เดลินิวส์ 24/1/2543
ผัวเมียวัย 60 โวย'ธรรมกาย'อมรถ
ผู้เฒ่าผัว-เมียวัย 60 กว่าร้อง"ธรรมกาย"อมรถปิกอัพ หลังดูดทรัพย์ไปแล้ว 3 ล้าน ซํ้าร้ายยังกล่อมลูกชายที่หวังฝากผีฝากไข้ให้บวชไม่สึกมา 3 ปีแล้ว ครวญชีวิตลำบากมาก อยากให้ลูกมาดูแลก่อนวาระสุดท้ายชีวิต ด้าน "ไชยบูลย์" ไม่สนใจมติมหาเถรฯ ที่ให้สอบ นิคหกรรมต่อ เดินหน้ากล่อมสาวกเรื่อง "อัตตา" โจ่งครึ่ม แต่ลงท้ายมาไม้เดิมให้ร่วมบริจาคเงิน ฉลองเจดีย์จานบิน อ้างหน้าตาเฉยจะช่วยเป็นสะพานข้ามไปถึง "นิพพาน"
ผู้สื่อข่าวรายงานจากวัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานีว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา นอกจากจะมีสาวกธรรมกายเดินทางมาร่วมกิจกรรมของวัดตามปกติแล้ว ยังมีกลุ่มคนที่ยังไม่เคยมาที่วัดเดินทางมาร่วมด้วย ซึ่งทางวัดได้จัดมัคคุเทศก์พาชมทั่วบริเวณ ยกเว้นเขตสังฆาวาสที่เป็นเขตหวงห้าม ทั้งนี้ บริเวณสภาธรรมกายสากลทางชมรมพุทธศาสตร์สากล แห่งประเทศไทยได้มาเปิดรับสมาชิก และจำหน่ายวิดีโอเทป หนังสือ รูปหล่อหลวงพ่อสด นอกจากนี้ยังมีการตั้งตู้รับบริจาคเงินเข้ามูลนิธิคุ้มครองธรรมและวิชชาธรรมกายด้วย
เวลา 09.30 น. นายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกาย ได้เดินทางมาถึงสภาธรรมกายฯเพื่อนำสาวก นั่งสมาธิประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นได้กล่าวว่าท่าที่นั่งสมาธิอยู่นี้เรียกว่าท่าชนะมาร ท่ามารสะดุ้งทั้งภพ เพราะกลัวว่าพวกเราจะไปรู้เรื่องที่พวกเขาบังคับบัญชาอยู่ เป็นท่าของผู้ที่พ้นแล้ว ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกายก็นั่งท่านี้ เป็นท่านั่งของผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน ต้องจำไว้ให้ดีและทำใจให้เบิกบาน พระรัตนตรัยเป็นแหล่งกำเนิดที่คงที่ เป็นตัวของตัวที่แท้จริง เข้าถึงเมื่อใดจะมีความสุขเกิดขึ้นทันที ความรู้แจ้งในชีวิตจะเกิดขึ้น มองสรรพสัตว์ทั้งหลายประดุจเพื่อนเหมือนครอบครัวเดียวกัน ใจของเราจะถูกเปลี่ยนไปอย่างนี้ไม่ว่าจะนั่งนอนยืนเดิน จะมีปัญญาบริสุทธิ์เกิดขึ้น พวกที่ประกอบธุรกิจก็จะเจริญรุ่งเรือง วินิจฉัยอะไรก็จะไม่ผิดพลาด นายไชยบูลย์กล่าวต่อไปว่า ขอให้ทำให้ธุรกิจกับจิตใจไปควบคู่กัน ไม่ว่าคนหรือสัตว์นั้นไม่มีแก่นสาร เป็นสิ่งที่ถูก
เปลี่ยนแปลงได้อยู่ตลอดเวลา ไม่มีอะไรได้อย่างใจเราทุกอย่าง ในร่างกายเราเปลี่ยนแปลงโดยตลอดเวลาเพราะตกอยู่ในไตรลักษณ์ ไม่เที่ยง เมื่อเราเห็นว่าทุกอย่างเป็น "อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา" ควรจะมุ่งแสวงหาให้เป็น "นิจจัง ทุกขัง อัตตา" ให้เป็นตัวเป็นตนเป็นชีวิตที่แท้จริง เป็น "นิจจัง สุขัง อัตตา" คือที่ฐานที่ 7 ซึ่งมีอยู่ในตัวของเราเอง เราจะสร้างได้เมื่อเข้าถึง เราต้องเห็นได้ในตัวของเราเอง เป็นปัจจะตัง จึง จะรู้ว่านิจจัง สุขัง อัตตานี่แหละเป็นสิ่งที่ควรระลึกถึง
