ไชยบูลย์" ถือฤกษ์วันวิสาขบูชา ย่ำยีศาสนายับเยิน ประกาศคำสอนให้สาวกทุ่มเงินทำทานอ้างตามรอยพระพุทธเจ้า ที่เป็นต้นบุญŽไปอายตนนิพพาน "ทัตตชีโว" ตามขึ้นซ้ำปลุกใจทุ่มชีวิต เททรัพย์สินไม่ติดในสมบัติสร้างเจดีย์จานบิน "พระพยอม"ซัดพูดอย่างนี้เท่ากับหักหน้ามหาเถรฯ ทั้งที่เคยสั่งห้ามสอนผิดเพี้ยน จาบจ้วงพระไตรปิฎกเป็นอาจิณ งานนี้กะระดมคนนับแสน แต่มา 3หมื่น เป็นแกนนำกัลยาณมิตรที่เหลืออยู่กับพระ-เณรที่มารับเงิน เปิดแถลงข่าวโต้เดินดุ่ย ยันนิพพานเป็นอัตตา ไม่โอนที่ดินด้วยเหตุใช้ต้องต่อรองกลัวโดนฟ้องคดีอาญา เปิดอภิโปรเจคใหม่สร้างหลังคามหึมาคลุมที่ดินว่างเปล่าพันไร่ พร้อมสวนสมาธิที่ใหญ่สุดในโลกจุได้ถึง 3 แสนคน "อังคาร"แต่งกลอนเทียบไส้เดือน พระ 500 รูปถวายพระพรประมุขสงฆ์ พร้อมมอบรายชื่อชาวพุทธ 2 หมื่นคนสนับสนุนลายพระหัตถ์

การระดมพลของวัดพระธรรมกายเพื่อปกป้องนายไชยบูย์ สุทธิผล ที่สมเด็จพระสังฆราช ทรงมีลายพระหัตถ์ชี้ชัดแล้วเป็นพระปลอม ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในวันวิสาขบูชาที่ตั้งเป้าไว้ 1 แสนคน โดยนายไชยบูลย์ใช้โอกาสนี้ประกาศคำสอนที่ขัดแย้งกับพระธรรมวินัยอย่างโจ่งแจ้ง

เป้า1แสนมา3หมื่น

เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่วัดพระธรรมกาย ตั้งแต่ 06.30 น. บรรดาญาติโยมและพระภิกษุสามเณร ได้เริ่มทยอยกันเข้ามาภายในสภาธรรมกายสากล ขณะที่บริเวณประตูทางเข้าวัดได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฝ้าระวัง ร่วมกับ รปภ.ของวัดพระธรรมกาย คอยตรวจค้นรถยนต์ที่เดินทางเข้าออกวัดด้วยความเข้มงวด กรณีมีรถยนต์ที่น่าสงสัยทางตำรวจจะนำอุปกรณ์ตรวจหาวัตถุระเบิดมาช่วยค้นหา นอกจากนี้ยังมี ตชด. ตำรวจภาค 1 กองร้อยปราบฝูงชน นำกำลังกว่า 200 นาย มาคอยให้การสนับสนุน

ส่วนพิธีกรรมในช่วงเช้าเริ่มด้วยการตักบาตรบริเวณด้านหน้าสภาธรรมกายสากล โดยนายวิระศักดิ์ ฮาดดา ไวยาวัจกรวัดพระธรรมกาย เป็นผู้กล่าวนำอาราธนาศีล และถวายสังฆทานแก่พระภิกษุสามเณรจำนวน 5,000 รูป จากนั้นพระสงฆ์ให้พรและรับบิณฑบาตรจากญาติโยม

