page4

เดลินิวส์ 26/2/2542

แฉแผน'ธัมมชโย'กว้านซื้อที่หาทองไร่ละแค่ 2 พันบาท

"ธัมมชโย"ใกล้เป็นประธานบริษัทธรรมกายจำกัดเข้าไปทุกที แฉไปกว้านซื้อที่ดินทะลุ 2 จังหวัดตั้งแต่เพชรบูรณ์จรดพิจิตรเกือบพันไร่ยาวเหยียดใส่ชื่อตัวเอง ขุดหาทองคำ ส่ง"ตุ้ย กรมศุลฯ"ไปอุ้มชาวบ้านมาต่อรองถึงที่วัด ให้ไร่ละ 4 หมื่นแต่ในสัญญาใส่แค่ 2 พัน หลบภาษี สำนักนายกฯผวาส่งคนลงพื้นที่เก็บข้อมูล ขณะเดียวกันสันติบาลตามกลิ่นถึงภูเรือ พบสาเหตุมหาเถรฯไม่ถกปัญหาธรรมกาย สมเด็จวัดสระเกศฯปัดเรื่องออก บอกไม่ต้องกวนพระสังฆราชฯให้เจ้าคณะภาค 1 จัดการก็พอแล้ว ตำรวจระบุถ้าวัดฉาวทำผิดเกี่ยวกับศาสนาติดคุก1-7ปี

จากกรณีที่มีการขุดคุ้ยหลักฐานความไม่ชอบมาพากลของพระไชยบูลย์ ธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย โดยเฉพาะการกว้านซื้อที่ดินมาเก็บไว้ในมือถึง 4,853 ไร่ โดยใส่ชื่อไว้ทั้งในนามพระไชยบูลย์เอง และครองครองทางอ้อมผ่านมูลนิธิธรรมกาย ซึ่งในการจดทะเบียนมูลนิธิให้อำนาจพระไชยบูลย ์แต่เพียงผู้เดียวในการจัดการทรัพย์สินต่าง ๆ เป็นที่ดินในเขตปทุมธานี 2,666 ไร่ ที่เหลือกระจายไปต่างจังหวัดอีกหลายแห่งนั้น

เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมาผู้สื่อข่าว รายงานจากจังหวัดเพชรบูรณ์ว่า พระไชยบูลย์เข้ามาไล่ซื้อที่ดินในจังหวัดเพชรบูรณ์ตั้งแต่ต.ท่าข้าม ไปถึงต.ดงขุย ในอ.ชนแดน เนื้อถึง 789 ไร่ เป็นผืนยาวเหยียด โดยไล่ซื้อแบบควักเงินจ่ายกันสด ๆ หลังจากกรมทรัพยากรธรณ ีเข้ามาทำการสำรวจพบสายแร่ทองคำในบริเวณดังกล่าว ซึ่งได้มีการส่งนายถาวรและ"ตุ๋ย กรมศุลฯ"ซึ่งเป็นสีกาคนสนิทของพระไชยบูลย์เข้ามากว้านซื้อที่ดิน โดยอ้างว่าจะใช้สำหรับการสร้างสาขาวัดพระธรรมกาย และได้พาชาวบ้าน ไปเจรจาตกลงกันถึงที่วัดที่จ.ปทุมธานี

นายสมชาย ทองมา ราษฎรบ้านเขาบ่อทองกล่าวว่าตนขายที่ดินให้กับวัด 250 ไร่ เป็นที่ดินติดกับเขาบ่อทองที่พบว่ามีสายแร่ทองคำ ครั้งแรกเสนอราคาไป 6 ล้านบาท และสีกาตุ้ยเป็นผู้ต่อรองราคาลงมาโดยอ้างว่า พระไชยบูลย ์ไม่ค่อยมีเงินทำให้ภรรยาและลูกชายใจอ่อนตกลงขายให้ วิธีการซื้อสีกาตุ้ยควักเงินสด ๆ มาให้ก่อน 5 แสนบาท เป็นค่าวางมัดจำ และให้ตนลงนามในสัญญาเป็นผู้ขาย ส่วนผู้ซื้อทิ้งไว้ให้พระไชยบูลย์ลงนามเอง อีก 2 เดือนจึงนัดกันโอนที่ดิน โดยสีกาตุ้ยเป็นผู้ลงนามในเช็คให้ไปเบิกที่ธนาคารทหารไทย สาขาเขาทราย

