เดลินิวส์ 20/2/2542

ศิษย์'ธรรมกาย'ได้ทีใครขวางมีอันเป็นไป

ธรรมกายอวดอิทธิฤทธิ์อีกอ้างใครต่อต้านการ"ดูดทรัพย์"สร้างเจดีย์ มีอันเป็นไปให้เห็นกับตา ถึงกับปัสสาวะไม่ออกไปขวางบุญคนอื่น รถคว่ำต้องเข้าไอซียู บอก มี.ค.นี้ จะปิดเจดีย์ได้แน่ มีพระจากอยุธยาทำนายไว้แล้ว "ธัมมชโย" บารมีสูง ถึงวันนั้นใครที่กู้หนี้ยืมสินมาทำบุญจะร่ำรวยเป็นแถบ ๆ พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ประชุมมหาเถรฯ อาจไม่ยุติในนัดเดียวต้องรอคำชี้แจงจากธรรมกายด้วย "อาคม" ย้ำต้องแยกให้ถูกวัดต้องอยู่ต่อไป ส่วนเจ้าอาวาสจะเป็นอย่างไรอีกเรื่อง "เสฐียรพงษ์" ฟ้องแพ่ง-อาญา หนังสือพิมพ์ลงข่าวทำลายชื่อเสียง

เมื่อวันที่ 19 ก.พ. นายอาคม เอ่งฉ้วน รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้นายอำนาจ บัวศิริ จัดทำเอกสารที่คณะกรรมการรวบรวมข้อมูลกรณีปัญหาวัดพระธรรมกายของกระทรวงศึกษาธิการสรุปไว ้ทั้งหมด 8 ประเด็น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อผิดพลาดในการเผยแผ่ศาสนา เรื่องเหล่านี้ไม่มีเรื่องต้องปาราชิกแต่อย่างใดจำนวน 18 ชุดเพื่อนำถวายต่อกรรมการมหาเถรสมาคมแล้ว พร้อมทั้งให้กรมการศาสนาจัดทำรายละเอียดเตรียมบรรจุ
เรื่องของวัดพระธรรมกาย เป็นวาระพิเศษ เพื่อนำเข้าสู่การประชุมในวันที่ 24 ก.พ. นี้ "ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทันตามบัญชาของสมเด็จพระสังฆราชที่ต้องการให้มหาเถรสมาคมพิจารณา เพราะช่วงนี้ทางวัดบวรนิเวศน์ฯ ก็กำลังติดภารกิจเกี่ยวกับเรื่องการมรณภาพ ของพระเถระของวัด นอกจากนี้แล้วสมเด็จพระสังฆราชจะเสด็จกลับจากประเทศอินเดียในวันที่ 23 ก.พ. อาจจะยังทรงเหน็ดเหนื่อยอยู่ กรมการศาสนานั้นได้มีการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดถวาย กรรมการมหาเถรสมาคมแล้ว"

นายอาคมกล่าวว่า ได้ติดต่อไปยังคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมด้วยเช่นกัน ซึ่งได้ทราบว่าทาง กมธ. ได้รวบรวมข้อมูลเอกสารหลักฐาน รวมทั้งเทปบรรยายธรรมของพระราชภาวนาวิสุทธิ์เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และเทปการสนทนาระหว่างพระพิศาลธรรมวาที (พระพยอม กัลยาโณ) กับพระอดิศักดิ์ อดีตพระคนสนิทของเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายเพื่อถวายแก่กรรมการมหาเถรสมาคมแล้วเช่นกัน ซึ่งเป็นความผิด ของเจ้าอาวาสในด้านพระวินัย ธรรมดาและร้ายแรง แต่คงต้องรอการพิจารณา ของพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ด้วยว่าจะออกมาในลักษณะใด จึงจะมีการนำเสนอต่อมหาเถรสมาคมอีกครั้ง