สำหรับบริเวณลานจอดรถภายในวัดนั้น ปรากฏว่าไม่คึกคักเหมือนเช่นทุกครั้งที่วัดพระธรรมกายจัดงานบุญใหญ่ มีรถบัสโดยสารจากต่างจังหวัดไม่ถึง 100 คัน และที่แตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านคือรถบัสที่ขนพระเณรและญาติธรรมมานี้ กลับไม่หนีหายไปจอดแอบนอกวัดอย่างที่เคยปฏิบัติ ขณะที่รถยนต์นั่งส่วนบุคคลจอดบริเวณลานจอดประมาณ 1,000 คัน โดยมีพระภิกษุสามเณรและบรรดาญาติธรรมชุมนุมกันที่สภาธรรมกายสากลประมาณ 30,000 คน โดยเป็นพระภิกษุสามเณรประมาณ 6,000 รูปที่มารับเงินตอบปัญหาธรรมะ จากที่ตั้งเป้าจะระดมมา 1 แสนคน คนที่มาวัดก็คือแกนนำของกลุ่มกัลยาณมิตรที่วัดมีอยู่ทั้งหมดทั่วประเทศ และไม่สามารถดึงเอาประชาชนมาได้เพิ่มถึงเป้าหมาย

นอกจากนี้ บริเวณวัดยังมีป้ายผ้าขนาดใหญ่ระบุว่า "พิธีทอดผ้าป่าสามัคคีและการมอบโล่รางวัลการตอบปัญหาธรรมะ ทางก้าวหน้าแก่พระภิกษุสามเณรทั่วประเทศ ครั้งที่ 1 "

สงบศึกสื่อมวลชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวัดพระธรรมกายยังอัญเชิญพระฉายาลักษณ์ของ สมเด็จพระสังฆราชขนาดใหญ่มาตั้งไว้ที่หน้าสภาธรรมกายสากล ขณะที่ด้านล่างของภาพมีข้อความว่า "พิธีทอดผ้าป่าเพื่อกองทุนปกป้องพระพุทธศาสนาและวิชชาธรรมกาย" บริเวณด้านหน้าของสภาธรรมกายสากล มีการตั้งโรงทานมากกว่า 50 เต็นท์ และมีจุดอำนวยความสะดวกต่างๆ อาทิ จุดต้อนรับสื่อมวลชน จุดรักษาความปลอดภัย จุดรักษาพยาบาล จุดนัดพบ

ขณะที่ด้านปีกซ้ายและขวาของสภาธรรมกายสากล กลุ่มผู้นำบุญทีมต่างๆได้ปักหลักบอกบุญรับบริจาค และยังเชิญชวนให้เข้าร่วมกิจกรรมของวัด ประกอบด้วยการบริจาคเงินตั้งกองทุนเพื่อปกป้องวิชชาธรรมกาย การทอดผ้าป่าเนื่องในวันวิสาขบูชา การจัดสร้างพระธรรมกายประจำตัว ซึ่งก็ยังมีคนความสนใจทำบุญกันเช่นเคย

การเข้าไปทำข่าวภายในวัดของสื่อมวลชนในวันวิสาขบูชานี้ ทางวัดพระธรรมกายได้สร้างความแปลกใจ เพราะมีการต้อนรับอย่างอบอุ่นเปิดโอกาสให้เดินได้โดยอิสระ ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าติดตาม รปภ.ของวัดจะแสดงความเคารพทุกครั้งที่รถของสื่อมวลชนผ่านเข้าออก หลงลืมความดุดันที่เคยแสดงมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แถมยังจัดห้องพักติดแอร์พร้อมอุปกรณ์สื่อสารไว้อำนวยความสะดวกแก่สื่อมวลชนที่เข้าไปทำข่าว

นายวิรศักดิ์ ฮาดดา หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิธรรมกาย กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้นับว่าประสบความสำเร็จ ขอยืนยันอีกครั้งว่าทางวัดจัดงานไปตามปกติ ไม่วัตถุประสงค์ที่จะแสดงพลังปกป้อง ที่มีข่าวว่าทางวัดนำรถบัสออกตระเวณไปเกณฑ์พระเณรและประชาชนมาร่วมงานก็ไม่จริง การจัดงานทุกปีทางวัดมีรถคอยอำนวยความสะดวกให้ผู้ที่จะเดินทางมาอยู่แล้ว

พล.ต.ท.สมชาย วาณิชเสนี ผู้ช่วยผบ.ตร. กล่าวว่าการจัดกำลังดูแลความสงบในวัด จะเน้นตำรวจนอกเครื่องแบบ แต่ได้มีการวางกำลังไว้ที่ตำรวจภาค 1 หากมีเหตุการณ์รุนแรงสามารถเข้ามาคลี่ชายได้ทันที และได้วางกำลังไว้ที่วัดสวนแก้ว รวมถึงวัดมูลจินดารามด้วย

