เดลินิวส์ 30/12/2541

ธรรมกายอัดสื่อรับ 50 ล.โจมตี

ศิษย์วัดธรรมกายสงสัยเป็นช่างสีมือเอก บอกที่วัดถูกโจมตีด้วนเหตุที่สื่อมวลชนรับเงินมา 50 ล้าน "อาคม" เตรียมขอพบเจ้าคณะภาค 1 สอบถามผลการสอบสวนตามมติมหาเถรฯ หลังจากที่ส่งรองอธิบดีกรมการศาสนาเข้าพบไปแล้ว ข้องใจทำไมรองปลัดกระทรวงเสนอชื่อนักธุรกิจที่ตระกูลทำคอนโดฯขายหน้าวัดพระธรรมกายมาเป็นกรรมการแก้ปัญหาวัดด้วย
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ที่ผ่านมา นายยุทธชัย อุตมะ รองอธิบดีกรมการศาสนา เปิดเผยว่า ศูนย์โฮปไลน์ที่กรมตั้งขึ้นเพื่อรับฟังความเห็นปัญหาวัดพระธรรมกายตั้งแต่วันที่ 4-29 ธ.ค. มีผู้โทรศัพท์เข้ามาสนับสนุนวัด 300 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงเคยปฏิบัติธรรมในวัด โดยให้เหตุผลว่า วัดพระธรรมกายทำให้คนเข้าวัด ช่วยเหลือสังคม โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน การทำบุญก็ไม่เคยบังคับ การเข้าวัดทำให้จิตใจดี พร้อมทั้งบอกว่า ที่สื่อมวลชนออกมาโจมตีวัดเพราะมีคนจ่ายเงินให้ทำลายวัดจำนวน 50 ล้านบาท
ส่วนผู้ไม่เห็นด้วยมี 150 ราย ให้เหตุผลว่าวัดสร้างความแตกแยกให้กับครอบครัว ทำบุญจนเดือดร้อน และมักโทรศัพท์ตามตื๊อให้ไปสะสมบุญ เจ้าอาวาสมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม สะกดจิตให้คนงมงายกับบุญจนเดือดร้อน และสาเหตุที่คนโทรศัพท์เข้ามาไม่มากอาจเป็นเพราะไม่ทราบหมายเลขโทรศัพท์ โดยช่วงที่มีคนโทรศัพท์แสดงความเห็นมากที่สุดคือวันที่ 4-8 ธ.ค. ที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอให้มหาเถรสมาคมพิจารณาปัญหา ของวัดพระธรรมกาย ซึ่งจะสรุปข้อมูลทั้งหมดเสนอนายอาคม เอ่งฉ้วน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการในวันที่ 6 ม.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า คนที่โทรศัพท์เข้ามาแสดงความคิดเห็นมีนางเพลินใจ ศิลปอาชา นามสกุลเหมือนกับนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยด้วย
ทางด้านนายอาคม เอ่งฉ้วน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการเปิดเผยว่า หลังพ้นเทศกาลปีใหม่ไปแล้ว ตนจะติดต่อขอเข้ากราบนมัสการพระพรหมโมลี เจ้าอาวาสวัดยานนาวาและเจ้าคณะภาค 1 ในฐานะประธานสอบสวนปัญหาวัดพระธรรมกาย ซึ่งมหาเถรสมาคมเป็นผู้แต่งตั้ง เพื่อขอรับทราบแนวทางการดำเนินการและสิ่งที่พระพรหมโมลีต้องการให้กระทรวงศึกษาธิการช่วยเหลือ โดยก่อนหน้านี้นายอาคมเคยส่งนายยุทธชัย อุตมะ รองอธิบดีกรมการศาสนาไปกราบนมัสการมาแล้ว
"ผมเองต้องการให้ปัญหาวัดพระธรรมกายยุติอย่างรวดเร็ว เพราะเรื่องดังกล่าวสร้างความแตกแยกให้กับคนในศาสนา แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับมหาเถรฯและพระพรหมโมลีจะดำเนินการอย่างไร"
สำหรับกระทรวงศึกษาธิการเอง นายอาคมกล่าวว่า ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาแนวทางการแก้ปัญหาวัดพระธรรมกายไว้แล้ว โดยมีนายนายสุวัฒน์ เงินฉ่ำ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ไปสรรหาบุคคลผู้มีความรู้เกี่ยวกับศาสนาทั้งในและนอกกระทรวง ตั้งเป็นคณะกรรมการพิจารณาปัญหาพร้อมข้อเสนอแนะ ภายใน 30 วัน ซึ่งนายสุวัฒน์เสนอรายชื่อคณะกรรมการให้ตนอนุมัติไปแล้ว อย่างไรก็ตามคณะกรรมการชุดนายสุวัฒน์มีข้อท้วงติงใน
