เดลินิวส์ 4/12/2541

ชาวกรุงค้านวิธีบุญธรรมกาย

กรุงเทพโพลระบุคนกรุงไม่เห็นด้วยกับการทำบุญแบบธรรมกายที่เน้นปาฏิหาริย์ หนุนให้รัฐบาล-มหาเถรสมาคมเร่งตัดสินก่อนเกิดความแตกแยก "อาคม" เสียงอ่อนหลังจากได้รับจดหมายจากญาติธรรม ระบุต้องผ่อนปรนสิ่งไหนผิดก็แก้ไขไป สั่งเปิดสายด่วนฟังความเห็นประชาชน อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ออกโรงปาฏิหาริย์ มีจริง ท้าพิสูจน์อาทิตย์นี้ ชาวฮอดร้องถูกสาขาย่อยของวัดบุกที่ดิน ขณะที่อีกสาขาที่เกาะช้างร้างไปแล้วทั้งที่ทุ่มเงินก่อสร้างนับร้อยล้าน
เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพล บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชากรในกรุงเทพฯ เกี่ยวกับวัดพระธรรมกายปรากฏว่าส่วนใหญ่ 90.7% เคยได้รับข่าวสารเกี่ยวกับการทำบุญของวัดธรรมกาย
อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่างถึง 88.5% เห็นว่าการทำบุญลักษณะนี้ไม่ถูกต้อง และ 87.6% เห็นว่าการสร้างมหาธรรมกายเจดีย์มูลค่าหมื่นล้านบาทไม่มีความเหมาะสม
นอกจากนั้นประชาชนถึง 83.5% มีความเห็นว่าการที่รัฐบาลจะเข้าไปตรวจสอบไม่ใช่การก้าวก่าย และ 90.8% เห็นว่าการเชิญชวนให้ทำบุญโดยเน้นเรื่องอภินิหาร ปาฏิหาริย์ และผลบุญที่สามารถซื้อได้ ไม่เหมาะสม รวมไปถึง 88.8% ของกลุ่มตัวอย่างระบุว่าการบอกบุญในลักษณะชักจูงเช่นนี้เป็นสิ่งที่ยึดถือปฏิบัติไม่ได้
การวิเคราะห์เชิงลึกยังสรุปผลอีกว่ามหาเถรสมาคมควรจะดำเนินการตรวจสอบอย่างรวดเร็วและโปร่งใส อย่าปล่อยเวลาให้นานไปเหมือนกับคดียันตระเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน หากปล่อยให้ยืดเยื้อจะสร้างความแตกแยกให้กับพุทธศาสนิกชนได้ และต้องหาข้อยุติเป็นบรรทัดฐาน เพื่อแนวทางในการปฏิบัติเกี่ยวกับวิธีการบอกบุญ เพราะวัดธรรมกายใช้แผนการตลาดรูปแบบใหม่ที่คนไม่คุ้นเคย และคงจะมีวัดอื่นทำในรูปแบบ ต่าง ๆ กันออกไป
วัดพระธรรมกายและวัดสำคัญต่าง ๆ ควรต้องเปิดเผยที่มาและที่ไปของเงินบริจาค เพราะในกรณีนี้จะต้องใช้เงินก่อสร้างกว่าหมื่นล้านบาทด้วย และให้กระทรวงศึกษาธิการเข้ามาตรวจสอบวิธีการสอนของวัดพระธรรมกาย เพื่อความโปร่งใส และให้แน่ใจว่าวิธีการปฏิบัติธรรมนั้นไม่มีการใช้วิธีการอย่างอื่นเข้ามาแทรกเหมือนเช่นในต่างประเทศเช่นมูนิสซึ่มของเกาหลีใต้ บ๊านซ์เดวิเดียน ในอเมริกา เมื่อทุกอย่างกระจ่างแล้ว ประชาชนที่เข้าไปปฏิบัติธรรมได้ไม่มีข้อแคลงใจ