รมช.ศึกษาฯกล่าวด้วยว่า ในการประชุมวันที่ 24 ก.พ. นั้นอาจจะยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน เพราะข้อมูลที่ถวายแก่กรรมการมหาเถรสมาคมนั้นมีเพียงด้านเดียว คือจากกระทรวงศึกษาฯ จากคณะ กมธ. ศาสนาฯ และจากพระพรหมโมลี ไม่มีของวัดพระธรรมกาย จึงอาจจะมีการเลื่อนการพิจารณาเพื่อรอดูข้อมูล ของวัดพระธรรมกายด้วยโดยอาจจะนำไปประชุมครั้งต่อไปแทน ซึ่งน่าจะสรุปเรื่องราวต่าง ๆ ได้

ส่วนที่หลายฝ่ายได้นำข้อมูลต่างๆไปถวายแก่กรรมการมหาเถรสมาคมนั้น นายอาคมกล่าวว่า ถือเป็นการเร่งรัดการดำเนินการอย่างหนึ่ง แต่จะไปกำหนดว่าผลต้องออกมาเมื่อใดนั้นคงจะไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตามคิดว่าคงมีผลออกมาใน 2 ส่วนคือ ส่วนของวัดที่ยังคงเป็นวัดในพระพุทธศาสนาอยู่เช่นเดิม
คงไม่มีใครไปยุบเลิก ดังนั้นไม่น่าจะมีปัญหาอะไรและทรัพย์สินต่าง ๆ ของวัดก็ยังเป็นของวัดต่อไป อีกส่วนหนึ่งก็คือกรณีคำสอนของเจ้าอาวาสที่มหาเถรสมาคมต้องพิจารณาว่าถูกต้องตามหลักพระศาสนาหรือไม่ หรือมีสิ่งอื่นใดที่ต้องให้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะต้องวินิจฉัยออกมา และเมื่อผลออกมาผู้ที่เกี่ยวข้อง
กับวัดจะรับได้หรือไม่ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง

สำหรับความเคลื่อนไหวของวัดพระธรรมกายท่ามกลางกระแสการสอบสวนพระไชยบูลย์ ธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดของมหาเถรสมาคมนัดพิเศษก็ยังมีอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการปลุกปลอบขวัญบรรดาสาวก โดยวารสารกัลยาณมิตรของวัดพระธรรมกายฉบับล่าสุดเดือน ก.พ. นี้ อุบาสิกาถวิล วัตรางกูล อุบาสิกาคนสำคัญของวัด เขียนไว้ในคอลัมน์ความทรงจำ โดยระบุว่าในวันที่ 1 มีนาคมนี้ ตรงกับวันมาฆบูชา วัดจะมีงานบุญใหญ่และจะเป็นวันสุดท้ายในการปิดมหาธรรมกายเจดีย์ใครยังไม่ได้สร้างจะหมดโอกาส โดยใครที่เคยสร้างพระประจำตัวและไว้นอกเจดีย์จะทำให้ร่างกายสวยงาม ถ้าสร้างในเจดีย์จะมีจิตใจสวยงาม มีคุณธรรม คนมีเงินมีทองอย่ามัวลังเล รีบเอามาทุ่มเทเสีย ไม่เช่นนั้นจะต้องอายคนไม่มีเงินที่ไปกู้หนี้ยืมสินมาสร้างก็ยอม

นอกจากนั้นยังมีการอ้างถึงพระอายุ 90 ปี ที่ จ.พระนครศรีอยุธยาด้วยว่ามีคนไปถามมีพวกไม่เข้าใจโจมตีวัดพระธรรมกาย แล้วเจดีย์จะสร้างเสร็จหรือไม่ ซึ่งพระรูปดังกล่าวหลับตาและบอกว่าไม่มีปัญหาสร้างได้แน่เพราะพระไชยบูลย์มีบารมีมาก แถมเมื่อสร้างเจดีย์เสร็จประเทศไทยจะรุ่งเรืองเป็นอัศจรรย์ โลกจะอยู่เย็นเป็นสุข รวมถึงใครที่แกล้งใส่ความกล่าวร้ายจะมีอันเป็นไปเพราะทำบาปหนักทำลายพระศาสนา ส่วนพวกที่ร่วมกันสร้างเจดีย์ อีกไม่นานชีวิตจะพลิกฟื้นคืนดี ร่ำรวยร่มเย็นเป็นอัศจรรย์

