เดลินิวส์ 17/1/2543
วัดธรรมกายหงอย ศรัทธาหายไปหมด
ศรัทธาวัดหายหมด ศิษย์ธรรมกายหงอยร่วมงานวันเกิดยายชีปาฏิหารย์ "จันทร์ ขนนกยูง" หลังถูกสื่อมวลชนเปิดโปงพฤติกรรมฉาว 1 ปีเต็ม "ไชยบูลย์"ฝ่อไม่กล้าโวเหมือนเก่า กรณียายจันทร์ปัดระเบิดปรมาณู แต่ชวนเชื่อบริจาคเงินแถมโอ้โลม ให้ผู้คนขอเป็นประธานฉลองมหาธรรมกายเจดีย์เช่นเดิม พระพยอมพ้อกิจกรรมเผย แพร่พุทธศาสนาเสียหาย เพราะเข้ามายุ่งเกี่ยวปัญหาวัดพระธรรมกาย เจ้าอาวาสวัดทุ่งไผ่ระบุ พระพุทธเจ้าไม่ใช่ผีที่สามารถเข้าเฝ้าได้
เมื่อเวลา 9.30 น.วันที่ 16 ม.ค. ที่วัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง ปทุมธานี นายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าลัทธิธรรมกายได้เดินทางมาร่วมพิธีคล้ายวันเกิดของอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง แกนนำลัทธิธรรมกายคนสำคัญ ซึ่งการจัดงานปีนี้ไม่ค่อยคึกคักเหมือนเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งมีการเปิดโปงพฤติกรรมของวัดพระธรรมกายใหม่ๆ โดยมีผู้มาปฏิบัติธรรมร่วมงานบางตามาก ไม่มีการออกร้าน บริการอาหารและเครื่องดื่ม มีเพียงจุดบริการอาหารตามปกติเท่านั้น
อย่างไรก็ตามในเรื่องของการเรี่ยไรทำบุญ วัดได้ขยายจุดรับบริจาคในบริเวณสภาธรรมกายสากล ซึ่งแต่เดิมนั้นมีเฉพาะทางด้านขวาออกมาตั้งเต็มพื้นที่ แต่ไม่ปรากฎว่าจะมีผู้สนใจบริจาคเท่าใดนัก เนื่องจากผู้มาร่วมงานส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านจากต่างจังหวัด ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ผู้มาปฏิบัติธรรมว่า ศรัทธาของวัดเสื่อมลงอย่างเห็นได้ชัดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หลังจากที่มีการเสนอข่าวของวัดพระธรรมกายตลอด 1 ปีกว่าที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพิธีนั้นนายไชยบูลย์ได้ขึ้นมาพูดกับผู้มาปฏิบัติธรรมเหมือนเช่นเคย โดยกล่าวยกย่องอุบาสิกาจันทร์อย่างมากมาย แต่ไม่มีการพูดพาดพิงถึงเรื่องที่เคยกล่าวย้ำเสมอว่า อุบาสิกาจันทร์นั่งสมาธิปัดระเบิดปรมาณูให้พ้นจากประเทศไทยไปตกที่ญี่ปุ่นเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 อีก โดยกล่าวว่า สมัยที่อุบาสิกาจันทร์ทำวิชชาธรรมกายอยู่กับหลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญนั้น ได้รับคำบอกเล่าถึงเรื่องการมีโอกาสไปบวชพระ สร้างวัดที่ต่างจังหวัด อุบาสิกาจันทร์คิดว่าตัวเองนั้นคงจะไม่มีโอกาส เนื่องจากหลวงพ่อสดไม่ให้ไปไหน แต่สุดท้ายอุบาสิกกาจันทร์ก็เพียรพยายามจนสมปรารถนาสร้างวัดพระธรรมกายบนเนื้อที่กว่า 2,000 ไร่