นายอาคม เอ่งฉ้วน รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่ากิจกรรมของวัดพระธรรมกายมีทั้งส่วนดีและไม่ดี หากสิ่งใดบกพร่องมหาเถรสมาคมจะสั่งให้แก้ไขเอง ส่วนถึงขั้นให้ปิดวัดคงเป็นเรื่องยาก เพราะศาสนามีความละเอียดอ่อน มีความเชื่อและความศรัทธาอยู่ด้วย โดยวัดนี้มีคนทำบัญชีมาก และอาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรง ขณะนี้ทราบว่าวัดเริ่มปลดป้ายที่เกี่ยวกับอภินิหารลงมาแล้ว แต่อยากให้มีการดูแลเรื่องการอาศัยวัดในการหาเงินเชิงธุรกิจด้วย โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่ใกล้วัดและชักชวนให้ผู้ที่มาทำบุญไปซื้อ
นายอาคมกล่าวอีกว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้เพื่อนของพระภาวนาวิริยคุณ รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายมีหนังสือมาถึงตน ให้พิจารณาปัญหาวัดพระธรรมกายอย่างรอบคอบและเป็นธรรม กิจกรรมของวัดที่ทำขึ้นเช่นตัดเย็บเสื้อผ้า การส่งเสริมอาชีพ การชักจูงเด็กเข้าวัดเป็นการช่วยงานของกระทรวงและครูให้เด็กเลิกอบายมุข
"ปัญหาในวัดพระธรรมกายเท่าที่คุยกับผู้รู้คือวัดไปยึดติดกับตัวบุคคลมากเกินไป เช่นหลวงพ่อสด จึงกลายเป็นอภินิหาร แต่หากยึดคำสอนของพระพุทธเจ้าคงไม่เกิดปัญหา ผมได้สั่งการให้กรมการศาสนาเปิดโทรศัพท์รับฟังความเห็นเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายโทรศัพท์หมายเลข 282-2445 เพื่อรวบรวมเสนอมหาเถรสมาคมในวันที่ 11 ธันวาคมนี้"
ในวันเดียวกัน "รายการเพื่อบ้าน เพื่อเมือง" ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 97 เมกะเฮิรตซ์ ดำเนินรายการโดย ดร.เจิ่มศักดิ์ ปิ่นทอง ได้สัมภาษณ์นายผ่อง เล่งอี้ อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ ลูกศิษย์คนสำคัญของวัด โดยนายผ่องยืนยันว่าเคยเห็นปาฏิหาริย์ที่วัดพระธรรมกายจริง ๆ
ส่วนที่มีการกล่าวโจมตีเรื่องการทุ่มเททำบุญนั้น เมื่อคนนั่งสมาธิจะเกิดความสว่างขึ้นในใจ ความคิดเป็นกุศลอยากจะให้ทาน บางคนที่มีน้อย แต่อยากจะทำมากเพราะใจสบายอยากจะได้บุญ ก็พยายามไปหาเงินทองตามศรัทธา และการระดมทุนของวัดที่คล้าย ๆ กับระบบขายตรงก็เป็นวิธีการเป็นศิลปะของแต่ละคนแต่ละฝ่าย ไม่ใช่สาระสำคัญ สาระสำคัญคือเมื่อทำไปแล้วมีคนมาบริจาคทานหรือเปล่าแล้วท่านเอาไปทำอะไรเกิดประโยชน์หรือไม่ และคนที่รวยกว่าย่อมทำบุญได้กุศลมากกว่าคนจน เพราะเป็นบุญกรรมแต่อดีตชาติ
"วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคมนี้ น่าไปพิสูจน์ตอนเช้า 8 โมงไปแล้วเพราะมีประชาชนไปมาก ไม่มีใครกีดกัน เพราะของแท้ "