แถลงข่าวโต้ทุกประเด็น

เมื่อเวลา 10.45 น. พระปลัดสุธรรม สุธัมโม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เลขานุการมูลนิธิธรรมกาย พระสมชาย ฐานวุฑโฒ ผู้อำนวยการฝ่ายเผยแพร่ และนายมานิต รัตนสุวรรณ ที่ปรึกษาวัดพระธรรมกาย ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่สำนักงานมูลนิธิธรรมกาย โดยนายมานิตกล่าวว่า 7 เดือนแล้วที่มีข่าววัดพระธรรมกาย ซึ่งทางวัดไม่เคยตอบโต้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะหนี สักวันหนึ่งผลแห่งกรรมดีจะพิสูจน์ออกมา และนับแต่นี้ไปทางวัดจะจัดให้มีการพบกับสื่อมวลชนเพื่อการเข้าใจกัน

พระปลัดสุธรรมกล่าวร่ายยาวตั้งแต่การเริ่มก่อตั้งวัดวัดพระธรรมกาย และยืนยันว่าการที่ทางวัดต้องก่อสร้างสิ่งก่อสร้างใหญ่โตล้วนเป็นความต้องการของญาติโยมทั้งสิ้น ขณะที่พระสมชายกล่าวว่า จำเป็นต้องมีการก่อสร้างไว้รองรับผู้ที่มาร่วมกิจกรรมของวัด ซึ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ และคงไปห้ามไม่ให้มาไม่ได้

ต่อข้อถามที่ว่าคำสอนของวัดในเรื่องนิพพานเป็นอัตตาเป็นการบิดเบือนหรือไม่ พระสมชายกล่าวตอบแบบเลี่ยงๆว่า ทางวัดยึดถือพระไตรปิฎกมาตลอด เรื่องนิพพานเป็นอัตตา หรืออนัตตาไม่อยากเปิดประเด็นให้ถกเถียงกันอีก และได้ยกเอาข้อความของนายสมภาร พรมทา ผ.ศูนย์ศาสนศึกษา จุฬาฯมาอ้างว่าในพระไตรปิฎกมีข้อความระบุว่านิพพานเป็นอนัตตาที่เดียว ที่เหลือเป็นคุมภีร์บริวาร และพระธรรมปิฎกก็ยอมรับว่าคัมภีร์บริวารเป็นของแต่งใหม่ พระเถระรุ่นหลังใส่เข้าไปขณะที่พระปลัดสุธรรมเสริมว่า ทางวัดยึดเอาแนวทางของพระพุทธเจ้าเป็นสำคัญ

ส่วนนายมานิตกล่าวว่า วัดยอมรับความคิดเห็นของมหาเถรฯในเรื่องนิพพาน จะต้องมีโรงเรียนสอนอภิญญา และวัดสอนชัดเจน อัตตาจะเป็นอย่างไรต้องปฏิบัติเอง กรณีที่ต้องถูกตรวจสอบทั้งที่ยืนยันว่าทางวัดทำทุกสิ่งถูกต้องนั้น อาจเป็นเพราะความไม่เข้าใจ และไม่ขอวิจารณ์กระบวนการสอบสวนเพราะจะเป็นการชี้นำ และทางวัดก็ไม่ได้มีมาตรการแก้ข้อกล่าวหาอะไรเป็นพิเศษ

สำหรับกรณีที่ดินทางกรมการศาสนาต้องมาตกลงกันก่อนเรื่องคดี เพราะทราบว่าหากโอนให้เป็นชื่อวัดเมื่อไหร่นายไชยบูลย์ก็จะถูกฟ้องดำเนินคดีทางกฎหมายอาญาทันที

นอกจากนั้นวัดจะเดินหน้าสร้างหลังคาคลุมที่ดินว่างเปล่าให้ถึง 1 พันไร่เป็นหลังคาเดี่ยว และสวนสมาธิที่ใหญ่สุดในโลกจุคนได้ถึง 3 แสนคน

ถามไชยบูลย์รู้ไหมจ๊ะ

ขณะเดียวกันญาติโยมที่มาวัดพระธรรมกายกล่าวว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่สนใจ และจะมาต่อไป เชื่อว่าจะไม่มีการถอดผ้าเหลืองจากร่างนายไชยบั้ลย์ แต่ปีนี้คนมาน้อยเพราะกระแสข่าวที่ออกมานาน