พุทธลักษณะนี่แหละงามไม่มีที่ติ เหมือนอย่างมหาบุรุษของโลก ขนาดผู้เป็นปรปักษ์กับพระพุทธศาสนา ยังต้องชื่นชมในตัวท่าน เพราะ ติเตียนไม่ได้ แต่ยังต้องยอมรับว่าท่านเป็นลักษณะของมหาบุรุษที่ยิ่งใหญ่ ยากจะมีผู้ใดเสมอเหมือน ลักษณะของท่านคือมีเกศเป็นดอกบัวตูมที่ใสเกินใส วันจันทร์ใสอย่างไรวันอื่น ๆ ก็ใสอย่างเดิม แต่ผู้ที่เรียนรู้จริงแล้วมันใสเกินกว่าใส และหากยิ่งนิ่งมากยิ่งใสมากเพิ่มพูนขึ้นไปเรื่อย ๆ ใสเกินใสสวยเกินสวย สมบูรณ์ด้วยวิชชาและสรณะ คลังแห่งความรู้ของพระไตรปิฏก 84,000 พระธรรมขันธ์ คลังแห่งปริยัติที่มีความรู้มากมาย เมื่อธรรมกายใสอย่างไม่มีที่ติเมื่อนั้นความรู้จะพรั่งพรูออกมา มี 3 สิ่งรวมอยู่ในนั้น
"แต่ธรรมกายอยู่ลึกลงไปอีก อยู่ตรงกลางของพระรัตนตรัยซึ่งมีอยู่ในตัวของเรา ซึ่งอยู่กลางกายในฐานที่ 7 จะภาวนาสัมมาอรหังหรือไม่ภาวนาก็ได้ ชอบอย่างใดทำอย่างนั้น ร่วมกันปฏิบัติธรรมเพื่อให ้เราจะได้เป็นประธานรองฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ต่อไปได้ในอีกไม่นานนี้นะลูกนะ"
ทั้งนี้ นายไชยบูลย์ยังได้กล่าวย้ำอีกว่า ขอให้พวกเรามาร่วมใจกันเป็นประธานรองและประธานกองให้จงได้ เพื่อฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ให้จงได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม แม้ว่าจะมีอุปสรรคมากั้นขวางสักเพียงใด เพื่อแสดงว่าพวกเราได้ฝ่าอุปสรรคมาได้ คือความตระหนี่ เพราะเราต้องบริจาคทรัพย์มาสร้าง และเป็นประธานรองหรือประธานกองก็ตามให้เกิดความสำเร็จขึ้นให้จงได้ ให้เห็นว่าพวกเราได้ชนะใจตัวเอง ไม่มีการโกรธไม่มีการท้อแท้ จนถึงวันฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ เพื่อให้จุดนี้เป็นประดุจสะพานไปถึงพระนิพพานให้จงได้
นายไชยบูลย์ยังกล่าวด้วยว่า โลกยังต้องการคนดีเกิดขึ้นอีกมากมาย อาศัยมหาธรรมกายเจดีย์แห่งนี้ บุญจึงจะเกิดขึ้นมากมาย เป็นบุญใหญ่ให้พวกเราไปถึงที่สุดแห่งธรรม เมื่อละโลกไปแล้วเราจะได้ไปสู่ สุวรรณภูมิ ฉะนั้นเราจะต้องเป็นประธานรองฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ให้จงได้
"จำไว้ เราต้องทำให้ได้ด้วยความตั้งใจจริงให้สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอัศจรรย์นะจ๊ะ"
นอกจากนี้ นายไชยบูลย์ยังได้ให้สาวกตะโกนพร้อมกันว่า "เราจะต้องเป็นประธานรอง ฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ในครั้งนี้ให้ได้ 3 ครั้ง จากนั้นก็กล่าวว่า "ดีมากที่สุดเลย ดีมาก ดีมาก ดีมาก"
