เดลินิวส์ 22/7/2542
สอบพบ'ไชยบูลย์'โอนเงินไปสวิส ตร.ใช้ ก.ม.ฟอกเงินเล่นงาน
กองปราบฯพบหลักฐานเพิ่ม "ไชยบูลย์" โอนเงินส่งเข้าบัญชสวิสฯ ผ่านสีกาสนิทแบบมีกลิ่น ดึง ป.ป.ส.-ตำรวจเศรษฐกิจ ร่วมสอบ สางเส้นทางเงิน จับจุด กระแสนพันล้านจาก 10 บัญชาลับไปให้สาวกสนิท งัดกฎหมายฟอกเงินเล่นงานแน่ เจ้าคณะปทุมฯ สัญญาอีกเข้าพรรษา แล้วจะเรียกพระปลอม มาตั้งข้อหาตามกระบวนการศาลสงฆ์แน่ กรรมาธิการศาสนาฯ สุดทนสำนักเจดีย์จานผี ป้ายสีปราชญ์ศาสนา ออกแถลงการณ์โต้ พระธรรมปิฎก ไม่เคยอยู่เบื้องหลัง กฎหมายสงฆ์ฉบับใหม่ พนักงานสอบสวน สุดท้อเล่ห์กลโกง สอบปากคำคนวัดฉาวไม่ได้ผล นัดกันอ้างป่วยทุคกนวืดหมด "พล.ต.ท.วาสนา" ส่งลูกน้อง เข้าวัดพระธรรมกาย จับเข่า "ทัตตชีโว" คุย 22 ก.ค. ต้องให้ปากคำ ไม่งั้นจะหาว่าไม่เตือน
นายวิชัย ตันศิริ รมช.ศึกษาธิการเปิดเผยว่า นายพิภพ กาญจนะ อธิบดีกรมการศาสนารายงานให้ทราบจากการไปกราบนมัสการพระ สุเมธาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดมูลจินดาราม เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เมื่อวันจันทร์ที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา พระสุเมธาภรณ์แจ้งว่า หลังจากเข้าพรรษาในวันที่ 28 ก.ค.ไปแล้ว จะเรียกนายไชยบูลย์ มารับทราบข้อกล่าวหา และในวันที่ 22 ก.ค. เวลา 15.00 น. ตนและนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว. ศึกษาธิการ จะเดินทางไปวัดมูลจินดาราม เพื่อตามเรื่องราวทั้งหมด และเร่งรัดให้เร่งดำเนินการ โดยเร็วเพราะสังคมสับสน และควรรีบดำเนินการ
สำหรับกฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ 11 ว่าด้วยการลงนิคหกรรม คงต้องปรับปรุง ให้ชัดเจนเพราะไม่ได้ระบุ ระยะเวลาการดำเนินงาน ที่ชัดเจนว่าสิ้นสุดเมื่อใด รวมถึงการร่างแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ที่จะกำหนดแนวทาง การสอบสวนพระที่ประพฤติผิดพระธรรมวินัย โดยให้มีพระวินัยธร สอบสวนพระที่ถูกกล่าวหาเป็นการเฉพาะ
ด้านนายสมศักดิ์กล่าวว่า นายพิภพได้รายงานว่า เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี อยากจะหารือกับกระทรวงศึกษาธิการ อย่างเป็นทางการ ถึงแนวทางดำเนินการ กรณีวัดพระธรรมกาย ที่ชัดเจนซึ่งจะไปพร้อมกับนายวิชัย แต่หากไม่ว่างติดตอบกระทู้ ในสภาก็จะมอบหมายให้ นายวิชัยไปคนเดียว ขอยืนยันว่ากรณี ของวัดพระธรรมกาย จะต้องมีความชัดเจน ไม่ทำให้ประชาชน เคลือบแคลงสงสัย และไม่บั่นทอนพระพุทธศาสนา หากถูกก็ว่าไปตามถูก ผิดก็ว่าไปตามผิด ทุกอย่างจะต้องกระจ่างโดยเร็ว
