เดลินิวส์ 12/2/2543
เล่นงาน "ไชยบูลย์" ต้นเดือนหน้าลุยได้
หลวงอาไชยบูลย์"กิตติวุฑโฒ"ขย้ำปรปักษ์วัดพระธรรมกาย สวดยับฆราวาส-ฝ่ายการเมืองล้วงลูกกิจการสงฆ์เกินงาม ใช้อำนาจรัฐไม่ถูกต้อง ทำให้ศาสนาเสื่อม เตรียมถวายมติมหาเถรฯให้สมเด็จพระสังฆราชทรงลงพระนาม 14 ก.พ.นี้ "พระสุเมธาภรณ์" เผยรอหนัง สือคำสั่งจากรัก ษาการเจ้าคณะภาค 1 คนใหม่ค่อยดำเนินการกฎนิคหกรรม "ไชยบูลย์-ทัตตชีโว" คาดไม่เกินต้นเดือนหน้าเป็นอย่างช้า มั่นใจ 2 ผู้ต้องหาไม่มาเช่นเคย ระบุต่อจากนี้ไม่มีใครกล้าถ่วงเรื่องให้ช้าแน่ ปลด "พระพรหมโมลี-พระครูปทุมกิจโกศล" เป็นตัวอย่างที่ต้องจำ "สมศักดิ์" มั่นใจประ ชุมมหาเถรฯครั้งต่อไปมีเรื่องแต่งตั้งเจ้าคณะภาค 1 แน่
หลังจากที่มหาเถรสมาคมมีมติให้ปลดพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ออกจากตำแหน่งฐานฝืนมติมหาเถรฯ ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น เมื่อเวลา 13.30 น. ที่วัดมูลจินดาราม พระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ได้รับทราบเรื่องการปลดพระพรหมโมลีออกจากตำแหน่งเจ้าคณะภาค 1 แล้ว รวมทั้งเรื่องให้เร่งดำเนินการกระบวนการนิคหกรรมนายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกายและพระเผด็จ ทัตตชีโว รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายโดยเร็วแล้ว คาดว่าสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลางคงจะแต่งตั้งรักษากรเจ้าคณะภาค 1 เร็วๆนี้ จากนั้น 1-2 วันคงจะมีหนังสือสั่งการมายังวัดมูลจินดาราม
พระสุเมธาภรณ์กล่าวว่า หากมีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรมาก็จะร่วมกับเจ้าคณะอำเภอคลองหลว งและเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่งหาวันที่เหมาะสมเพื่อเรียกทั้ง 2 มารับทราบข้อกล่าวหา คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ราวสิ้นเดือนนี้หรืออย่างช้าก็ต้นเดือนหน้า อย่างไรก็ตามเชื่อว่านายไชยบูลย์และพระทัตตชีโวคงไม่มารับทราบข้อกล่าวหาเช่นเดิม เพราะได้มีการประกาศไว้ชัดเจน แม้ว่าจะเป็นการขัดมติมหาเถรฯก็ตาม
"เวลานี้คงต้องรอหนังสือคำสั่งก่อนเพื่อความชัดเจนในการทำงาน ต่อไปนี้คงไม่มีใครทำงานล่าช้าแล้ว เพราะที่ผ่านมาพระเถระ 2 รูปคือ พระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 และพระครูปทุมกิจโกศล เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่งก็ถูกปลดออกจากตำแหน่งเพราะพิษธรรมกายมาแล้ว ถือเป็นเรื่องน่าเสียดาย"
ช่วงเช้าวันเดียวกัน ได้มีพุทธศาสนิกชนเดินทางมานมัสการและแสดงมุทิตาจิตต่อสมเด็จพระมหาธีรา จารย์ที่วัดชนะสงครามอย่างคับคั่งอาทิพ.อ.(พิเศษ)ทองขาว พ่วงรอดพันธุ์ เลขาธิการสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยา ลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย รวมถึงพระเทพกิตติปัญญาคุณหรือกิตติวุฑโฒ รองเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ และผู้อำนวยการจิตตภาวันวิทยาลัย อ.บางละมุง ชลบุรีด้วย
พระเทพกิตติปัญญาคุณ ได้แสดงความเห็นถึงกรณีมหาเถรฯมีมติปลดพระพรหมโมลี ออกจากเจ้าคณะภาค 1 ว่า การทำอะไรที่เป็นไปตามพระธรรมวินัยและเป็นไปเพื่อความสงบย่อมเป็นสิ่งที่ดี โดยส่วนตัวก็ต้องการเห็นความสงบเรียบร้อยและความถูกต้องตามพระธรรมวินัยและกฎหมาย เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะเราอยู่ในศาสนาต้องมีพระธรรมวินัยเป็นหลัก มติดังกล่าวขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของมหาเถรฯ หากเห็นว่าเหมาะสมทุกคนก็ต้องเคารพมติ พระพรหมโมลีทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว และพระพรหมโมลีก็ยืนยันว่าจะไม่อุทธรณ์