"ผมแปลกใจทำไมวัดจึงมีเงินมากมายและเอามาจากที่ไหน เอาที่ชาวบ้านมากมายเช่นนี้ไปทำอะไร ก่อนหน้านี้วัดถ้ำกระบอกมาติดต่อขอซื้อที่ดินแปลงนี้ และยังเก็บตัวอย่างดินไป 6 ถุงปุ๋ยไปพิสูจน์แร่ทองคำที่วัด โดยนำไปเทใส่เตาหลอมขนาดใหญ่ แต่การซื้อไม่สามารถตกลงกันได้ จนในที่สุดมาขายให้กับพระไชยบูลย์"

การไล่กว้านซื้อที่ดินทั้งหมดของพระไชยบูลย์กระทำขึ้นในช่วงเดือนเมษายน 2535 หลังจากเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธานีนำอุปกรณ์เข้ามาสำรวจแร่ทองตั้งแต่ท้ายเขาตะแบก ผ่านเขาพบทองไปจนถึงเขาน้ำซับ และพระไชยบูลย์ให้เวลากว้านซื้อ 1 ปีถึงซื้อได้เป็นผืน จากนั้นในปี 2541 ได้มีการออกเป็นโฉนดให้ทั้งหมด โดยมีนายชาญวิทย์ ชาวงษ์ เป็นผู้รับมอบอำนาจจากพระไชยบูลย์ให้เดินทางมารับโฉนดเมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา

หลังจากพระไชยบูลย์เข้ามากว้านซื้อที่ดินครั้งนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่จากสำนักนายกรัฐมนตรีเข้ามาตรวจสอบขอ้มูล โดยไปพบชาวบ้านที่ขายที่ดินให้วัดพระธรรมกายเพื่อขอทราบข้อมูล นอกจากนี้
ทางอำเภอชนแดนยังเคยส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบข้อมูลด้วย เพราะการซื้อที่ดินจะใช้ชื่อจริงนามสกุลจริงถือครองคือใช้พระไชยบูลย์ สุทธิผล ไม่ใช่ใช้ชื่อวัด และเป็นการครอบครองที่มากผิดสังเกตุ ราคาที่ซื้อขายดังกล่าวมีการแจังต่ำกว่าราคาจริงอย่างมาก ชาวบ้านหลายรายเสนอราคาขายให้ไร่ละ 20,000-40,000 บาท แต่ในสัญญาซื้อ-ขายใส่ไว้แค่ 1,000-2,000 บาท เพื่อเลี่ยงภาษีการโอนที่ดิน ปัจจุบันที่ดินที่กว้านซื้อถูกขัดเป็นบ่อเพื่อหาทองคำ และส่วนใหญ ่ยังคงให้ชาวบ้านทำกินต่อไป โดยเก็บค่าเช่าไร่ละ 100 บาทต่อปี และมีสาวกเป็นผู้เก็บเงินไปส่งทางวัด นอกจากนั้นถ้าวัดมีการทำบุญสีกาตุ้ยจะประสานลงมาให้เดินทางไปร่วมทำบุญตอลด และเป็นผู้แนะนำให้ไปทำบุญโดยการสร้างพระประจำตัวด้วย

นายผไท วิจารณ์ปรีชา ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์กล่วว่า ทางจังหวัดให้อำเภอชนแดนตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับการซื้อที่ดินของพระไชยบูลย์
แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน และไม่ขอแสดงความเห็นให้ไปถามพระเองดีกว่า