เป็นที่น่าสังเกตว่าช่วง 1 ปีที่ผ่านมาไม่ค่อยมีใครพบเห็นอุบาสิกาจันทร์เลยแม้แต่ในพิธีงานวันเกิดครั้งนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของวัดพระธรรมกายชี้แจงว่า อุบาสิกาจันทร์มีอายุมากแล้ว ร่างกายไม่ค่อยเข้มแข็ง จึงไม่สามารถออกมาพบผู้มาปฏิบัติธรรมได้ ส่วนจะร่วมงานฉลองมหาธรรมกายเจดีย์หรือไม่นั้นก็ต้องรอดูสุขภาพอุบาสิกาจันทร์ก่อน
สำหรับเนื้อหาสาระที่นายไชยบูลย์ได้กล่าวแก่ผู้มาร่วมงานนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังคงกล่าวเชิญชวนให้มาร่วมกันทำบุญในงานมหาธรรมกายเจดีย์ แสดงตนขอเป็นประธานและรองประธานสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ ซึ่งจะต้องบริจาคเงินคนละ 10,000 บาทเช่นเดิม
ช่วงหนึ่งนายไชยบูลย์กล่าวว่า จะต้องเชิญมาให้ได้นะลูกนะ เพราะตอนนี้เหลือเวลาเพียง 3 เดือนแล้ว เราจำเป็นต้องใช้ทุกวินาทีให้เป็นประโยชน์ด้วยการชักชวนผู้คนอย่าให้เขาพลาดโอกาสในการสร้างบุญ เพราะองค์มหาธรรมกายเจดีย์องค์นี้จะเป็นองค์สุดท้ายที่ให้โอกาสสร้างบุญ การสร้างมหาธรรมกายเจดีย์องค์ที่สองเป็นเรื่องยาก คิดว่าชาตินี้คงไม่มีแห่งที่สอง ไปชักชขวนกันมานะจ๊ะ เพราะหลวงพ่อเห็นบุญจากการสร้างมหาธรรมกายเจดีย์มีมากมายมหาศาล และในงานจะมีการจัดพิธีบวชสามเณรแก้ว โดยจะคัดเอาเฉพาะผู้สถาปนาบ้านกัลยาณมิตรเท่านั้น
รายงานแจ้งว่า นายไชยบูลย์ยังคงพยายามให้ผู้มาปฏิบัติธรรมตะโกนคำว่า เราจะต้องเป็นประธานของมหาธรรมกายเจดีย์นี้ให้ได้ 3 ครั้งเหมือนสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยระบุว่าคำที่เปล่งออกมานั้นเป็นคาถามหาเศรษฐี และให้เก็บรักษาไว้ให้ดีอย่าได้ไปบอกใครด้วย นอกจากนี้ในงานฉลองวันเกิดอุบาสิกาจันทร์นั้น ได้มีการเปิดมิวสิควีดีโอ และเพลงประกอบซึ่งเชิดชูความดีอุบาสิกาจันทร์ โดยอาศัยทำนองเพลงรักน้องพร ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาเพลง มีอยู่ท่อนหนึ่งที่เชิญชวนให้บริจาคเงินแก่วัด โดยระบุว่า "สร้างองค์พระองค์ละหมื่นแล้วทำให้ชื่นดวงจิต เหมือนเพียงน้อยนิด คิดแล้วคุ้มใช้ไหมจ๊ะคุณยาย" ด้วย ส่วนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้มีการจัดสัมนาเรื่อง ผลกระทบของกระบวนการทำให้พุทธศาสนาเป็นพุทธพาณิชย์ โดยพระพิศาลธรรมพาที (พระพยอม กัลยาโณ) ประธานมูลนิธิวัดสวนแก้วกล่าวว่า การทำให้พุทธศาสนาเป็นพุทธพาณิชย์ส ่งผลกระทบต่อหลักธรรม ทำให้คนไขว้เขวจากหลักที่ต้องใช้กำลังในการทำมาหากินเพื่อดูดทรัพย์ แต่วัดหนึ่ง ทำพระเครื่องขึ้นมาดูดทรัพย์แทน ทำให้เสียจุดยืนของชาวพุทธ นอกจากนี้ยังทำให้หลักธรรมวิปริต ผู้คนเกิดความสับสน ที่สำคัญมีการอวดอ้างการไแถวายข้าวพระพุทธเจ้า ทั้งยังระบุด้วยว่าทำได้เพียง 2 คนคือ นายไชยบูลย์และอุบาสิกาจันทร์เท่านั้น แถมยังมีการพูดถึงการปัดระเบิดของอุบาสิกาจันทร์ด้วย
