เดลินิวส์ 12/1/2542

60 ปีหลวงพ่อประยุทธ์
ประทีปธรรมที่ควรบูชา

เมื่อวันที่ 9-11 มกราคม ได้มีการจัดงานสัมมนา ทางพระพุทธศาสนาครั้งสำคัญคือ การประชุมทางวิชาการและการเสวนาพิเศษ
"การศึกษาพระพุทธศาสนาเพื่อสันติภาพ" เนื่องในวาระ ครบ 60 ปี พระธรรมปิฎก(ประยุทธ์ ปยุตฺโต) ระหว่างวันที่ 9-11 มกราคม จัดโดยองค์การยูเนสโก, กระทรวงศึกษาธิการ, มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย คณะกรรมการกองทุนการศึกษา เพื่อสันติภาพพระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)
และเหตุที่พระธรรมปิฎก หรือหลวงพ่อประยุทธ์ ได้รับการยกย่องและขนาด มีการจัดสัมมนาขึ้น เนื่องจากหลวงพ่อถือว่าเป็น พระนักปราชญ์องค์สำคัญของประเทศ และได้มีส่วนสำคัญในการวางรากฐานด้านการศึกษา ให้กับวงการสงฆ์ รวมถึงเป็นหลักชัยสำคัญ เมื่อเกิดปัญหาข้อโต้แย้งทางศาสนาในสังคม ได้รับการยกย่องทั้งในและต่างประเทศ
หลวงพ่อประยุทธ์เกิดเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2481 ที่ตลาดศรีประจันต์ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี เป็นบุตรนายสำราญ และนางชุนกี อารยางกูร ซึ่งประกอบอาชีพค้าขาย
จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาโดยได้ทุนเรียนดีของกระทรวงศึกษาธิการ บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2494 เมื่อมีอายุ 13 ปี ที่วัดบ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี
หลวงพ่อประยุทธ์สอบได้นักธรรมชั้นตรี โท เอก และเปรียญธรรม 3 ถึง 9 ประโยคขณะยังเป็นสามเณร จึงได้พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ให้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในฐานะนาคหลวงเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2504 ณ อุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ภายหลังจบการศึกษาได้รับ ปริญญาพุทธศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 1) จากมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และสอบได้วิชาชุดครู พ.ม. ท่านได้รับแต่งตั้งเป็น รองเลขาธิการมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ท่านได้พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนของสงฆ์ ที่เน้นบทบาท และภาวะทางสังคมที่เพิ่มขึ้นของคณะสงฆ์ รวมทั้งสอดแทรกความรู้ เกี่ยวกับการพัฒนาชุมชนไว้ในหลักสูตร โดยจัดระบบหลักสูตรทางสงฆ์ใหม่หมด ให้เข้ากับระบบหน่วยกิต และเป็นที่ยอมรับในระดับมาตรฐานสากล
ส่วนงานบริหารคณะสงฆ์ ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดพระพิเรนทร์ในปี 2515 และยื่นหนังสือลาออกเมื่อปี 2519 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดญาณเวศกวัน ต.บางกระทึก อ.สามพราม จ.นครปฐม
