page4

เดลินิวส์ 28/5/2542

เสธ.ลุยธรรมกายล่าอมนุษย์ทำใบปลิวจาบจ้วง 18 เจ้าฯมหานิกายขอรัฐบาลคุ้มครอง อ้างปกป้อง
ศาสนาปิดปากสื่อมวลชน

ประวัติศาสตร ์วงการสงฆ์ต้องจารึก"หลวงเตี่ย"เป็นแกนนำ 18 เจ้าคณะภาค มหานิกายยื่นหนังสือ ถึงนายกฯ ให้คุ้มครอง พระสังฆราช มหาเถรฯ รวมถึงป้องกันข่าวก้าวล่วง จาบจ้วง ระบุปล่อยไว ้ทำให้เกิด การแทรกแซง บ่อนทำลาย ศาสนา รัฐบาลส่งสัญญาณลุยเดียรถีย์ "สนั่น"ประชุมด่วนผบ.ตร. ก่อนรายงาน"ชวน" ตกเย็นตั้ง "ณรงค์วิช" คุมฉก.มือพระกาฬ4 หน่วยงาน สืบสวนวัดฉาวทุกประเด็น ให้เน้นหาข้อมูล ใบปลิว โจมตีสถาบัน -พระสังฆราช ต้องรายงานผลทุกวัน เลขาฯครม. ชี้ช่องกฎหมาย ถอดผ้าเหลือง ออกจากร่าง พระปลอม "ไชยบูลย์" เพียงศาลสงฆ์ชั้นต้น ชี้มีมูล พระสังฆราชมีบัญชาให้จัดการได้ทันที สมเด็จวัดปากน้ำฯ เปิดใจครั้งแรก เป็นห่วงธัมมชโย เหมือนพ่อกับลูกแต่ต้องยึดพระธรรมวินัยใช้ตัดสิน-ลงโทษ ส่งหญิงชรา ถือปืนเดินเข้า วัดสวนแก้ว เข้ารพ.โรคจิต ตั้งกรรมการตรวจความเพี้ยนก่อนสรุปผล

การดำเนินการ ถอดผ้าเหลืองออกจากร่างนายไชยบูลย์ สุทธิผล หรืออดีตพระธัมมชโย เจ้าอาวาส วัดพระธรรมกาย ที่ปาราชิก ขาดจากความเป็นพระไปแล้วตามพระวินิจฉัยของสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ที่มีลายพระหัตถ ์ออกมาถึง 5ฉบับ ขณะนี้รัฐบาลแสดงท่าทีต้องการให้ปัญหายุติโดยเร็ว โดยเฉพาะ การใช้กฎมหาเถรฯ สั่งสึกไปก่อน

ชี้ช่องคำฟ้องมีมูลสึกทันที

เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา นายวิษณุ เครืองาม เลขาธิการคณะรัฐมนตรี กล่าวถึงคำฟ้องของนายสมพร เทพสิทธา ประธาน ยุวพุทธิกสมาคมแห่งชาติว่า บัดนี้ทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการแล้ว อยากให้ทุกค นรอดูผลนอกจากน ี้ต้องช่วยกัน เร่งรัดให้กระบวนการน ี้ยุติลงโดยเร็ว เพราะต่อไปนี้ จะมีการแตกแขนง มากขึ้น มีช่องทางมากขึ้น หมายถึง จะมีช่องทางให ้ฝ่ายบ้านเมือง และคณะสงฆ์ เลือกดำเนินการได้ สำหรับ ทางเลือกตอนน ี้อาจจะให้สึกก่อน หรือหยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเจ้าอาวาส และหาคน มารักษาการณ์ เพราะก็ยัง สามารถสอบ ตามกระบวนการ นิคหกรรมได้เพื่อหาว่าปาราชิกหรือไม่

"หากถูกสอบ ในคดีนิคหกรรมได้ความว่าพอจะมีมูลเท่านั้น ทางด้านสงฆ์จะไปสอบต่อ สมเด็จพระสังฆราช ทรงสั่ง ให้สึกก่อนได้ เป็นการทำตาม กระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำตามพระธรรมวินัย และตามกฎมหาเถร สมาคมทุกประการ "