"ท่านพุทธทาสเคยกล่าวไว้ว่ายิ่งสร้างพระพุทธรูปและพระเครื่องมากเท่าไหร่ยิ่งบังพระพุทธเจ้า และยิ่งสร้างแบบก็ยิ่งผิดเพี้ยนไปเรื่อย เช่นพระมหาสิริราชธาตุมีการโฆษณาว่า สร้างจากพญาเหล็กกล้าที่เทวดาเฝ้ามา 200 ล้านปี สามารถนำไปแกว่งในน้ำดื่มแล้วดื่มรักษาโรคได้ ถ้าศักดิ์สิทธิ์จริงระหว่างประชาชนกับเจ้าลัทธิผู้สร้างก็ควรจะช่วยผู้สร้างก่อน แต่นี่กลับปล่อยให้ป่วยเข้าออกโรงพยาบาล จึงควรเปลี่ยนชื่อชื่อพระใหม่ว่าเป็รรุ่นกบฎเจ้าอาวาสหรือเนรคุณเจ้าอาวาสก็ได้"
พระพยอมกล่าวว่าส การออกมาวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมวัดพระธรรมกายนั้นส่งผลกระทบต่อการเผยแพร่พุทธศาสนา เช่นเมื่อครั้งที่ได้รับการนิมนตร์ให้ไปบรรยายธรรมที่สหรัฐอเมริกา ได้เตรียมทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว แต่ปรากฎว่ามีสมาชิกกลุ่มกัลยาณมิตรในสหรัฐขู่จะทำร้ายร่างกาย ทางพล.ต.ท.อุดม เจริญ ผบช.ศ. ได้ตรวจสอบแล้วบอกว่าอย่าเดินทางไปเลย บางทีไปเทศน์ก็โดนแซวหากไปในพื้นที่ของเขาก็มี
ด้านายสุวรวงศ์ วัฒนกุล ประธานชมรมดำรงธรรมกล่าวว่า ได้รับผลกระทบจากการวิพากษ์วิจารณ์วัดพระธรรมกายเช่นกัน ทำให้มีงานพูดน้อยลง มีปัญหากับพระผู้ใหญ่ กระทั่งได้รับการตั้งฉายาว่า สุนัขรับใช้พระพยอม แต่ก็ไม่ได้ รู้สึกท้อแท้แม้ว่าจะเหนื่อยขึ้นก็ตาม อย่างไรก็ดีจะให้พุทธศาสนาไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้าเลย 100%ก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่ขอให้อยู่ในขอบเขต 3 ประการคือ ไม่เกินไป ไม่ยักยอก และไม่หลอกลวง
พระดุษฎี เมธังกุโร เจ้าอาวาสวัดทุ่งไผ่ ชุมพร กล่าวว่า ในปัจจุบันสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่พุทธพาณิชย์ แต่เป็นไสยพาณิชย์ พระสามารถสร้างวัตถุมงคลได้เพื่อเป็นกำลังใจ ทำแต่น้อยไม่ใช่เป็นอุตสาหกรรม ทำให้เป็นอุบายให้คนหันมาศึกษาและปฏิบัติธรรม แต่ต้องสอนให้ทำความดี ละเว้นความชั่วด้วย ไม่ใช่สร้างวัตถุมงคลเพื่อเลี้ยงชีพ ถ้าทำเช่นนี้จะถือเป็นการผิดพระธรรมวินัย ส่วนเรื่องการถวายข้าวพระพุทธนั้น สามารถกระทำได้ เป็นกุศล ประชาชนจะทำบุญถวาย ก็ให้นึกถึงพระพุทธเจ้าก่อนจะเป็นประโยชน์ แต่ไม่ใช่ทำเหมือนกับว่าพระพุทธเจ้ายังอยู่ สามารถเข้าเฝ้าได้ เหมือนพระพุทธเจ้าเป็นผีที่จะสามารถติดต่อได้