สำหรับพิธีกรรมช่วงบ่ายเริ่มเวลา 13.00 น. โดยจัดเก้าอี้ให้พระ-เรรที่มารับทุน และทอดผ้าป่ากองบุญปกป้องพระศาสนาและวิชชาธรรมกาย โดยวัดได้เชิญพระหลายรูปมาสัมภาษณ์ อาทิพระครูสุวรรณวชิรธรรม เจ้าอาวาสวัดสกุลปักษี ที่เคยเป็นแกนนำม็อบพระเณรสนับสนุนธรรมกาย โดยพระครูสุวรรณวชิรธรรมกล่าวว่าที่ต้องมาร่วมงาน เพราะนายไชยบูลย์ให้เงินพระเณร ขณะที่รัฐบาลไม่มีเงิน โดยนายไชยบูลย์รับปากให้เงินสามเณรรูปละ 3,000 บาท แลกกับการมาวัดพระธรรมกายในวันอาทิตย์ นอกจากพระครูรูปนี้แล้วยังมีพระกอ้งเกียรติ สุธีโร จากวัดท่าไร่ จ.สุราษฎร์ธานี,พระมหาชัยยา จากวัดโน้นติ้ว จ.ศรีสะเกษ,พระวิเศษวรธัมโม จากวัดศรีบุญเรือง จ.มุกดาหาร และสามเณรสัมฤทธิ์ บัวงาม จากวัดถ้ำพญานาค จ.เลย

ต่อมาเวลา 14.10 น. นายสอาด เมฆรุ้งนภา ตัวแทนกลุ่มชาวพุทธพร้อมคณะประมาณ 30 คน ได้เดินทางด้วยรถมินิบัสมาที่หน้าวัดพระธรรมกายด้านติดถนนสายคลองหลวง เมื่อมาถึงก็ได้ชูป้ายผ้าขนาดใหญ่ 2 ผืน โดยป้ายดังกล่าวมีข้อความว่า "ในโลกนี้คนฉลาดหรือคนโง่มากกว่ากัน คนโง่มากกว่า ฉะนั้นคนฉลาดจึงไปหาพระพุทธเจ้า คนโง่จึงมาอยู่กับไชยบูลย์ วัดธรรมกาย" อีกผืนหนึ่งมีข้อความว่า "วันวิสาขบูชาเจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้เห็นอะไรจึงเป็นศาสดา ไชยบูลย์ สุทธิผลเห็นอะไรจึงเป็นศาสดาธรรมกลาย เมื่อวันใด วันไหน ตอบมาภายใน 3 วัน (ตอบไม่ได้แพ้นะจ๊ะ)" หลังชูป้ายอยู่ประมาณ 15 นาทีนายสอาดและคณะจึงได้เดินทางกลับโดยไม่มีการปะทะใดๆ เจ้าหน้าที่ของวัดพระธรรมกายได้แต่ยืนมองดูอยู่ภายในเขตวัดไม่มีใครออกมาตอบโต้ ท่ามกลางการสังเกตุการณ์ดูแลความสงบเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ตำรวจนับร้อย

สอนนิพพานอัตตาอีก

ส่วนความเคลื่อนไหวของนายไชยบูลย์นั้น เริ่มขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. นายไชยบูลย์ที่ยังห่มเหลืองเหมือนพระภิกษุได้ขึ้นกล่าวในสภาธรรมกายสากลว่า วันนี้เป็นวันแห่งชัยชนะ "ชิตังเม" ชนะแล้ว ชนะความโลภ โกรธ หลง พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ได้ด้วยพระองค์เอง ท่านรู้ว่าทานบารมีเป็นเบื้องต้นของการให้ทั้งปวง เหมือนการเดินทางไกลก็ต้องมีเสบียง พวกเราต้องสวนกระแสด้วยการสร้างทานบารมีคือการให้ มนุษย์เรามีความตระหนี่ ความประมาท และหวงแหนในทรัพย์ เสียดายทรัพย์ มันบังคับอยู่ในใจให้เอาทรัพย์ไปใช้ในทางอื่น ในทางที่เพลิดเพลิน จึงทำให้ต้องเวียนว่ายตายเกิดกันอยู่ทุกวันนี้

