เดลินิวส์ 28/12/2542

ตอกธรรมกาย ไร้สามัญสำนึก
กรรมาธิการศาสนาตอกหน้าธรรมกาย ไม่มีสามัญสำนึกขอพระราชทานเฉวียงแก้วงานบวชอุบาสก
สุดท้ายสำนักราชเลขาธิการฯตอบปฏิเสธ เจ้าคณะภาค 1 ประกาศคำสอนนิพพานเป็นอัตตาผิดเพี้ยน
จะถาม"ธัมมชโย"กับปากอีกครั้ง
ขณะที่วัดฉาวระดมขนรถบัสหรูไปเกณฑ์คนหวังดูดให้มางานบวช ปั้นข่าวมีศาสนาอื่นจ้องล้มให้รีบมาปรึกษาหาทางรับมือ แฉไม่ใช่ของใหม่เมื่อ 10 ปีก่อนที่เคยตกเป็น
ข่าวไล่ที่ชาวนาก็เคยยกข้ออ้างนี้ขึ้นมาแล้ว มีวิชามารออกหนังสือป้ายสี"เสถียรพงษ์ วรรณปก" แอบ
สอดไส้ในหนังสือพิมพ์บนแผง
เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมานายอาคม เอ่งฉ้วน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่าตนเดินทางไป
กราบนมัสการพระพรหมโมลี เจ้าอาวาสวัดยานนาวา เจ้าคณะภาค 1 เมื่อคืนวันที่ 26 ม.ค.เพื่อสอบถามความคืบหน้าใน
การดำเนินการปัญหาวัดพระธรรมกาย พร้อมกับนมัสการด้วยความหว่งใยหากไม่มีการพิจารณา
จะมีข้อวิพกาษ์วิจารณ์มหาเถรสมาคมไม่กล้าตัดสินปัญหา
"ท่านก็เข้าใจและหารือถึงขั้นตอนที่ท่านดำเนินงานด้วยว่าผมด้วยหรือไม่ โดยก่อนที่ผมจะไปพบท่านเรียกเจ้าคณะ
จังหวัดปทุมธานี เข้าพบให้รายงานการเผยแพร่และกิจกรรมของวัดมีข้ออะไรที่อยากให้พัฒนาและปรับปรุง ขณะเดียวกัน
ยังได้ขอให้นายสุวัฒน์ เงินฉ่ำ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการรวมรวมข้อมูล
ของกระทรวงศึกษาธิการนำข้อมูลมาประกอบการพิจารณาและอีกส่วนท่าหาข้อมูลมาเองรวมถึงที่ประชาชนส่งมาให้ด้วย"
นายอาคมกล่าวอีกว่าเมื่อได้ข้อมูลครบทั้ง 3 ส่วนพระพรหมโมลีคงจะเดินทางไปวัดพระธรรมกายเพื่อดูข้อเท็จจริง จากนั้นจะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เชื่อว่าสงฆ์จะรับได้ เท่าที่รับฟังก็เชื่อว่าพระพรหมโมลีกล้าที่จะชี้ถูกชี้ผิด และผลที่ออกมาชาวพุทธจะรับได้ ท่านก็เข้าใจถึงความเป็นห่วงว่าหากล่าช้าจะไม่เป็นผลดี โดยท่านบอกว่าวัด
พระธรรมกายเป็นองค์กรขนาดใหญ่ จดทะเบียนมานานกว่า 30 ปี และไม่แน่ใจว่ามีผู้ถือปฏิบัติถึง 1 ล้านคนหรือไม่ การตัดสินใจอย่างใดต้องทำด้วยความรอบคอบ
นอกจากนั้นระหว่างการหารือพระพรหมโมลีมีการอธิบายหลายประเด็นให้ฟังนานมาก เช่นประเด็นการสอนว่านิพพานเป็นอัตตาคือมีตัวตน เป็นสถานที่ พระพรหมโมลีกล่าวว่าหากพูดนิพพานเป็นอัตตาไม่ถูกเพราะ
ในพระไตรปิฎกไม่พูดเช่นนั้น
และจะไปถามพระไชยบูลย์ ธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
ให้ยืนยันว่าได้พูดนิพพานเป็นอัตตาหรือไม่ เพราะขณะนี้มีเพียงเอกสาร หรือลูกวัดที่ออกมาพูด ซึ่งไม่รู้จริง
และยังจะถามเรื่องสีกาอี๊ดด้วย ซึ่งนายอาคมกล่าวว่าเรื่องสีกาอี๊ดได้เรียนพระพรมโมลีวาไม่มีหลักฐาน ไม่มีข้อมูลจากคณะกรรมการรวบรวมข้อมูลของกระทรวง จึงไม่ได้พิจารณาประเด็นนี้ เพราะไม่มีเจ้าทุกข์ ไม่เหมือนกับกรณีพระยันตระ แต่หลังจากนี้หากมีข้อสงสัยหรือข้อมูลเพิ่มสามารถไปกราบนมัสการ
ท่านได้ตลอด
ที่จ.สระแก้ว นายศักดา กองชุมพล หัวหน้าหมวดวิชาสังคมศึกษา โรงเรียนมัธยมสระแก้ว เปิดเผยว่าขณะนี้ได้มีนักเรียนแจ้งมาประมาณ 200 คนแล้วว่าจะไม่ไปบวชอุบาสกแก้วที่วัดพระธรรมกาย
ทั้งที่เคยรับไปสมัครไปแล้ว และเหลือที่จะร่วมเดินทางแค่ 30 คน โดยไม่มีการบังคับ