กรรมการบางคน อาทิ นายอนิรุทธิ์ ว่องวานิช ในฐานะนายกยุวพุทธิกสมาคมฯและเป็นเจ้าของห้างขายยาอังกฤษตรางู แต่ปรากฏว่ากลุ่มว่องวานิชได้มีธุรกิจเกี่ยวพันกับวัดพระธรรมกายโดยน้องชาย นายอนิรุทธิ์ได้ไปลงทุนสร้างคอนโดมิเนียมขายหน้าวัด และร่วมทุนกับลูกศิษย์ใกล้ชิดรวมถึงเป็นตัวตั้งตัวตีในปัญหาที่
กำลังเกิดขึ้นของวัดพระธรรมกายด้วย ถือว่าไม่เหมาะสม
ก่อนการตั้งคณะกรรมการชุดนี้นายอาคมกล่าวว่า ได้ย้ำกับนายสุวัฒน์ไปแล้ว อย่าเอาบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งทางบวกและทางลบกับปัญหาวัดพระธรรมกายมาเป็นกรรมการ ซึ่งไม่ทราบว่าทำไมนายสุวัฒน์ถึงได้เสนอชื่อนายอนิรุทธิ์มาอีก และเมื่อมีการเสนอรายชื่อทั้งหมดมาที่ตน ก็อธิบายเพียงเป็นนายกยุวพุทธิกสมาคมฯ แต่ไม่ได้บอกว่ามีน้องชายไปทำคอนโดฯขายหน้าวัด โดยข้อมูลเรื่องดังกล่าวตน
เพิ่งทราบในภายหลัง
สำหรับสถานการณ์ด้านวัดปากน้ำ ได้มีตำรวจจัดเวรเข้าตรวจตราและอารักขาพระอดิศักดิ์ วิริยสโก
อดีตพระแกนนำวัดพระธรรมกาย ที่ออกมาเปิดเผยความไม่ชอบมาพากลของวัด จนทำให้มีกลุ่มคนระบุว่ามาจากเพชรบุรี และมีแกนนำแต่งกายคล้ายกลุ่มกัลยาณมิตรของวัดมาข่มขู่ถึงวัดเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา และขู่ว่าจะมาอีก 4 คันรถ เพื่อบีบบังคับไม่ให้พระอดิศักดิ์ให้สัมภาษณ์เรื่องวัดพระธรรมกายอีก ซึ่งเหตุการณ์ในวันนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น คาดว่าคนกลุ่มนี้
คงเลิกราไปเอง และที่มาเคลื่อนไหวเพื่อสร้างสงครามประสาทเท่านั้น
นายสุวัฒน์ เงินฉ่ำ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการรวบรวมข้อมูลกรณีวัดพระธรรมกาย กล่าวถึงกรณีเสนอให้แต่งตั้งนายอนิรุทธิ์ ว่องวานิช ร่วมเป็นกรรมการทั้งที่นายอนิรุทธิ์ เป็นศิษย์วัดพระธรรมกายว่า
ตนและนายยุทธชัย อุตมะ รองอธิบดีกรมการศาสนา
เห็นตรงกันว่า นายอนุรุทธ์ เป็นนายกยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย เป็นคนรุ่นใหม่ที่สนใจงานพระศาสนา และช่วยเหลืองานของกรมการศาสนามาตลอด แม้จะมีความเชื่อมโยงกับวัดพระธรรมกายแต่ก็เป็นคนดีคนหนึ่ง และหากมองในแง่ดีก็จะทำให้คณะกรรมการ
ได้ข้อมูลในเชิงลึกของวัด และตนก็ไม่เชื่อว่านายอนิรุทธิ์ จะมีอิทธิพลโน้มน้าวการทำงานของคณะกรรมการได้ อย่างไรก็ตามตนเห็นว่าถึงแม้ครอบครัวของนาย อนิรุทธิ์จะมีธุรกิจเชื่อมโยงกับวัดพระธรรมกายก็ไม่ได้หมาย
ความว่าทำความผิด และการที่ตนเสนอชื่อนายอนิรุทธิ์ก็เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ใจไม่มีอะไรแอบแฝง
นายสุวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการนั้น ขณะนี้ยังอยู่
ระหว่างการรวบรวมข้อมูล ส่วนทางกรมการศาสนาก็กำลังวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับคำสอนของวัดพระธรรมกายอยู่ คาดว่าจะสามารถประชุมกรรมการนัดแรกได้ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนมกราคมนี้.