เพราะฉะนั้นต้องสวนกระแสเอาสิ่งที่หวงแหนมาให้ เสียดายสิ่งใดก็ให้สิ่งนั้น ทำตามรอยเท้าของพระพุทธองค์ ท่านคือต้นแบบต้นบุญ ท่านทำอย่างไรเราก็ต้องทำอย่างนั้น เดินตามรอยเท้าท่านต้องถึงพระอายตนนิพพานสักวัน ขอให้อย่าว่าเลย เพราะตนต้องการไปพระนิพพานอย่างเดียว การบวชก็เพราะต้องการทำพระนิพพานให้แจ้ง เลยต้องมากล่าวถึงพระนิพพานกันบ่อยครั้งตลอดเวลาที่ผ่านมา

ต่อมาเวลา 11.00 น. พระเผด็จ ทัตตชีโว ได้กล่าวต่อว่า ขอให้ทุกคนสร้างนิสัยที่ดี ซึ่งนิสัยที่ดีคือการทุ่มชีวิตสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ การให้ทาน รักษาศีล สร้างวินัย ไม่ติดกับครอบครัวกับโลก แก้ไขตัวเอง สร้างความทรหดอดทน ตรงไปตรงมา ตั้งใจทำให้สำเร็จ เมตตาบารมี รักความยุติธรรม ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ได้สร้างกันง่าย หม้อน้ำที่คว่ำย่อมคายน้ำจนหมดฉันใด พระพุทธเจ้าท่านให้ทานขึ้นม้าขี่ไปอย่างไม่เหลียวหลัง ทิ้งสมบัติที่มีทั้งหมด พระองค์ท่านมองทั้งโลกเหมือนคุก บ้านไม่ว่าเล็กว่าใหญ่เหมือนกรงขัง ท่านจึงออกบวช ไม่ติดในสมบัติบ้านช่อง

สำหรับวันนี้วัดได้ประกาศยอดบริจาคในกองทุนปกป้องวิชชาธรรมกายทั้งสิ้น 2.96 ล้านบาท และในวันที่ 8 ส.ค.นี้จะมีการชุมนุมพระเณรทั่วประเทศอีกครั้ง ในงานวันสมาธิโลก หักหน้ามส.ทำลายพระธะรรม

ทางด้านพระไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่ามหาวัน ให้สัมภาษณ์ว่าการสอนให้สาวกเร่งเอาทรัพย์สินนำเงินมาทำบุญ ที่วัดพระธรรมกาย เพื่อจะได้ไปอยู่ในอายตนนิพพาน ว่า เรื่องนี้ได้มีมติมหาเถรสมาคมให้ปฏิบัติ 4 ข้อชัดเจนอยู่แล้ว โดยเป็นการเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาตามข้อเสนอพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ที่กำหนดให้ทางวัดพระธรรมกายเลิกการสอนสั่งเรื่องนิพพานเป็นอัตตา ที่มีอายตนนิพพานเป็นที่อยู่

การที่นายไชยบูลย์ยังคงสอนอยู่นี้ เป็นที่ชัดเจนว่ามิใช่เป็นการดื้อดึง หากแต่เป็นความต้องการท้าทายอำนาจมหาเถรสมาคม และชัดเจนว่าวัดพระธรรมกายไม่เคยแสดงทางทีโอนอ่อนปฏิบัติตามมติมหาเถรฯ การสอนธรรมะยังคงจ้วงจาบพระไตรปิฎกเป็นอาจิณ สุดท้ายความเสื่อมเสียจะเกิดแก่วัดพระธรรมกาย ส่วนนายไชยบูลย์ยังคงลอยนวลต่อไป

ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือพระพรหมโมลีไม่เคยว่ากล่าวตักเตือนนายไชยบูลย์เลยด้วยซ้ำ ซึ่งอาจถูกมองได้ว่าปล่อยปละละเลย ไม่รับผิดชอบแม้แต่แนวทางแก้ไขที่ตัวเป็นผู้เสนอ เหมือนกับว่าสั่งการลงไปแล้วกลับปล่อยทิ้งไม่เอาใจใส่ดูแล ถึงจะอยู่ในช่วงเวลาของการดำเนินการตามกฏนิคหกรรมก็ตาม เจ้าคณะภาค 1 ในฐานะผู้ปกครองโดยตรงก็สามารถว่ากล่าวตักเตือนกันได้ แต่มักกลับไปกล่าวอ้างข้อกฏหมาย เพื่อให้ดำเนินการตามกฏระเบียบที่วางไว้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้พระพรหมโมลีต้องรับผิดชอบทั้งหมด