"พระจากวัดธรรมกายมาที่โรงเรียนถึง 5 ครั้ง เพื่อชักชวนให้เด็กเข้าไปร่วมงานบวช และไม่พบผู้อำนวยการแต่ตรงมาที่หมวดวิชาสังคมฯเลย โดยอ้างว่าจะมีหนังสือจากอธิบดีกรม
สามัญศึกษา
ตามมา และขอให้ผมแจกใบสมัครไปก่อนแต่รอถึงวันนี้ก็ยังไมเ่ห็นหนังสือที่ว่าเลย "
นายสุริยา เกิดเหมาะ เด็กนักเรียนชั้นม. 5 กล่าวว่าตนสมัครมางานบวช แต่จะมาวัดเดียวเพราะทุกอย่างฟรีหมด แถมพระที่มาชวนบอกว่าจะมีของดีแจกก็เลยไป
ด้านพระครูธำรงค์ปริยัติคุณรองเจ้าคณะอำเภอเมืองกล่าวว่าไม่จำเป็นที่วัดจะต้องเสียงบประมาณให้เด็กไป
บวชที่วัด การทำเช่นนี้น่าจะเป็นการเสริมบารมีให้ตัวเอง นักเรียนเสี่ยงอันตรายในการเดินทาง ต้องใช้เงินมาก โครงการนี้น่าจะมีอะไรแอบแฝงลึก ๆ แน่นอน
ถ้าจะส่งเสริมศาสนาก็จัดตามจังหวัดต่าง ๆก็ได้อาตมา
ก็นำเด็กมาบวชอบรมจิตใจนับสิบปีแล้ว
ที่จ.เพชรบูรณ์ ได้มีการแจกใบปลิวให้คนไปบวชอุบาสกที่วัดโดยเจ้าของร้านสินไพศาลซึ่งเป็นลูก
ศิษย์วัดกล่าวว่าใครไปบวชจะได้ของดีคือพระมหาสิริราชธาตุรุ่นพิชิตมาร และวัดเตรียมรถบัสขนาดใหญ่อำเภอละ 8 คันเพื่อขนคนแล้ว และตนยังได้ยินเจ้าอาวาสพูดว่าทุกวันนี้จะมีศาสนาอื่นเข้ามาทำลาย จึงต้องเรียกศิษย์ไปวางแผนต่อต้านมารศาสนา
ที่จ.สุราษฎร์ธานี ก็มีการชักชวนไปบวชชีปะขาวเช่นกัน โดยแม่ชีสุมนทิพย์ ผู้ดูแลศูนย์ประสาน
งานวัดพระธรรมกายกล่วว่ามีลัทธิอื่นจะล้มศาสนาและวัดธรรมกายเพราะจะสร้างธรรมกายสากลเป็นศูนย์กลางชาวพุทธ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับเรื่องศาสนาอื่นจะมาทำลายวัดพระธรรมกายได้มีการปลุกปั่นกระแสดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่มีการทำใบปลิวแจกจ่ายไปตามบ้านพักอาศัย ว่ามีการให้ทุนจากศาสนาอื่นแก่สื่อมวลชน ให้มาล้มศาสนา โดยวัดพระธรรมกายจะเป็นเหยื่อเหมือนกรณีอื่นๆ เช่นกรณีพระยันตระ รวมถึงล่าสุดได้มี
การออกหนังสือปกดำ 8 หน้า โจมตีนายเสถียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิตที่ออกมาจุดกระแสให้แก้ปัญหา
วัดพระธรรมกายโดยหนังสือดังกล่าวได้มีการแอบสอดแทรกเข้าไปในหนังสือพิมพ์รายวันหลายฉบับโดย
"เดลินิวส์"ก็แอบถูกสอดแทรกเข้าไปด้วยในแผงหนังสือ ซึ่งหนังสือปกดำดังกล่าวไม่เกี่ยว
ข้องกับทางเดลินิวส์แม้แต่น้อย
นอกจากนั้นทางวัดยังมีสิ่งพิมพ์เฉพาะกิจในหลากรูปแบบออกมาจุดกระแสเรื่องศาสนาอื่นจ่ายเงินล้มวัดพระธรรมกาย ซึ่งข้ออ้างดังกล่าวถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นเมื่อวัดพระธรรมกายถูกตรวจสอบ เพราะโดยในช่วงที่วัดพระธรรมกายเคยมีปัญหาการขับไล่ชาวนาเพื่อขยายอาณาจักรวัด
เมื่อปี 2531 ทางมูลนิธิธรรมกายก็เผยแพร่ข้อมูลออกมาขนาดทุ่มทุนทำเป็นหนังสือ
เฉพาะกิจชื่อ"ความจริงเกี่ยวกับการสร้างธุดงคสถาน" โดยในหน้า 12 ระบุว่าปัญหาที่เกิด
ขึ้นของวัดเป็นเรื่องน่าคิดว่าเป็นแผนทำลายพุทธศาสนาหรือไม่
นายอำนวย สุวรรณคีรี รองประธานคณะกรรมาธิการศาสนา กล่าวว่าสำนักราชเลขาธิการ ทำหนังสือตอบไปยังวัดพระธรรมกายแล้วว่าจะไม่มีเฉวียงพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพราะเป็นการปฏิบัติธรรมตามปกติ นุ่งขาวห่มขาวก็พอแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องมีเฉวียงหรือผ้าพาดในการบวชอีก
"เรื่องนี้มันไม่เหมือนกับขอพระราชทานไตรจีวร ไม่ได้บวช การจะขอน่าจะมีสามัญ
สำนึกกลั่นกรองเรื่องต่าง ๆด้วย "