ทางด้าน นายชัยวัฒ ผ่องโสภา ป่าไม้จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่านายปลอดประสพ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ สั่งการให้ตรวจสอบพื้นที่ป่าที่สาขาวัดพระธรรมกายเช่าพื้นในจังหวัดเชียงใหม่ทั้งหมดว่ามีกี่แห่ง โดยเฉพาะที่อำเภอฮอด มีการบุกรุกที่ป่าสงวนหรือไม่ และมีคำสั่งให้รายงานให้อธิบดีกรมป่าไม้ทราบทุกระยะเท่าที่ตรวจสอบดูในหนังสือสัญญาเช่าที่ป่าพบว่ามีการทำสัญญากันนานถึง 30 ปี และมีการขอเช่าพื้นที่ป่าทั้งหมด 10 แปลงแต่ทางป่าไม้จังหวัดอนุญาตให้แค่ 3 แปลงเป็นเนื้อที่ประมาณ 1,200 ไร่ ส่วนที่มีข่าวออกมาว่าอุทยานสวนดอกแก้วที่อำเภอฮอดมีการใช้พื้นที่มากกว่า 4 พันไร่นั้นจะต้องเข้าไปตรวจสอบก่อนหากมีการบุกรุกพื้นที่ป่าจริงก็ถือว่ามีความผิด พื้นที่เดิมที่มีเอกสารสิทธิ์มีอยู่แล้วแต่ไม่ทราบว่ามีมากน้อยแค่ไหน จึงจะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้งในวันที่ 4 ธ.ค.
ที่ศูนย์ข่าวเดลินิวส์จังหวัดเชียงใหม่ได้มีประชาชนที่อาศัยอยู่ในอำเภอฮอดได้โทรศัพท์มาแจ้งว่าที่สาขาย่อยของวัดพระธรรมกายได้รุกล้ำทับเขตชาวบ้านเป็นจำนวนมาก
ทางด้านนายเรืองสิน บุญปกรณ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเกาะช้าง กิ่งอ.เกาะช้าง จ.ตราด เปิดเผยว่า ตนและเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ในเกาะช้างแล้วพบสำนักปฏิบัติธรรมของวัดพระธรรมกายตั้งอยู่บนเกาะช้างจริง แต่ก่อสร้างอยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง
สำนักปฏิบัติธรรมของวัดพระธรรมกายแห่งนี้มีความผิดฐานบุกรุกที่ป่าหรือไม่ กรมที่ดินจะต้องตรวจสอบว่า วัดใช้อำนาจอะไรไปก่อสร้างสำนักปฏิบัติธรรม และสถานที่แห่งนี้มีเอกสารสิทธิ์การถือครองที่ดินอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม แม้ที่ตั้งของวัดอยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติแต่ก็อาจมีความผิดฐานบุกรุกที่สาธารณประโยชน์ซึ่งประชาชนใช้ร่วมกันได้ หากว่าทางวัดเข้าไปยึดถือครอบครองที่ดินแบบมือเปล่า
นายเรืองสินกล่าวว่า สำนักปฏิบัติธรรมบนเกาะช้างแห่งนี้มีเนื้อที่รวมกันกว่า 100 ไร่ ภายในพื้นที่มีการจัดสร้างเรือนพักเป็นหลัง ๆ ประมาณ 20-25 หลัง วัดเข้ามาจับจองเมื่อประมาณปี 2534-2535 ราคาซื้อขายถ้าอยู่ริมหาดขายกันไร่ละ 1.5-2 ล้านบาท ถ้าอยู่ลึกเข้าไปจะอยู่ระหว่าง 1-1.2 ล้านบาท เมื่อรวมมูลค่าที่ดินและค่าจัดสร้างแล้วคาดว่าต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท ในช่วงปี 2538-2539 ทุก ๆ เดือนจะมีญาติโยมวัดพระธรรมกายในกรุงเทพฯ เดินทางมาปฏิบัติธรรมกันเป็นประจำ คราวละ 20-30 คน แต่ในช่วงปี 2540-2541 กิจกรรมหยุดชะงักไป ชาวบ้านก็ถูกเลิกจ้างไม่ต้องไปเฝ้าวัด ปัจจุบันถูกทิ้งเป็นสำนักสงฆ์ร้างไม่มีผู้คนดูแล.