พระพิศาลธรรมพาที หรือพระพยอม กัลยาโณ ประธานมูลนิธิวัดสวนแก้วกล่าวว่าการที่ไชยบูลย์กล้าเทศน์คำว่าอายตนนิพพานอีก แสดงว่าไม่เชื่อฟังมติมหาเถรสมาคมที่พระพรหมโมลี เจ้าคณะภาคที่ 1 เคยเสนอแล้วว่าสอนผิดจากหลักศาสนาพุทธ เพราะนิพพานไม่ใช่ตัวตนและไม่ใช่สถานที่ และไม่ได้เรียกว่าอายตนนิพพานเหมือนกับที่ไชยบูลย์เข้าใจ ถือว่าแก้ไขไม่เอา ทันทุรัง

"อาคม"บอกธรรมกายปกติ

ด้านนายอาคม เอ่งฉ้วน รมช.ศึกษาฯ กล่าวว่า ได้ส่งคนไปดูที่วัดพระธรรมกาย ทราบว่าบรรดาลูกศิษย์ไม่มีเจตนาออกมาชุมนุมนอกวัด เป็นการไปปฏิบัติธรรมเหมือนที่ทำมาทุกปี และปีนี้มีการมอบรางวัลตอบปัญหาธรรมะ ไม่ใช่การระดมพล พระที่มาชุมนุมกันส่วนใหญ่ก็มาเป็นประจำอยู่แล้ว ไม่มีหน้าใหม่ๆ อย่างไรก็ตาม วันนี้เป็นวันวิสาขบูชาคาดว่าคงมีชาวพุทธออกมาแสดงความคิดเห็นกันมาก ตนได้ขอความร่วมมือไปยังวัดต่างๆทั่วประเทศไม่ให้ออกมาแสดงความคิดเห็น ส่วนกลุ่มที่ต่อต้านวัดพระธรรมกายนั้นตนเห็นว่าไม่ควรจะไปที่วัด

ผู้สื่อข่าวถามว่าห่วงเรื่องที่อาจจะมีความรุนแรงหรือไม่ เพราะล่าสุดมีคนกรีดเลือดแล้ว นายอาคมตอบว่า เป็นส่วนน้อย การกรีดเลือดเข้าใจว่าต้องการให้เป็นข่าว หากทำอะไรโดดเด่นก็เป็นเรื่องเป็นราว เรื่องทำนองนี้ตนขอขอบคุณสื่อที่ไม่ช่วยขยายวง หากไม่เกิดข่าวทำนองนี้ก็คงไม่มีใครทำอีก

นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี กล่าวที่สนามบินดอนเมืองก่อนเดินทางไปต่างประเทศ กรณีมีชาวพุทธหลายกลุ่มชุมนุมกันในวันวิสาขบูชาว่า ตนได้กำชับเป็นพิเศษให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการไม่ให้มีใครก่อเรื่อง คิดว่าคงไม่มีการเผชิญหน้า คงเป็นการทำบุญกันธรรมดา ส่วนกรณีที่มีการพกพาอาวุธเข้าไปในวัดสวนแก้วจะเป็นปัญหาก่อให้เกิดความรุนแรงหรือไม่นั้น อย่าไปเอากรณีบุคคลมาเป็นภาพรวมของศาสนา