นายสมศักดิ์กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 23 ก.ค. เวลา 07.30 น. จะเดินทางไปเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช ในโอกาสที่เข้ารับตำแหน่ง รมว. ศึกษาธิการ ส่วนจะกราบทูลถาม ถึงกรณีวัดพระธรรมกายหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับสมเด็จพระสังฆราชว่าจะมีพระบัญชาหรือไม่ ซึ่งหากมีพระบัญชา ในเรื่องนี้อีกก็พร้อมที่จะรับมาปฏิบัติทันที
วันเดียวกัน พล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ ผบช.สง.ก.ตร. ในฐานะหัวหน้าชุดสอบสวนคดีการฟ้องร้องนายไชยบูลย์ กล่าวในรายการ เพื่อบ้านเพื่อเมืองถึงกรณีการเดินทางไปวัดโสธรวรวิหาร หรือ วัดหลวงพ่อโสธรเมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า เพื่อทราบหลักการบริหารการเงิน นำมาเทียบเคียงกับกรณีวัดพระธรรมกาย เนื่องจากวัดโสธรฯเป็นวัดใหญ่มีเงินบริจาคมาก และมีสิ่งก่อสร้าง ใหญ่โตเหมือนกัน
ข้อมูลที่ได้รับจากเจ้าอาวาสและไวยาวัจกรของวัดโสธรฯ พบว่ามีการจัดระบบการเงินที่เข้มงวด โปร่งใส โดยการจ่ายเงิน ไม่ได้อยู่ที่เจ้าอาวาสรูปเดียว แต่ต้องผ่านกรรมการวัดหลายขั้นตอน ที่ดินทุกแปลงก็เป็นชื่อวัด และส่งโฉนดไปเก็บไว้ที่ศึกษาธิการจังหวัด ส่วนการเงินแยกบัญชี ละเอียดว่าเงินที่ได้รับ จากการบริจาคด้วยวัตถุประสงค์ใด ก็นำไปใช้วัตถุประสงค์นั้น และวัดโสธรฯมีมูลนิธิเหมือนวัดพระธรรมกาย จึงทำให้เปรียบเทียบได้ง่ายว่าที่ถูกต้องเป็นอย่างไร และไม่ถูกต้องเป็นอย่างไร แนวคิดนี้พนักงานสอบสวน นั่งหารือกันหลายคน ช่วยกันคิดว่าวัดที่มีชื่อเสียงในประเทศมีจำนวนมาก น่าจะไปสอบถามดู
ด้านนายวันชัย แสงเจริญ ไวยาวัจกร วัดโสธรฯกล่าวว่า เข้ามารับหน้าที่เมื่อปี 2518 โดยก่อนหน้านี้ เคยเป็นผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย สาขาใน จ.ฉะเชิงเทรามาก่อน และจะดูแลการ บริจาคแยกประเภทชัดเจน และทุกอย่างดำเนินการ โปร่งใส ถูกต้องตามกฎระเบียบ การบริจาค ก็ให้ทำด้วยกำลังศรัทธา ทำมากทำน้อยได้บุญทั้งนั้น ขณะนี้กำลังก่อสร้างโบสถ์ด้วยทุน 2 พันล้านบาท ดำเนินการมากว่า 3-4 ปีแล้ว คาดว่าภายใน 1-2 ปีจะแล้วเสร็จ
รายงานข่าวจากกองปราบปรามเปิดเผยว่าพนักงานสอบสวนติดต่อไปยังนายพยนต์ พันธุ์ศรี เลขาธิการสำนักงาน คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) และกองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ (สศก.) โดยขอให้ส่งเจ้าหน้าท ี่ฝ่ายตรวจสอบทรัพย์สิน เข้ามาตรวจสอบ บัญชีเงินฝากธนาคาร ของนายไชยบูลย์ ที่พบการโอนเงินในบัญชีให้คนสนิทถึง 1,145,696,610 บาทและเป็นแค่ 1 ใน 10 บัญชีของนายไชยบูลย์เท่านั้น เนื่องจากพนักงานสอบสวน ไม่มีความชำนาญในเรื่องนี้ และป.ป.ส.แนะนำว่า กรณีดังกล่าวอาจใช้อำนาจ ตามกฎหมายฟอกเงิน ที่จะบังคับใช ้ในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบ
นอกจากการโอนเงินไปให้คนสนิทแล้ว นั้นพนักงานสอบสวน ยังพบการโอนเงิน นายไชยบูลย์ถ่ายเท ไปให้สีกาคนหนึ่ง ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ด้วย สำหรับการตรวจสอบ บัญชีเงินฝากเพิ่มเติม ที่ธนาคารบางแห่งส่งมาไม่ครบ พนักงานสอบสวน ได้ส่งทีมงานไปตรวจค้น หลักฐานทางการเงิน ในสาขาตามจังหวัดต่าง ๆ เช่นที่สระบุรี และจังหวัดใกล้เคียง
ส่วนความคืบหน้าในการสอบพยานคดีวัดพระธรรมกายนั้น นางศิวาลัย ธนภัทร ขอเลื่อนนัดการให้ปากคำโดยไม่มีกำหนด และ นางถวิล วัติรางกูล อุบาสิกา คนสำคัญก็เป็นมะเร็งขั้นที่ 4 พนักงานสอบสวนจึงขอไปสอบปากคำที่บ้านพัก กรมที่ดินยังติดต่อมา ยังพนักงานสอบสวน ให้ไปรับเอกสารเกี่ยวกับที่ดินและโฉนดเพิ่มเติม โดยพ.ต.ท.ศุภพล อรุณสิทธิ์ รองผกก.3ป. เป็นผู้เดินทางไป รับเอกสารหลังจากนั้นเดินทางไปสอบนางถวิลต่อไป
ขณะเดียวกันคณะกรรมาธิการการศาสนา ออกแถลงการณ์กรณีวัดพระธรรมกายจัดทำแผ่นปลิวบิดเบือนความจริงในกรณีร่าง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฉบับใหม่ และร่าง พ.ร.บ.บัญญัติอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา โดยการยกร่าง พ.ร.บ. ทั้ง 2 ฉบับ ไม่ใช่เพราะกรณีธรรมกาย แต่ได้ทำมานานตั้งแต่เดือนธันวาคม 2540 แล้วก่อนเกิดปัญหาอีก เนื่องจากกฎหมายเดิม ใช้มานานและไม่สามารถ แก้ไขปัญหาในวงการสงฆ์หลาย ๆ กรณีได้อาทิกรณีสันติอโศก, กรณีอดีตพระยันตระ, กรณีนายนิกร ยศคำจู รวมไปถึง กฎหมายที่ออกมายังใช้ตั้งแต่ปี 2505 ในสมัยบรรยากาศเผด็จการ จึงทำให้กฎหมาย ออกมารวบอำนาจ ไปที่บุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลใดโดยเฉพาะ ทั้งที่พระธรรมวินัยให้อำนาจความเป็นใหญ่แก่คณะสงฆ์ทั้งหมด
นอกจากนั้น แผ่นปลิวของธรรมกายยังอ้างว่า การร่างกฎหมายใหม่เป็นการให้ฆราวาสปกครองพระก็ไม่จริง โดยได้มีการตัดตอนข้อ ความบางส่วนบางมาตรามาอ้างให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเอง ข้อเท็จจริงของร่างกฎหมายใหม่ก็คือ เป็นการจัดโครงสร้าง ตามรัฐธรรมนูญ ให้องค์กรรัฐรวมถึงฆราวาสทำหน้าที่ชาวพุทธในการ อุปถัมภ์คุ้มครองพระศาสนา และอยู่บนพื้นฐาน ของพระพุทธเจ้าที่ให้พุทธบริษัททั้ง 4 เข้ามาร่วมอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนา กฎหมายทั้ง 2 ฉบับนี้คณะกรรมาธิการ ยังจะเปิดกว้างในการระดมความเห็น หลักสำคัญคือต้องอยู่บนพื้นฐานพระธรรมวินัย โดยจะมีการสัมมนาในวันศุกร์ที่ 30 ก.ค.นี้ รวมถึงจะทำสังฆพิจารณ์ และประชาพิจารณ์อีกหลายครั้ง ไม่ใช่รวบรัดเหมือนกับที่สาวกวัดพระธรรมกายอ้าง
