เดลินิวส์ 13/1/2542

ร้อง เจ้าวัดธรรมกายหมิ่นฯสมเด็จย่า
ร้อง กมธ.ศาสนาฯเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ สั่งโค่นต้นกันเกราที่สมเด็จย่าทรงปลูกไว้หน้าพระอุโบสถ พระพยอมขานรับระบุชัดได้รับเรื่องร้องเรียนด้วยเหมือนกัน จี้ฝ่ายปกครอง
ตรวจสอบข้อเท็จจริงด่วน ชี้เป็นเรื่องไม่บังควรยิ่ง ตำรวจกองปราบฯ มึนคดีวัดพระธรรมกาย กรมการศาสนาผู้เสียหายไม่ร้องทุกข์ ทำอะไรไม่ได้ต้องรอก่อน แต่สั่งชุดสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลแล้ว หากพบความผิด ทางอาญาจะดำเนินการได้ทันที
แม้ว่าผลการสอบสวนพฤติกรรมของวัดพระธรรมกายโดยพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 และเจ้าอาวาสวัดยานนาวา
ซึ่งได้รับมอบหมายจากมหาเถรสมาคมให้เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนจะยังไม่มีความคืบหน้าออกมา แต่การวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ก็ยังมีอยู่อย่างกว้างขวาง ซึ่งล่า สุดก็ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับวัดพระ ธรรมกายและพระราชภาวนาวิสุทธิ์ต่อกองปราบ ปรามแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งข้อมูลว่าจะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับวัดพระธรรมกายเพิ่มเติมอีก ด้วยข้อหากระทำการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ทั้งนี้สืบเนื่องจากมีการร้องเรียนว่าพระราชภาวนาวิสุทธิ์ได้สั่งการ
ให้มีการตัดต้นกัลเกาซึ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรง
ปลูกไว้หน้าพระอุโบสถ
ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับเทปคำให้การของพระอดิศักดิ์ วิริยะสักโก อดีตพระผู้ร่วมก่อตั้งวัดพระธรรมกายที่ได้ให้ไว้กับนาย เสฐียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิตและกรรมาธิ การการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทน ราษฎร โดยครั้งนั้นพระอดิศักดิ์บอกว่า ในการสร้างอุโบสถของวัดพระธรรมกายทางวัดได้กราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระราชินีนาถ เป็นองค์ประธานทรงวางศิลาฤกษ์ในวันที่ 24 ธันวาคม 2520 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จแทนพระ องค์มาเป็นองค์ประธาน ได้ทรงพระกรุณาปลูกต้นบุญนากและต้นพยอมรวม 4 ต้นหน้าพระอุโบสถ
พระอดิศักดิ์ กล่าวว่า จากนั้นได้มีการ กราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระศรีนครินทราฯ เป็นองค์ประธานเททองหล่อพระประธานในพระอุโบสถ ซึ่งในครั้งนั้นสมเด็จพระศรีนครินทราฯได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯปลูกต้นกัลเกา
เป็นแถวแนวยาวจากหน้าพระอุโบสถด้วย แต่ 2 ปีต่อมาปรากฏว่าพระราช
ภาวนาวิสุทธิ์ได้สั่งการให้ตัดต้นไม้เหล่านั้นทิ้ง ซึ่งอาตมาก็ไม่เข้าใจเหมือน
กันว่าตัดทำไมเพราะเรื่องนี้ทางโลกถือว่าเป็นต้นไม้มงคลที่สมเด็จพระ
ราชชนนีฯทรงปลูกไว้เป็นที่ระลึกใครไปทําลายถือได้ว่าเป็นการหมิ่น
พระบรมเดชานุภาพได้
นอกจากนี้พระพิศาลธรรมวาที หรือพระพยอม กัลยาโณ พระนักเทศน์ชื่อดังวัดสวนแก้วเปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากญาติโยมว่า พระราชภาวนาวิสุทธิ์ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ได้สั่งการให้มีการตัดต้นไม้ที่มีความสำคัญเกี่ยวพันกับเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินทิ้ง แต่ข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรนั้นยังไม่ทราบจะต้องมีการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งว่าเป็นอย่างไร