ผู้สื่อข่าวถามว่าระหว่างที่ไม่อยู่เชื่อหรือไม่ว่ากรมการศานาจะดูแลปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นได้ นายชวนตอบว่า เชื่อว่าทำได้ แต่ต้องเป็นไปภายใต้อำนาจที่มี การแก้ปัญหาเกี่ยวกับพระไม่ใช่เรื่องที่ทำง่ายๆ ทำอะไรตึงเกินไปก็จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ หย่อนไปก็ถูกตำหนิระยะหลังผู้ที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนามีความวิตกเรื่องการแบ่งแยกมาก เมื่อวันสองวันที่ผ่านมาก็มีเจ้าคณะ 18 ภาค ร่วมทำหนังสือมาถึงให้ช่วยดูแลพุทธศาสนา แสดงออกชัดเจนว่าพระสงฆ์ทั่วประเทศห่วงใย ต้องการให้ทุกอย่างยุติภายใต้ครรลองที่ถูกต้อง ทั้งนี้โดยภาพรวมของพุทธศาสนาส่วนใหญ่ก็ดี ที่มีปัญหาเป็นเพียงส่วนน้อย

ต่อกรณีที่นายผ่อง เล่งอี้ อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ ประกาศตัวออกมาปกป้องวัดพระธรรมกายอย่างเต็มที่ นายชวนกล่าวว่า ทราบมานานแล้วว่านายผ่องเป็นลูกศิษย์วัดพระธรรกมาย ระหว่างที่ยังรับราชการอยู่ก็ให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดไปเข้าวัดเป็นประจำ แต่ก็ไม่ได้เป็นการชี้แนะไปในทางที่ผิด

พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการชุมนุมกันของชาวพุทธทั้งฝ่ายต่อต้านและสนับสนุนวัดพระธรรมกายในวันวิสาขบูชาว่า ได้สั่งการไปแล้วให้ระมัดระวังที่สุด ซึ่งไม่น่าห่วงเพราะเท่าที่ตรวจสอบไม่มีอะไรแปลกปลอม ไม่มีมือที่ 3 มาก่อกวน ส่วนพระที่ไปชุมนุมกันที่วัดพระธรรมกายนั้น ถ้ามาในเรื่องพระพุทธศาสนาก็ไม่มีปัญหา แต่ขออย่าให้มีเรื่องมีราว นอกจากนี้ พล.ต.สนั่นยังกล่าวถึงกรณีที่มีการพกปืนเข้าไปในวัดสวนแก้วว่า คนที่ไปทำอะไรพระนั้นบาป อย่างไรก็ตามเรื่องต่างๆเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้ส่งรายงานมาให้ตนดูตลอด

1มิ.ย.เข้าเฝ้าพระสังฆราชได้

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าในวันนี้สมเด็จพระสังฆราช ได้เสด็จจากพระตำหนักคอยท่าปราโมช คณะเหลืองรังสีมายังพระอุโบสถวัดบวรนิเวศโดยรถพระประเทียบ เพื่อฟังพระปาฎิโมกข์ เนื่องในวันวิสาขบูชา และยกเลิกำหนดการเป็นประธานพิธีเวียนเทียนท้องสนามหลวงในเวลา 19.00น. โดยให้สมเด็จพุฒาจารย์วัดสระเกศเป็นประธานแทน รวมถึงยกเลิกเป็นองค์ประธานในพิธีเวียนเทียนที่วัดบวรฯด้วย และให้พระราชรัตนมงคล พระเลขานุการเป็นประะทานแทน

นอกจากนั้น สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชได้ขยายเวลา ในการให้ประชาชนลงพระนามถวายพระพรสมเด็จพระสังฆราชได้ถึง 21.00 น. และในวันที่ 1 มิ.ย.นี้จะให้ประชาชนเข้าเฝ้าวถายสักการะสมเด็จพระสังฆราชได้ โดยมีการจัดเจ้าหน้าที่อารักขาตรวจตราอย่างเต็มที่

"อังคาร" เทียบกับไส้เดือน

ส่วนที่ท้องสนามหลวง คณะกรรมการศาสนาเพื่อการพัฒนาและองค์กรพุทธ 207 องค์กรจัดงาน"บุญพิธีพุทธบริษัทสันติบาต" โดยได้จัดเวลทีและมีการแสดงรวมถึงการอภิปราย โดยในเวลา 17.00น. นายอังคาร กัลยณพงศ์ ศิลปินแห่งชาติและกวีเอกของประเทศ ได้ขึ้นเวทีอ่านบทกลอน"เกียรติยศแห่งพระบวรพุทธศาสนา" โดยเนื้อหากล่าวถึงปัญหาธรรมกายมีเนื้อความว่า การที่สมเด็จพระสังฆราชทรงมีลายพระหัตถ์ถือว่าวิเศษแล้ว และน่าจะจบนานแล้ว รวมถึงได้โจมตีนายไชยบูลย์เรื่องเรื่องที่ดินที่แม้ไส้เดือนไชเข้าไปยังผืนปฐพีก็ไม่ต้องมีโฉนด แต่นายไชยบูลย์มีโฉนดปึกใหญ่เก่งกว่าไส้เดือน นอกจากนั้นยังวิจารณ์การสอนผิดเพี้ยน นิพพานเป็นอัตตา การอวดอุตริมนุสธรรม รวมไปถึงการทำสังฆเภท เป็นอนันตริยกรรม โดยเนื้อหากลอนตอนหนึ่งกล่าวว่า