แผ่นปลิวของวัดพระธรรมกายยังป้ายสีพระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตฺโต) ปราชญ์ศาสนาเมืองไทยด้วย โดยบิดเบือนว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังแผนการยกร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ เพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือยึดอำนาจการปกครองคณะสงฆ์ ซึ่งข้อเท็จจริงผู้ยกร่างกฎหมายนี้ คือนายประเทือง เครือหงส์ นักวิชาการกรรมาธิการฯ ที่มีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาพิจารณา เมื่อ ยกร่างแล้วก็นำไปถวาย พระธรรมปิฎกให้ช่วยเสนอความเห็น แต่พระธรรมปิฎกไม่เคยเสนอความเห็นเลย เพราะปัญหาสุขภาพ ที่อาพาธเรื้อรัง และมีภารกิจเร่งด่วนอื่น ๆ เฉพาะหน้าอีกมาก
ส่วนการกล่าวหามีผู้สนับสนุนพระธรรมปิฎกให้นำเงินมาจัดรายการโทรทัศน์ 20 นาที ทุกช่องทุกวัน เป็นเวลากว่า 2 ปี และจะใช้เงินถึง 438 ล้านบาทนั้น ก็เป็นการบิดเบือนโดยสิ้นเชิง เพราะกรรมาธิการฯขอเวลาสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 จัดรายการศาสนาและให้เวลา 05.30-06.30 น. ทุกวัน เป็นรายการพุทธศาสนา 5 วัน ที่เหลือเป็นศาสนาอิสลามและศาสนาคริสต์ โดยช่อง 9 ไม่ได้คิดค่ารายการ สำหรับรายการพุทธศาสนาวิทยากรส่วนมากก็ไม่ใช่พระธรรมปิฎก ช่องอื่นก็มีรายการของ พระธรรมปิฎกบ้างเป็นครั้งราว แต่ละสถานีจะพิจารณาคัดเลือกกันเองตามความเหมาะสม กลุ่มผู้สนับสนุน พระธรรมปิฎกไม่เคยซื้อเวลาสถานีโทรทัศน์ใด ๆ เลย
การกล่าวหาพระธรรมปิฎกของวัดพระ ธรรมกายยังไม่หมดแค่นั้น โดยมีการระบุว่า พระธรรมปิฎกแฝงตัว เข้าสถาบันอุดมศึกษา คือมหาวิทยาลัยมหิดลโดยสร้างพระไตรปิฎกคอมพิวเตอร์ฉบับบิดเบือน เตรียมไว้ทำสังฆเภท คือให้สงฆ์แตกแยกนั้นก็เป็นการกล่าวเท็จอีก เพราะสำนักคอม พิวเตอร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นผู้นิมนต์ พระธรรมปิฎกเป็นที่ปรึกษาโครงการไม่ใช่เสนอตัวเอง และก็ให้คำปรึกษา ด้านวิชาการเกี่ยวกับการ สร้างระบบสืบค้นข้อมูลในคัมภีร์เพื่อให้ค้นหาได้สะดวกเชื่อมโยงได้ทั่วตลอด รวมถึงได้เสนอให้บรรจุ ข้อมูลพระไตรปิฎกบาลีฉบับสยามรัฐ และภาษาไทยฉบับหลวงของกรมการศาสนา ส่วนคัมภีร์อื่นๆก็ใช้ ตามมาตรฐาน ของมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้ง 2 แห่ง พระธรรมปิฎกไม่ได้แก้ไขข้อความใด ๆ แม้แต่แห่งเดียว เวลาพิมพ์ข้อมูล มหาวิทยาลัยมหิดลจะใช้คนพิมพ์ 2 คนพิมพ์ข้อความเดียวพร้อมๆกัน เพื่อตรวจสอบกันเองไม่ให้ผิดพลาดคลาดเคลื่อน จะได้รับความเชื่อถือ จากมหาวิทยาลัยทั่วโลกทั้งในยุโรปและอเมริกาที่สั่งซื้อเข้ามาเสมอ
ต่อมาเมื่อเวลา 17.45 น. พล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ ผบช.สง.ก.ตร. ในฐานะหัวหน้าชุดสอบสวน คดีการฟ้องร้องนายไชยบูลย์เปิดเผยถึงการที่ นางสงบ ปัญญาตรง สีกาคนสนิทของนายไชยบูลย์ ไม่เดินทางมาให้ปากคำ ตามนัดหมายพนักงานสอบสวนว่า นางสงบแจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่าป่วย แต่ไม่ยอมบอกว่า พักรักษาตัวอยู่ที่ไหนโรงพยาบาลอะไร ส่วน พ.ญ.ศิวาลัย ธนภัชร นั้นก็ไม่ได้มาตามนัดหมายเช่นกัน โดยแจ้งว่าติดภารกิจไม่ว่างมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ได้ส่งพนักงานสอบสวนไปสอบปากคำที่บ้านแล้ว เช่นเดียวกับกรณ ีของนางถวิลที่แจ้งว่าป่วยหนัก ก็ได้ส่งพนักงานสอบสวนไปสอบปากคำที่บ้านด้วย