ส่วนที่ระบุว่า มติดังกล่าวเพื่อเป็นการเปิดทางให้การดำเนินการตามกฎนิคหกรรมต่อไป จะยุติปัญหาวัดพระธรรมกายได้หรือไม่ พระกิตติวุฑโฒกล่าวว่า น่าจะยุติปัญหานี้ได้รวดเร็วขึ้น กฎนิคหกรรมเป็นกฎหมายสงฆ์ดังนั้นการทำตามกฎนิคหกรรมหากไม่ขัดกับพระธรรมวินัยก็สามารถทำได้ เหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นในสมัยพุทธกาลมาแล้วและมีมาตลอด
"น่าจะยุติปัญหาวัดพระธรรมกายได้ แต่ฆราวาสและฝ่ายการเมืองหรือแม้แต่อำนาจรัฐก็ต้องใช้อำนาจให้ถูกต้อง หากใช้ผิดแล้วจะทำให้ศาสนาเสื่อม ที่ผ่านมาศาสนาไม่เคยเสื่อมมีแต่คนเท่านั้นที่เสื่อมลง"
ต่อข้อถามที่ว่า มองสถานการณ์คณะสงฆ์ไทยอย่างไร พระกิตติวุฑโฒกล่าวว่า สงฆ์ดี แต่ฆราวาสต้องตั้งสติมีศรัทธาในศาสนาให้มาก และต้องควบคู่กันไปกับการมีปัญญาด้วย สิ่งใดที่เป็นงานของสงฆ์ ฆราวาสก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว อย่างกรณีปัญหาวัดพระธรรมกายฆราวาสเข้ามาล่วงล้ำมากเกินไป ไม่เคารพสงฆ์ เราต้องรู้หน้าที่อุบาสกอุบาสิกาควรมีหน้าที่อย่างไร และต้องเชื่อในผลแห่งกรรมนั้น
ส่วนที่วัดยานนาวา ซึ่งพระพรหมโมลี อดีตเจ้าคณะภาค 1 เป็นเจ้าอาวาสอยู่นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันได้มีทั้งพระสงฆ์และฆราวาสเดินทางมานมัสการและให้กำลังพระพรหมโมลีเป็นจำนวนมาก ขณะที่พระพรหมโมลีเก็บตัวอยู่ในกุฏิไม่ออกมาต้อนรับแต่อย่างใด โดยพระครูพิศาลสรนาถ พระเลขาของพระพรหมโมลีกล่าวว่า พระพรหมโมลีไม่ติดใจกับมติมหาเถรฯ ยังพูดคุยสนุกสนาน ที่สำคัญไม่เคยจำวัดสบาบเท่านี้มาก่อน ฉันอาหรได้มากกว่าปกติ
ด้านพระนัน พระลูกวัดยานนาวากล่าวว่า ทีรัฐบาลโกงกินกลับไม่มีใครพูดถึง แต่กลับพระจะเอากันให้ตายไปข้างหนึ่ง แต่พระพรหมโมลีไม่ได้สนใจในอดีตก็เคยถูกพักตำแหน่งมาแล้ว เป็นพระผู้ใหญ่ที่ไม่ติดยึดกับตำแหน่ง เรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องธรรมดา เรื่องนี้เป็นเพียงการเอาชนะคะคานกันมากกว่า
สำหรับที่วัดพระธรรมกายนั้น บรรยากาศของวัดเป็นไปด้วยความเงียบเหงา แม้จะมีการเตรียมงานฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ก็ตาม อย่างไรก็ดีแกนนำของวัดหลายคนบอกว่าได้รับทราบมติมหาเถรฯเกี่ยวกับการปลดพระพรหมโมลีแล้ว ค่อนข้างตกใจกับมติดังกล่าวนี้มาก เพราะไม่เชื่อว่าจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น คาดว่าจะมีการหารือแกนนำในเร็วๆนี้ ด้านน.ส.ชุลีพร ช่วงรังษี หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์มูลนิธิธรรมกายกล่าวเพียงว่า ตอนนี้ทางวัดยังไม่มีแผนการเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.ศึกษาฯ กล่าวว่า ในวันที่ 14 ก.พ.นี้นายไพบูลย์ เสียงก้อง อธิบดีกรมการศาสนา ในฐานะเลขานุการมหาเถรฯ จะนำมติขึ้นกราบทูลสมเด็จพระสังฆราชเพื่อทรงลงพระนาม โดยในวันเดียวกัน ตนเองและนายวิชัย ตันศิริ รมช.ศึกษาฯ นายไพบูลย์ และนายจรวย หนูคง ที่ปรึกษารมว.ศึกษาฯ จะไปนมัสการขอบคุณและให้กำลังใจสมเด็จพระมหาธีราจารย์ พร้อมทั้งหารือเรื่องการสรรหาเจ้าคณะภาค 1 รูปใหม่ ซึ่งคิดว่าในการประชุมมหาเถรฯครั้งหน้าจะมีการนำวาระนี้เข้าสู่ที่ประชุมด้วย
ด้านไพบูลย์กล่าวว่า การคัดเลือกเจ้าคณะภาค 1 รูปใหม่เป็นอำนาจของเจ้าคณะใหญ่หนกลางว่าจะคัดเลือกใคร เมื่อคัดเลือกได้แล้วก็จะมีการเสนอต่อที่ประชุมมหาเถรฯเพื่อเห็นชอบอีกครั้ง จากนั้นจึงกราบทูลสมเด็จสังฆราชเพื่อขอรับพระบัญชาแต่งตั้ง ส่วนจะทรงมีพระบัญชาเมื่อใดก็สุดแต่จะทรงโปรด
ต่อมารายงานข่าวแจ้งว่าทาง สน.ชนะสงคราม ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 50 นาย โดยเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ชนะสงครามและเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ 191 เพื่อเข้าไปอารักขาสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม เนื่องจากเกรงจะเกิดเหตุร้ายขึ้นเหมือเมื่อครั้งที่เคยถูกวางระเบิดรถยนต์ที่จอดอยู่ภายในวัด