"ล่วงวินัยปาราชิกอลัชชีชั่ว มั่วอกตัญญูยอดสรรพศาสตร์ศิลป์ ลบหลู่เหยียบย่ำพระไตรปิฎกสิ้น แผ่นดินจะสูบถึงมหาอเวจี"

เวลา 17.00 น.ได้มีการอภิปราย"บทบาทชาวพุทธ กับความอยู่รอดของพระพุทธศาสนา"ผู้อภิปรายประกอบด้วยพระพยอม,แม่ชีสุภาพรรณ ณ บางช้าง จากสำนักปฏิบัติธรรมวิมุตติยาลัย จ.ลำพูน,นายสนิท ศรีอำแดง อาจารย์พิเศษมหาจุฬาฯราชวิทยาลัย และนางนิศา เชนะกุล ที่ปรึกษายุวพุทธิกสมาคมแห่งชาติ

เนื้อหาการอภิปรายคือขณะนี้เกิดปัญหาการลุ่มลวง ในตัวคนมากกว่าศษสนา ชาวพุทธต้องหันมาศึกษาพระธรรมวินัย การไปเห็นว่านิพพานมีความกว้างยาว มีพระอยู่ล้อมรอบเป็นสิ่งตรงกันข้ามกันคำสอนในศาสนา ถือเป็นการกระทบต่อแก่นของธรรมะ กรณีธรรมกายเป็นการใช้วัดเพื่อกอบโกยเงินให้ตนเองและบริวาร ทั้งที่พระพุทธเจ้ากำหนดให้พระมีสมบัติแค่อัฐบริขาร แต่กลับเห็นพระมีทีดิ่นับหมื่นไร่ หากปล่อยไว้นานจะเสียหาย โดยถึงแม้สมเด็จพระสังฆราช จะมีลายพระหัตถ์ชี้ผิดถูกแล้ว แต่ก็กล้า ๆ กลัว ๆ กัน การหลบลู่พระไตรปิฎกเหมือนกับการตัดยอดเจดีย์หรือการตัดเศียรพระพุทธรูป

ถวาย2หมื่นรายชื่อชาวพุทธ

การร่วมชุมนุมวันนี้ได้มีการแจกธงตราสัญญลักษณ์ธรรมจักรให้ประชาชนราว 1,000 คน และในเวลา 18.00 น.ประชาชนได้เดินทางไปวัดบวรนิเวศ จนต้องขอร้องให้เคลื่อนตัวไปจากวัดเพราะแออัด

ในเวลา 20.45 น.พระพยอม กัลยาโณ นำพระภิกษุ 500 รูปมาถวายพระพร นอกจากนั้น คณะพุทธศาสนิกชนชาวไทยนำรายชื่อคนไทย ที่ลงนามสนับสนุนลายพระหัตถ์ถวายสมเด็จพระสังฆราชด้วยจำนวน 21,450 รายชื่อ โดยทั้งหมดเห็นด้วยกับลายพระหัตถ์ที่ชี้ว่า นายไชยบูลย์บิดเบือนพระธรรม บ่อนทำลายศาสนา ทำสงฆ์ให้แตกแยกเป็นอนันตริยกรรม และต้องปาราชิกไปแล้ว เมื่อมีเดียรถีย์แอบแฝงเผยแพร่ลัทธิมิจฉาทิฏฐิ ประกอบมิจฉาชีพหลอกประชาชน จึงเป็นหน้าที่ชาวพุทธในการสนองพระบัญชาอันชอบธรรมขององค์ประมุขสงฆ์