หลวงพ่อประยุทธ์ได้รับการยกย่องว่า เป็นพระนักปราชญ์รูปสำคัญในปัจจุบัน โดยท่านได้เขียนเอกสารวิชาการและตำรา ต่าง ๆ มากกว่า 200 เรื่อง ผลงานแต่ละชิ้นต่างก็ได้รับการยกย่องอาทิ หนังสือ "พุทธธรรม" ที่ถือว่าเป็นการอธิบายพุทธศาสนาจากพระไตรปิฎกที่สมบูรณ์ ด้วยภาษาเรียบง่ายต่อการเข้าใจ โดยเป็นการค้นคว้าจากพระไตรปิฎกโดยตรง รวมไปถึงอรรถกถาชั้นสูง ซึ่งอรรถกถาดังกล่าว เป็นคำอธิบายพระไตรปิฎกแต่ง โดยมหาเถระยุคเก่า และมาเทียบเคียงกับพุทธจริย และปฏิปทาของพระพุทธเจ้าก่อน ที่จะผลิตออกมาเป็นหนังสือพุทธธรรม
เป้าหมายการทำงานด้านวิชาการ และศาสนาของหลวงพ่อประยุทธ์ก็คือ ต้องการเผยแผ่คำสอนของศาสนาพุทธ ที่มีลักษณะแห่ง "ความจริงสายกลาง" และ "ข้อปฏิบัติสายกลาง" ซึ่งเป็นหัวใจของศาสนา โดยเน้นย้ำแนวทางพระพุทธศาสนา ที่ เป็นศาสนาแห่งการกระทำ เป็นศาสนาแห่งความพยายาม ไม่ใช่ศาสนาแห่งการอ้อนวอน หรือการปรารถนาความสำเร็จ
ไม่เพียงแต่ผลงานของหลวงพ่อประยุทธ์ จะปรากฏในประเทศไทยเท่านั้น แม้แต่ต่างประเทศท่าน ยังได้รับนิมนต์ไปบรรยายหลายครั้ง ในมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก อาทิ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในสหรัฐฯ หรืออย่างมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ ในประเทศอังกฤษ ฯลฯ
นอกจากนั้น ท่านยังได้รับการอาราธนาระบุเจาะจง ให้เป็นผู้แสดงปาฐกถา ในการประชุมนานาชาติขององค์กรระดับโลกหลายครั้ง
ผลงานของหลวงพ่อประยุทธ์ ทำให้มหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่งถวายปริญญาดุษฎี บัณฑิตกิตติมศักดิ์หลายสาขา อาทิ ด้านปรัชญาจากมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ด้านการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปากร, มหาวิทยา ลัยบเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, มหาวิทยาลัยรามคำแหง และด้านภาษาศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยมหิดล
แม้กระทั่งองค์การยูเนสโก ได้ถวายรางวัลการศึกษา เพื่อสันติภาพให้กับท่านในปี 2537 นับเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับเกียรตินี้ ซึ่งเป็นการสร้างเกียรติประวัติ และชื่อเสียงให้ประเทศไทยอย่างมาก
หลวงพ่อประยุทธ์ ถือเป็นหลักชัยสำคัญของศาสนา โดยเฉพาะในคราวที่ประชาชนเกิดความสับสนในคำสอนหรือหลักของศาสนา เนื่องจากเกิดลัทธิ ความเชื่อใหม่ ๆ เกิดขึ้น จนทำให้ หลักธรรมที่แท้ผิดเพี้ยน หลวงพ่อประยุทธ์จะออกมาทำความเข้าใจ
ไม่ว่าจะเป็นกรณีสันติอโศก หรือแม้กระทั่งกรณีวัดพระธรรมกายที่กำลังเกิดขึ้นก็ตามที โดยถึงแม้การออกมาแสดงความเห็นเหล่านี้ จะได้รับผลสะท้อนกลับ แต่ท่านถือเป็นภาระทางศาสนา ที่ต้องแสดงสัจจะออกมาให้ปรากฏ เพราะศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งความจริง ไม่ใช่ศาสนาแห่งการซ่อนเร้น
ศักราชใหม่นี้ หากจะหามงคลให้ชีวิตคงไม่ต้องเสียเวลายุ่งยากหรือต้องเสียเงินนับหมื่น เพียงแต่น้อมระลึกถึงคุณ และบูชาพระรัตนตรัย รวมไปถึงคุณพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ก็ถือเป็นมงคลแล้ว
และหลวงพ่อประยุทธ์ถือเป็นพระแท้ ยังมีอยู่อีกมากรูปในสังคมไทย เป็นบุคคลที่ควรบูชาอย่างแท้จริง.