เดลินิวส์ 21/2/2543
ต้านพระเทพสุธีรักษาการเจ้าคณะภาค 1
นายไพบูลย์ เสียงก้อง อธิบดีกรมการศาสนา เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการแก้ไข ปัญหาวัดพระธรรมกายว่า ทราบข่าวว่าขณะนี้สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงลงพระนามมีพระบัญชาให้พระพรหมโมลีพ้นจากตำแหน่งเจ้าคณะภาค 1 แล้ว ตามมติมหาเถรสมาคม (มส.) ซึ่งสำนักงานเลขาธิการคงจะส่งพระบัญชามาให้กรมการศาสนาในวันที่ 22 ก.พ. จากนั้นทางกรมจะนำพระบัญชาไปถวายสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลางทันที ส่วนจะมีคำสั่งแต่งตั้งเจ้าคณะภาค 1 รูปใหม่เมื่อใดก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าคณะใหญ่หนกลาง
สำหรับกรณีที่พระมหาเดวิทย์ ยสสี ประธานองค์การยุวสงฆ์แห่งประเทศไทย อ้างรายชื่อพระสงฆ์ 1 หมื่นรูปเพื่อให้มหาเถรฯทบทวนมติกรณีพระพรหมโมลีนั้น นายไพบูลย์กล่าวว่า พระมหาเดวิทย์สามารถแสดงความคิดเห็นได้ แต่เท่าที่ตรวจสอบพบว่ามีรายชื่อพระสงฆ์ไม่ถึง 1 หมื่นรูปตามที่อ้าง อย่างไรก็ตามจะมีการทำ หนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงว่า การดำเนินการของกรมการศาสนาที่ผ่านมาเป็นไปตามกระบวนการของมหาเถรฯ มติที่ออกมาก็ถือว่าชอบด้วยกฎหมายและถึงที่สุดแล้ว ไม่มีการเปลี่ยนแปลง จึงไม่ควรมีการเคลื่อนไหวที่รุนแรง
"การเคลื่อนไหวรุนแรงเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะถ้าไม่เคารพมติมหาเถรฯก็จะเกิดความไม่เรียบร้อย กรมการศาสนาเป็นเพียงเลขานุการมหาเถรฯ ส่วนผู้มีอำนาจในการวินิจฉัยคือมหาเถรฯ"
อธิบดีกรมการศาสนายังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้กรมการศาสนาทำงานคืบหน้าไประดับหนึ่ง ส่วนการดำเนินการตามกระบวนการนิคหกรรมกับนายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกาย และพระเผด็จ ทัตตชีโว รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เป็นดุลพินิจของพระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี
ทางด้านนายสมพร เทพสิทธา ประธานสภายุวพุทธิกสมาคมแห่งชาติ 1 ในฆราวาสที่ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนิคหกรรมนายไชยบูลย์และพระเผด็จ กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าเจ้าคณะใหญ่หนกลางจะแต่งตั้งพระเทพสุธี รองเจ้าคณะภาค 1 ขึ้นรักษา การเจ้าคณะภาค 1 แทนพระพรหมโมลีว่า ตนไม่ขัดข้องที่จะแต่งตั้งท่านเพื่อปฏิบัติศาสนกิจอื่น แต่กรณีธรรมกายตนเกิดความไม่ไว้วางใจ เพราะท่านต้องเป็นประธานคณะผู้พิจารณาชั้นต้นด้วย ทั้งนี้ ที่ผ่านมาท่านมีความคิดโน้มเอียงไปทางพระพรหมโมลี และเมื่อมีการเสวนาหรืออภิปรายในเรื่องนี้ท่านก็ออกมาปกป้องวัดพระธรรมกายอย่างเต็มที่ พฤติกรรมสู่เจตนา บอกตรง ๆ ว่ารู้สึกกลัว ดีไม่ดีอาจจะยกฟ้อง
นายสมพรกล่าวว่า หากในขั้นตอนการไต่สวนมูลฟ้องแล้วบอกว่าไม่มีมูลก็ต้องผิดหวัง เพราะเมื่อยกฟ้องแล้วจะไม่มีสิทธิ์อุทธรณ์อีก ถ้ามีปัญหาขึ้นมาจะกลายเป็นความบกพร่องของคณะสงฆ์ เพราะรู้ทั้งรู้ว่าท่านมีความลำเอียงเข้าข้างวัดพระธรรมกาย ทำไมถึงเปลี่ยนให้มาเป็นประธานคณะผู้พิจารณา ถ้ารักและหวังดีต่อพระพุทธศาสนาก็อย่าได้ปล่อยให้ท่านดำรงตำแหน่งนี้ ควรจะพิจารณาพระสงฆ์รูปอื่น
"ผมเชื่อมั่นในข้อกล่าวหาของผมและคุณมาณพ พลไพรินทร์ ผู้เชี่ยวชาญกรมการศาสนา ว่ามีมูลหนักแน่นพอ เพราะได้นำหลักมาจากพระไตรปิฎกและได้หารือกับพระผู้ใหญ่หลายท่าน แต่หากยกฟ้องก็แสดงว่ายุคนี้เป็นยุคมืด และผมคงไม่ยอมยุติ คงต้องมีการปรึกษาพุทธศาสนิกชนผู้รักพระพุทธศาสนาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ผมไม่ได้มองพระเทพสุธีในแง่ร้าย แต่มองในแง่ความจริง เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วสายเกินแก้ ท่านอาจจะเชื่อว่าธัมมชโยถูกต้อง เราคงห้ามไม่ได้"
ประธานสภายุวพุทธิกสมาคมฯกล่าวอีกว่า ขอกราบนมัสการเจ้าคณะใหญ่หนกลาง ที่ได้ทำประโยชน์และเป็นเยี่ยงอย่างในการปลดพระพรหมโมลีออกจากตำแหน่ง พวกเราชาวพุทธขออนุ โมทนาสาธุ และขอให้ท่านทำเพื่อพระพุทธศาสนาต่อไป ได้โปรดแต่งตั้งพระเถระผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มีความเป็นธรรมขึ้นมาดำรงตำแหน่งเจ้าคณะภาค 1 โดยเร็ว เพื่อพิจารณาเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้น ขณะนี้ศรัทธาชาวพุทธเริ่มดีขึ้นแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่วัดพระ ธรรมกาย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ก.พ.ว่า มีสาวกมาร่วมกิจกรรมประมาณ 500 คนเท่านั้น ซึ่งนาย ไชยบูลย์ยังคงกล่าวชักชวนให้ทุกคนร่วมกันทำบุญ ร่วมฉลองมหาธรรมเจดีย์ และช่วยกันเผยแพร่วิชชาธรรมกาย โดยยกเรื่องการได้เสวยสุขบนสวรรค์วิมานยาวนานนับพันนับหมื่นปีมา เป็นจุดโน้มน้าวใจ พร้อมทั้งอ้างว่าหากใครเข้าถึงวิชชาธรรมกายก็จะเข้าใจสิ่งที่ตนพูดว่าเป็นเรื่องจริง.