พล.ต.ท.วาสนากล่าวว่า สำหรับไวยา วัจกรของวัดพระธรรมกายคือ พล.อ.ท.วีระวุทธ ลวเปารยะ นั้น ได้ติดต่อมาว่า จะเดินทางมาให้ปากคำในวันที่ 22 ก.ค.นี้ และขอให้ทางชุดสอบสวนส่งหนังสืออย่างเป็นทางการไปอีกครั้ง ส่วนกรณีของนายถาวร พรหมถาวร ช่างปั้นรูปเหมือนของนายไชยบูลย์ซึ่งได้เดินทางมาให้ปากคำไปแล้วครั้งหนึ่ง และมีการนัดหมายว่า จะมาให้ปากคำอีก ก็ไม่ได้ติดต่อพนักงานสอบสวนมา ทั้งที่มีการนัดหมายกันอย่างแน่นอนแล้ว แต่เท่าที่ให้ปากคำไปแล้วนั้น ก็ได้ข้อมูลที่ทราบว่า จะสอบปากคำบุคคลใดเพิ่มเติมอีก
"กรณีของพระภาวนาวิริยคุณนั้นได้ติดต่อพนักงานสอบสวนมาแล้วว่าจะมาให้ปากคำในวันที่ 22 ก.ค. นี้แน่นอน หากว่ายังบิดพลิ้ว ไม่มาให้ปากคำอีกก็จะมีวิธีดำเนินการ คิดว่าในเร็วๆนี้จะเข้าไปในวัดเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม เพราะคิดว่าในวัด น่าจะมีข้อมูลมากกว่านี้ แต่ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะเดินทางเข้าไปเมื่อใด และหากเดินทางเข้าไปแล้ว พบพระปลัดสุธรรม สุธัมโม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสฯและนายไชยบูลย์แล้วก็อาจจะมีการสอบปากคำทันที ที่ผ่านมานั้น ก็ยังไม่เคยได้ยินเสียง พระปลัดสุธรรมเลย อ้างป่วยบ้างติดภารกิจสงฆ์บ้าง"
หัวหน้าชุดสอบสวนกล่าวด้วยว่า จากที่ได้ไปศึกษาระบบบริหารในวัดโสธรฯนั้น เห็นว่าวัดนี้มีรายได ้เข้าวัดจำนวนมาก และกำลังก่อสร้างอุโบสถ ขนาดใหญ่มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งพบว่าวัดได้จัดการด้านการเงินอย่างเป็นระบบ แยกบัญชีการใช้จ่าย เป็นหลายร้อยบัญชี ทุกบัญชีเป็นบัญชีออมทรัพย์ไม่มีบัญชีกระแสรายวันเลย ซึ่งการเบิกจ่ายนั้น ไวยาวัจกรของวัดโสธรฯระบุว่าต้องมีคณะกรรมการ 3 คนคือ เจ้าอาวาส ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราและไวยาวัจกร
ต่อข้อถามที่ว่า มีการโอนเงินจำนวนกว่า 1,000 ล้านบาทให้แก่คนสนิทของนายไชยบูลย์นั้นจริงหรือไม่ พล.ต.ท.วาสนากล่าวว่า เรื่องนี้ ยังเป็นความลับอยู่ ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เกรงจะเสียรูปคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ หัวหน้าชุดสอบสวน ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน เดินทางไปที่วัดพระธรรมกาย เพื่อติดต่อกับ พระภาวนาวิริยคุณ รองเจ้าอาวาส วัดพระธรรมกาย เพื่อนัดหมายให้ปากคำ ซึ่งพระภาวนาวิริยคุณยืนยันว่า จะเดินทางมาให้ปากคำ ในวันที่ 22 ก.ค.นี้แน่นอน โดยคาดว่า จะใช้สถานที่ของตชด.ภาค 1 เป็นที่สอบปากคำเช่นเดิมด้วย.