พระครูบริรักษ์ชนเขต เข้าคณะอำเภอชนแดนและเจ้าอาวาสวัดโพธิ์เตี้ย ต.ท่าข้าม อ.ชนแดน กล่าวว่าไม่ทราบมาก่อนว่าพระไชยบูลย์มากว้านซื้อที่ดิน และไม่รู้เหตุผลทำไปซื้อมากมายเช่นนี้ ลำพังการก่อตั้งวัดหรือสถานที่ปฏิบัติธรรมแค่ 5-10 ไร่ก็พอแล้ว รวมถึงการใช้ชื่อพระ ไปเป็นผู้ครอบครองที่ดินก็ไม่ถูกควรใช้ชื่อวัด

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าไม่เพียงแต่ที่ดินในเขตอ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์เท่านั้นที่ถูกกว้านซื้อ แต่ที่ดินในจ.พิจิตรก็ถูกพระไชยบูลย์กว้านซื้อด้วยเช่นกัน โดยเข้าไปซื้อที่อ.วังทรายพูน จำนวน 6 แปลง เนื้อที่ 155 ไร่ด้วย โดยเข้าไปซื้อบริเวณเขาพนมพา และที่จ.พิจิตรนี้ก็มีการสำรวจแร่ทองเช่นกัน รวมถึงเป็นสายแร่ทองคำเดียวกับที่ จ.เพชรบูรณ์

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.ลพบุรีว่าพระไชยบูลย์ถือครองที่ดินในอ.เมืองลพบุรี เขตต.โคกตูม จำนวน 278 ไร่เศษ�โดยได้รับการถวายจากนายประกอบ จิรกิติ ส.ส.เขต 10 พรรคประชาธิปัตย์ และนางวรรณา จิรกิติภรรยา ซึ่งนางวรรณาเป็นน้องสาวนายบุญชัย เบญจรงคกุล ประธานกลุ่มยูคอม ที่ดินผืนนี้สวยงามมากมีลำห้วยสาธารณะไหลผ่าน มีภูเขาใกล้ที่ดิน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.เลยว่าพระไชยบูลย์ครอบครองที่ดินใน 2 ตำบล อยู่ในเขตอ.ภูเรือ จำนวน 283 ไร่ โดยใส่ชื่อของตัวเอง โดยมีคนสนิทของวัดเป็นผู้ดำเนินการ ก่อนหน้านี้มีตำรวจสันติบาลเข้ามาขอดูรายละเอียด และได้ให้รายละเอียดทั้งหมดแล้ว

นายอาคม เอ่งฉ้วน รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตนจะเดินทางไปกราบนมัสการพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ในวันที่ 2 มีนาคมนี้หลังจากที่พระพรหมโมลีกลับมาจากประเทศอินเดีย เพื่อขอให้ตัดสินกรณีปัญหาวัดพระธรรมกาย ก่อนที่จะเสนอที่ประชุมมหาเถรสมาคมอีกครั้ง

สำหรับสาเหตุที่มหาเถรสมาคมไม่ได้พิจารณาปัญหาวัดพระธรรมกายเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมาโดยให้เจ้าคณะภาค 1 ดำเนินการ นายอาคมกล่าวว่า เนื่องจากสมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าอาวาสวัดสระเกศ บอกว่าไม่ต้องการรบกวนสมเด็จพระสังฆราช เพียงให้พระพรหมโมลีพิจารณาก็พอแล้ว

ส่วนที่มีการเสนอจากกรรมาธิการการศาสนาฯ จะให้เปลี่ยนตัวเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ต้องอยู่ที่มหาเถรสมาคม โดยกรรมาธิการไม่มีอำนาจ และต้องเสนอต่อสภาฯ จากนั้นสภาฯจะนำเรื่องให้รัฐบาลดำเนินการต่อไป และที่ประชาชนห่วงเรื่องนี้มากว่าจะยุติอย่างไร คงอยู่ที่มหาเถรสมาคมจะต้องเร่งสรุป หากไม่ดำเนินการปัญหาจะบานปลายออกไปและมีเสียงวิจารณ์ออกมาอีก