ด้านน.ส.ชุลีพร ช่วงรังษี ประชาสัมพันธ์มูลนิธิธรรมกาย กล่าวถึงกรณีที่มหาเถรสมาคม (มส.) มีมติให้ดำเนินการตามกระบวนการนิคหกรรมกับนายไชยบูลย์และพระเผด็จ ทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายต่อไปว่า ยังไม่ขอออกความเห็นในเรื่องนี้ ส่วนกรณีที่พระเผด็จต้อง อธิกรณ์ ไม่สามารถทำหน้าที่รักษาการเจ้าอาวาสได้นั้น ทางวัดยังไม่ได้หารือกัน แต่การจัดการทุกอย่างภายในวัดขณะนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร สำหรับการขึ้นเทศน์ของนายไชยบูลย์ก็ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะถึงแม้จะไม่ได้เป็นเจ้าอาวาสก็สามารถขึ้นเทศได้ และนายไชยบูลย์ก็ยังคงเป็นหลักในการดำเนินกิจกรรมของวัดอยู่เหมือนเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดได้มีผู้ร้องเรียนว่าวัดพระธรรมกายทำให้ครอบครัวได้รับความเดือดร้อนอีกแล้ว โดยผู้ร้องเรียนรายนี้คือนายพวง บัวดอนไพร ซึ่งได้ร้องเรียนผ่านทางรายการวิทยุธรรมร่วมสมัย คลื่น 105 นายพวงเปิดเผยว่า ตนและภรรยาคือนางวรรณีมีอายุกว่า 60 ปีแล้ว อาศัยอยู่ย่านหนองแขม กรุงเทพฯ มีบุตรชายที่ตั้งใจจะอาศัยเป็นที่พึ่งรับช่วงดูแลธุรกิจของทางบ้าน อย่างไรก็ตาม บุตรชายของตนคนนี้ได้ถูกชักชวนให้ไปบวชที่วัดพระธรรมกายชื่อพระทวีชัย แล้วไม่ยอมสึกจนถึงขณะนี้กว่า 3 ปีแล้ว ตั้งแต่บวชมาบุตรชายเคยกลับมาเยี่ยมบ้านเพียง 2 ครั้งเท่านั้น
นายพวงเปิดเผยต่อไปว่า พระบุตรชาย ของตนได้นำรถปิกอัพโตโยต้าสีแดงเลือดหมู ไปให้ทางวัดพระธรรมกายใช้งาน ซึ่งนางวรรณีภรรยาตนเคยไปทวงถามถึงรถ คันดังกล่าวว่าหากไม่ได้ใช้อะไรก็ขอให้นำกลับมาให้พ่อแม่ได้ใช้ แต่พระทวีศักดิ์ปฏิเสธโดยกล่าวว่าให้วัดไปแล้วเอาคืนไม่ได้ ตนไม่เชื่อเลยว่าคนที่มีความรู้สูงจบปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์จะเป็นได้ขนาดนี้ วัดนี้ทำให้บุตรชายของตนเปลี่ยนแปลงไปได้ถึงขนาดนี้
"ขอให้พระลูกชายรีบสึกออกมา เพราะตอนนี้พ่อกับแม่แก่มากแล้ว จะทำอะไรก็ลำบากมีกันอยู่ 2 คนตายาย อยากจะฝากผีฝากไข้กับพระลูกชาย เพราะลูกคนอื่น ๆ มีครอบครัวแล้วก็แยกย้ายออกไปอยู่ที่อื่น ไม่ทราบว่าพระลูกชายได้ยินหรือเปล่า" นายพวงกล่าวและว่า ทางวัดพระธรรมกายเคยส่งพระทวีชัยไปเผยแพร่ลัทธิธรรมกายที่สหรัฐอเมริกาพร้อมกับพระรูปอื่นอีก 5 รูป ซึ่งตามกฎระเบียบการจะออกไปประกาศศาสนาในต่างประเทศพระที่จะไปต้องบวชเรียนอย่างน้อย 5 พรรษา แต่พระทวีชัยเพิ่งบวชได้เพียงแค่ 3 พรรษาเท่านั้น
นอกจากนี้นายพวงยังเปิดเผยด้วยว่า ก่อนหน้าที่พระบุตรชายของตนจะถูกชักชวนไปบวช ได้เคยนำเงินไปทำบุญกับวัดพระธรรมกายเป็นจำนวนมาก รวมแล้วเกือบ 3 ล้านบาท