ทางด้านพระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตฺโต) พระนักปราชญ์ชื่อดัง แห่งวัดญาณเวศกวัน กล่าวว่า หากทางวัดพระธรรมกายมีการตัดต้นไม้สำคัญที่ว่าจริงทางเจ้าอาวาสก็จะต้องมีเหตุผลความจำเป็นมาชี้แจง เพราะโดยปกติแค่ต้นไม้ธรรมดาไม่ต้องถึงกับเป็นต้นไม้ของเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน หากไม่มีความจำเป็นจริง ๆ พระสงฆ์ก็จะไม่ตัดทิ้งอยู่แล้ว
ขณะเดียวกันที่รัฐสภา มีรายงานข่าวจากคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ และวัฒน ธรรมแจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมาธิการการศาสนาฯ วันที่ 13 ม.ค. จะมีพุทธศาสนิกชนจำนวนหนึ่งเดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการฯ เพื่อให้มีการตรวจสอบการกระทำของพระราชภาวนาวิสุทธิ์ เจ้าอาวาสวัดพระ ธรรมกายที่สั่งการให้มีการตัดต้นกัลเกา ซึ่งสมเด็จพระราชชนนีฯทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ปลูกไว้หน้าพระอุโบสถ แม้ว่าจะมีการปลูกขึ้นมาทดแทนใหม่แต่หลังจากที่มีการตัดโค่นไปแล้วถึง 3 ปี เรื่องนี้ถือว่าเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้แล้วในการประชุมจะได้มีการเชิญตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงอาทิ กองบัญชาการตำรวจสันติบาล สภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ มาราย งานรายละเอียดในแง่ของความมั่นคงด้วย รวมทั้งจะมีการเชิญเจ้าหน้าที่จากกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทยมาชี้แจงกรณีพระราชภาวนาวิสุทธิ์การ ถือครองที่ดินโดยมีชื่อระบุในโฉนดว่าเป็นเจ้าของ เรื่องของการทำเหมืองแร่ทองและกรณีอื่น ๆ อีก
รายงานข่าวยังระบุว่า ทางคณะกรรมา ธิการฯ ยังเตรียมที่จะเชิญพระอดิศักดิ์ วิริยะสักโก อดีตพระผู้ก่อตั้งวัดพระธรรมกายมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม และอาจจะมีการขอข้อมูลในเรื่องของการโค่นต้นไม้พระราชทานด้วย แต่จะเป็นเมื่อใดนั้นคงต้องรอความพร้อมอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนที่กองปราบปราม กรมตำรวจ เมื่อเวลา 16.30 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.วิเชียร สมานพงษ์ รอง ผบก.ป. เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการสอบสวนคดีที่มีผู้ร้องเรียนวัดพระธรรมกายว่า ยังไม่มีความคืบหน้ามากมายนัก เพราะเกี่ยวพันกับหน่วยงานหลายหน่วยงาน เช่น กรมทะเบียนการค้า กระทรวงพาณิชย์ กรมที่ดิน กระทรวงมหาด ไทย กรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งได้สั่งการให้พ.ต.อ.วิษณุ ม่วงแพรสี ผกก.1ป. ไปประสานหาข้อมูลกับหน่วยงานดังกล่าวแล้ว โดยในวันที่ 13 ม.ค. จะเรียกประชุมชุดสืบสวนสอบ สวนเพื่อวางแผนแบ่งหน้าที่การทำงานอย่างชัด เจนอีกครั้ง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก
พ.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นผู้เสียหายน่าจะเป็นกรมการศาสนามากกว่า แต่ทั้งนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่กรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการว่าจะเดินทางมาร้องทุกข์หรือไม่อย่างไร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่สามารถดำเนินการตามข้อกฎหมายได้ รวมทั้งชุดสืบสวนสอบ สวนที่ลงพื้นที่ประสานงานกับตำรวจสถานีตำรวจ ภูธรอำเภอคลองหลวง เจ้าของพื้นที่ก็ยังไม่พบว่าวัดมีการกระทำความผิดที่ชัดเจน แต่หากพบว่าทำผิดตามกฎหมายอาญาก็จะดำเนินการทันที เพราะถือว่าประชาชนทุกคนเป็นผู้เสียหาย ทางด้าน พล.ต.ท.ชิดชัย วรรณสถิตย์ ผบช.สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.)กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายว่าหากมีความผิดจริง ตนจะทำหนังสือด่วนระงับการเดิน ทางออกนอกประเทศทันที