เดลินิวส์ 15/3/2543
'ไชยบูลย์'โอนเงินให้ญาติ 400 ล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพนักงานสอบสวนคดีวัดพระธรรมกาย ซึ่งมีพล.ต.ท.ล้วน ปานรสทิพ เป็นหัวหน้าชุด ได้แบ่งสายงานเพื่อสืบสวนสอบสวนในเชิงลึก 6 สายงาน ปรากฎว่าได้พบความไม่ชอบมาพากลหลายประการ โดยเฉพาะเรื่องการโอนเงินวัดไปเข้าบัญชีสีกาหลายคนที่ใกล้ชิดนายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกาย เช่น สีกา อ., สีกา ป., สีกา น. และ สีกา ส. แต่ละคนจำนวนหลายร้อยล้านบาท โดยไม่เป็นที่แน่ชัดเงินเหล่านี้นำไปใช้จ่ายเรื่องอะไร อย่างไรก็ตามพล.ต.ท.ล้วนได้กำชับให้เร่งติดตามกรณีของ "สีกา ส." ซึ่งในเบื้องต้นพบว่าไม่ได้ทำธุรกิจอะไร มีเพียงการเล่นหุ้น ที่สำคัญคือไม่มีการโอนเงินกลับคืนเข้าวัดแต่อย่างใด
แหล่งข่าวระดับสูงในทีมพนักงานสอบสวนเปิดเผยว่า คงต้องดำเนินการกับ "สีกา ส." ก่อนเพราะมีหลักฐานมัดตัวได้ จากการที่ได้เคยสอบปากคำ "สีกา ส." อ้างว่าการโอนเงินวัดมาเข้าบัญชีจำนวน 400 ล้านบาทเพื่อนำไปทำของชำร่วยให้พระ แต่ก็สามารถชี้แจงได้แค่ 80 ล้านบาทเท่านั้น และจากนั้นก็ได้เดินทางไปอังกฤษพร้อมสามีและลูกสาว ปัจจุบันก็ยังไม่กลับมา มีเพียงสามีกลับมาคนเดียวเมื่อต้นปี 2543
"จากการตรวจสอบบัญชีในทางลึกพบว่ามีเงินวัดพระธรรมกายโอนเข้าบัญชีสีการายนี้กว่า 500 ล้านบาท ไม่ใช่แค่ 400 ล้านบาท และเมื่อออกหมายเรียกมาให้ปากคำก็ไม่มา แถมยังมีการผ่องถ่ายเงินไปยังญาติและลูกหลานแล้วปิดบัญชี ซึ่งส่อเจตนาหลบเลี่ยงหลายอย่าง กรณีนี้เข้าข่ายยักยอกเงินวัด ขณะนี้สีการายนี้มีคดีอยู่ 8 กรรม หากคัดมาเรื่องหนึ่งก็สามารถดำเนินการจับกุมได้ แต่เรื่องยังไม่ยุติแค่นี้ เพราะยังต้องมีการตรวจสอบสายเงินต่อไปอีก ส่วนสามีสีการายนี้พนักงานสอบสวนกำลังทำหนังสือเรียกตัวมาสอบปากคำ"
แหล่งข่าวยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้คดีวัดพระธรรมกายมีความคืบหน้าใน 10 เรื่องที่ยังไม่มีการส่งฟ้อง ประมาณ 70% เช่น การเรี่ยไรเงินที่อวดอ้างปาฏิหารย์, การหาผลประโยชน์จากการขอพระราชทานเครื่องราชฯ, การถือครองที่ดินของพระและสีกาใกล้ชิด, การตรวจสอบบริษัทต่างๆที่นำเงินวัดไปให้สาวกดำเนินการ