ข้อเขียนดังกล่าวยังมีการระบุว่าได้เห็นกรรมตามทันพวกที่โจมตีผิด ๆ เช่น 3 วัน 7 วัน ลูกถูกจับเข้าคุกฐานเมาสุราอาละวาด บางรายขับรถกลับมาจากกาญจนบุรีก็รถพลิกคว่ำ ลูกเมียต้องเข้าห้องไอซียู หรือบางรายปัสสาวะไม่ออก เพราะปิดกั้นบุญคนอื่น บางคนเดินทางยางก็ระเบิด

นายเสฐียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิต เปิดเผยว่าตนยื่นฟ้อง ต่อบริษัทสยามบิสซิเนส แอนด์ พริ้นติ้ง เจ้าของหนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย ทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา โดยในส่วนคดีแพ่งฟ้องบริษัทเป็นจำเลยที่ 1 ,นายปรีชา สามัคคีธรรม เป็นจำเลยที่ 2 และนายทวีป จงกลรอด เป็นจำเลยที่ 3 เรียกค่าเสียหาย 58.39 ล้านบาทในหลายกระทงในฐานะที่ทำให้ชื่อเสียง
เสียหาย เกียรติยศทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วยการบิดเบือนความจริง

ส่วนคดีอาญานายเสฐียรพงษ์กล่าวว่าได้ฟ้องนายปรีชาและนายทวีปในฐานะบรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา โดยได้มีการเผยแพร่ข้อความว่ามหานอกวัดหรือมหา ส. รับทุนต่างชาติล้มล้างศาสนาพุทธ และยังมีข้อความมหา ส. หรือมหานอกวัดปลุกปั่นยุยงรับเงินทุน 400 ล้านบาท เป็น 1 ใน 12 มารเป็นหัวหน้าทำลายศาสนา โดยถึงแม้ไม่มีการระบุชื่อออกมาแต่ทว่าในเนื้อความเป็น การจำเพาะเจาะจงมาที่ตน ตั้งแต่บ้านเกิดที่อยู่มหาสารคาม, มาบวชสามเณรอยู่ที่วัดทองนพคุณ และได้ไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ รวมถึงระบุว่ามหา ส. ได้เขียนบทความลงหนังสือพิมพ์ด้วยซึ่งสามารถนำสืบได้

ในวันเดียวกันที่จังหวัดปทุมธานี นายยงยุทธ วิรางกูล นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลท่าโขลง ได้ชี้แจงเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารมหาธรรมกายเจดีย์ และสภาธรรมกายสากลที่ไม่ได้ขออนุญาตก่อสร้างว่า ไม่สนใจในประเด็นนี้เพียงแต่เป็นเรื่องที่ทำให้ชื่อเสียงเสียหายเท่านั้น ข้อเท็จ จริงคือ ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 9 พ.ศ. 2528 ออกตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมอาคารนั้นอาคารดังกล่าวไม่ต้องขออนุญาตก่อสร้าง โบราณสถานวัดวาอารามหรืออาคารต่าง ๆ ที่ใช้เพื่อการศาสนามีกฎหมายควบคุมการก่อสร้างโดยเฉพาะ

อย่างไรก็ตามในเรื่องการขออนุญาตนั้นได้สอบถามปลัดเทศบาลนายถาวร จันทร์กล่ำแล้วทราบว่าไม่มีบทลงโทษ นอกจากนี้หากไม่มีผู้ร้องเรียนจะให้เข้าไปตรวจสอบทันทีก็คงเป็นไปไม่ได้เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมและ
ขณะนี้ในแง่ข้อกฎหมาย ก็ยังไม่ชัดเจนเท่าใดนัก ส่วนที่ว่าเมื่อมีการก่อสร้างไปแล้วมาขออนุญาตทีหลังได้หรือไม่นั้น ก็สามารถทำได้หากว่าวิศวกรผู้ควบคุมการก่อสร้างเซ็นรับรองว่าจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายในภายหลัง.