก โครงการวิปัสสนานานาชาติ โครงการภราดรภาพทางศาสนา และโครงการประชุมสันติภาพอันถาวรในโลกมนุษย์

19 ตุลาคม 2521 มีการจัดงานวางศิลาฤกษ์หอประชุมสันติภาพ ซึ่งในงานนี้มี พล.อ.เสริม ณ นคร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด สมเด็จพระสังฆราช และเอกอัครราชทูตของประเทศต่างๆ รวม 19 ประเทศ ไปร่วมด้วย

นายสุชาติรุ่งเรืองมากในช่วงปี 2513-2523 แต่ความรุ่งเรืองของเขาต้องสะดุดลงหลังจากที่เขาทำ 'ผังทำนายอนาคตของประเทศ' เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2517 รวมทั้งการจัดพิมพ์ปาฐกถาเรื่อง 'วันสิ้นชาติไทย' เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2524 ได้สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ประชาชนเป็นอย่างยิ่ง กระทั่งเป็นเหตุให้บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาต้องถูกพิพากษาจำคุกในปีเดียวกันนั้น เนื่องจากได้ตีพิมพ์คำทำนายดังกล่าว

ต่อมาทางราชการได้ใช้กฎหมายเข้าสลายอาณาจักรหุบผาสวรรค์ โดยยึดที่ตั้งหุบผาสวรรค์ ซึ่งเป็นที่ดินในความดูแลของกรมศิล-ปากรคืนเป็นของแผ่นดิน ในปี 2524 (สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ มีคำสั่งที่ 520/2524 และที่ 521/2524 เพิกถอนใบอนุญาตจัดตั้งสมาคมศาสนาสัมพันธ์ และมูลนิธิชินนะโตอนุสรณ์ ตามลำดับ ลงวันที่ 29 ธันวาคม 2524 ตามประมาลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 93)

หลังจากนั้นชื่อของนายสุชาติก็เงียบหายไป กระทั่งปรากฏเป็นข่าวอีกครั้งผ่านหน้าหนังสือพิมพ์ 'สาส์นสวรรค์' (ขณะนั้นเป็นหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น) เมื่อเดือนมีนาคม 2534 และสถานีวิทยุกระจายเสียงท้องถิ่นในจังหวัดราชบุรี ได้เผยแพร่ถึงการจัดงานเททองหล่อองค์สมมติ 'สามแม่ที่ถูกลืม' เป็นที่ฮือฮาของสื่อมวลชนในส่วนกลางไม่น้อย และในเวลาต่อมาทางจังหวัดราชบุรีก็มีหนังสือขอให้ระงับการจัดงานพิธีดังกล่าว พร้อมกับงดจัดงานและห้ามบุคคลเข้าไปในพื้นที่หุบผาสวรรค์ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2534

28 ธันวาคม 2534 นายสุชาติ โกศลกิตติวงศ์ ได้อำลาจากการเป็นฆราวาส และเกิดใหม่ในเพศบรรพชิต มีฉายาว่า 'อริยวังโส ภิกขุ' กระทั่งปัจจุบัน

8 ปีให้หลัง เราจึงได้ข่าวคราวของเขาอีกครั้ง ในพิธีเปิด 'แดนห้าแม่ผู้ยิ่งใหญ่' เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2542 'แดนห้าแม่ผู้ยิ่งใหญ่' อันได้แก่ แม่พระธรณี แม่พระโพสพ แม่พระคงคา แม่พระพาย และแม่พระเพลิง ณ อุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิม ต.พุสวรรค์ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ในงานนี้พระอริยวังโสภิกขุ ได้มาร่วมพิธีด้วย และได้กล่าวถึงเหตุที่มาร่วมงานว่า

"ปกติอาตมาอยู่บำเพ็ญภาวนาตามป่าเขาลำเนาไพร แต่ผู้มีศรัทธาได้ไปเล่าให้ฟังถึงการเสด็จของพระศาสดาซิกข์มาที่อุทยานฯ จึงได้มาร่วมพิธีในวันนี้ เพราะในอดีตขณะที่อาตมายังเป็นฆราวาสได้เดินทางไปยังรัฐปัญจาบเพื่อดำเนินงาน ภราดรภาพเพื่อสันติภาพ ครั้งนั้นได้รับการต้อนรับด้วยมิตรไมตรีเป็นอย่างดียิ่งจากพระศาสดา..." (นสพ. สาส์นสวรรค์, 1-28 กุมภาพันธ์ 2542)




Last modified: วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2542