นายอาคมยังกล่าวถึงกรณีที่มีเด็กขู่จะฆ่าตัวตาย หากผู้ปกครองไม่ยอมให้เงินไปสร้างพระธรรมกายประจำตัวด้วยว่า การทำบุญไม่ใช่เอาแต่เงินหรือยังคับว่าต้องทำเท่าใด หากเป็นเช่นนั้นคงขัดต่อมติมหาเถรสมาคม เรื่องการเรี่ยไรหรือขายบุญ และการที่สภาความมั่นคงแห่งชาต ิออกมาระบุว่าวัดพระธรรมกายบั่นทอนความมั่นคงของชาติต้องพูดให้ชัดว่าบั่นทอนอย่างไร และเรื่องที่ดินของเจ้าอาวาสได้สรุปให้มหาเถรฯพิจารณาแล้ว ในความเห็นส่วนตัว ควรจะโอนเป็นที่ของวัดแทนเข้าอาวาสเพราะหากเจ้าอาวาสสึกออกไปจะได้เป็นของวัด ไม่เช่นนั้นจะเป็นของทิดที่เพิ่งสึก

นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าปัญหาธรรมกายเป็นหน้าที่ของมหาเถรสมาคมจะพิจารณา ไม่ใช่หน้าที่ของกองทัพหรือทหาร แม้จะกระทบความมั่นคงชองชาติ แต่เป็นความมั่นคงภายใน ก็คือความเสื่อมคลายของศาสนา ขณะเดียวกันพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ผบ.ทบ.ที่อยู่ในบริเวณเดียวกันกล่าวว่าเรื่องนี้เป็นความเชื่อ เป็นเรื่องของบุคคลนั้น ๆ ซึ่งผู้สื่อข่าวถามว่ามีการแอบอ้างสถาบันชั้นสูงเพื่อระดมเงินจะไม่ดูแลเลยหรือ ทำให้นายชวนกล่าวแทรกว่าเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น

รายงานข่าวจากกรมสรรพากรเปิดเผยว่า การเข้าไปสอบธุรกิจของวัดพระธรรมกาย ยังไม่สามารถสรุปผลออกมาได้ เพราะไม่ได้ความร่วมมือของวัด และกรมกำลังตรวจสอบการก่อสร้างคอนโดมิเนียมให้กับสมาชิกของวัด และพบว่ามีการว่าจ้างบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ชื่อย่อ"ล."ให้ดำเนินการ หากพบว่าวัดว่าจ้างก็ต้องเสียภาษีในอัตราธุรกิจเฉพาะ 3.3%

รายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดเผยว่า การที่มีการระบุว่าวัดพระธรรมกาย มีพฤติกรรมกระทบความมั่นคงของชาติ และผิดเพี้ยนบิดเบือนศาสนาต้องให้ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสนาตีความ และดูเจตนาเช่นหลอกลวงให้เชื่อในทางมิชอบ นำเงินมาทุ่มบริจาคแล้วคนใกล้ชิดเดือดร้อน เอามรดกมาบริจาคเป็นต้น โดยในประมวลกฎหมายอาญาระบุความผิดเกี่ยวกับศาสนาไว้ในลักษณะที่ 4 ซึ่งมี 3 มาตราได้แก่มาตราที่ 206 ผู้ใดกระทำการใด ๆ แก่วัตถุหรือสถานอันเป็นที่เคารพในทางอัน
เป็นการเหยียดหยาม ต้องระวางโทษจำคุก 1-7ปี ปรับ 2,000 -10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ,มาตราที่ 207 ผู้ใดก่อความวุ่นวาย ในที่ประชุมศาสนิกชน หรือพิธีกรรมปฏิบัติระวางโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 2,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 208 ผู้ใดแต่งกายเลียนแบบสงฆ ์มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