นายวิษณุกล่าวว่า ขณะนี้มีคำฟ้องรวม 2 ชุดคือของนายมาณพ พลไพรินทร์ ผู้เชี่ยวชาญ กรมการศาสนา และของนายสมพร ซึ่งขั้นตอนต่อไป พระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ต้องตรวจสอบรายละเอียดว่า มีหลักฐาน พอที่จะรับฟ้องหรือไม่ และเมื่อรับเรื่องแล้ว จะมีการตั้ง คณะกรรมการสงฆ์ 4 รูปตามพระธรรมวินัย ดำเนินการ สอบสวนต่อไป ประกอบด้วย เจ้าคณะภาค 1 รองเจ้าคณะภาค 1 เจ้าคณะจังหวัด และรอง เจ้าคณะจังหวัด การสอบสวนนั้นอาจจะมีอุทธรณ์ฎีกาได้ด้วยกว่าจะไปถึงขั้นปาราชิก เมื่อเรื่องดำเนินการ ในระดับหนึ่งแล้ว ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ ทุกคนควรพอใจ ต้องคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน ศีกดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ด้วย

18เจ้าคณะมหานิกายร้อง

นายวิษณ ุกล่าวอีกว่าได้มีหนังสือของเจ้าคณะทั้ง 18 ภาคของพระฝ่ายมหานิกายทั่วประเทศ นำโดย พระวิสุทธิวงศาจารย์ (พลอย ญาณสังวโร) เจ้าคณะภาค 14 ทำหนังสือ ถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้รัฐบาล ช่วยอารักขา พระศาสนา และคณะสงฆ์นั้น นายวิษณุกล่าวว่า อารักขา ของพระนั้น หมายถึงปกป้องคุ้มครอง ให้ความช่วยเหลือ ประสานงานดูแล โดยบอกว่า มีการจาบจ้วง สมเด็จพระสังฆราช และสมเด็จพระราชาคณะ กรรมการมหาเถรฯ มีการใช้ถ้อยคำ รุนแรง โดยเฉพาะสื่อมวลชน บางฉบับขอให้ช่วย ดูแลเรื่องนี้ด้วยนั้น เป็นสิ่งที่ นายกรัฐมนตร ีต้องรับฟัง เพราะเป็นหน้าท ี่ของรัฐบาล ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ดำเนินการ ให้อยู่แล้ว ในเรื่องการ ให้ความคุ้มครองปลอดภัย

"คงไม่ใช่ แต่เฉพาะสมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรฯเท่านั้น บุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น นายเสฐียรพงษ์ วรรณปก นายสมพร เทพสิทธา พระธรรมปิฎก พระพิศาลธรรมพาที นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง หรือแม้แต่ วัดพระธรรมกายเองก็ต้องดูแลความสงบเรียบร้อยให้ เพื่อให้มือที่ 3 เข้ามาสวมรอย ในแง่การข่าว ก็ต้องดูแล ไม่ให้มีการจาบจ้วง"

นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า ข่าวนั้นคงจะมีการเสนอกันต่อไปเงียบไม่ได้ แต่ขอให้อย่าใช้ศัพท์อะไรที่หวือหวานัก เพราะ จะกระทบกระเทือน พระพุทธศาสนาโดยรวม เมื่อครั้งคดีอดีตพระยันตระนั้นดีใจที่นายจรวย หนูคง อดีตรองอธิบดี กรมการศาสนาเข้ามาช่วยดูแลจัดการ ครั้งนี้ กรมการศาสนา จะต้องจัดหาคนมีฝีมือเข้ามาดูแล ส่วนการประชุม มหาเถรฯนั้นคิดว่ายังไม่จำเป็นหากมีความจำเป็นก็จะเข้าร่วมประชุมด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหนังสือที่เจ้าคณะภาคทั้ง 18 ภาคของฝ่ายมหานิกาย ทำถึงนายกรัฐมนตรีนั้น ได้ทำขึ้น ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม โดยพระธรรมราชานุวัตร(กมล โกวิโธ) หรือหลวงเตี่ย เจ้าคณะภาค 3 เป็นผู้นำ คนสำคัญ และมีการประชุมกันไป 2 ครั้ง

พระธรรมราชานุวัตร กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าขณะนี้เกิดความวุ่นวายอยากให้รัฐบาลดูแล และอยากให ้มีความปรองดองกัน ในหมู่ชาวพุทธ โดยเฉพาะ อยากให้เกิดความสงบในวันวิสาขบูชานี้

ให้รัฐจัดการดูแลสงฆ์

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า สาระสำคัญของหนังสือ ดังกล่าวได้บรรยายว่า จากกรณีมวลชนหลายกลุ่ม ขัดแย้ง ในทางความเห็น เกี่ยวกับพระสงฆ ์และพระศาสนา โดยได้มีการ ก้าวล่วง จาบจ้วงสมเด็จพระสังฆราช สลกมหาสังฆปริณายก และกรรมการมหาเถรฯ มีการจาบจ้วง คุกคาม ระหว่างการประชุม พิจารณา เรื่องการปกครองสงฆ์ รวมถึงมีข้อกลวหา ที่มีตอพระสงฆ์ในปกครอง ใช้คำหมิ่นประมาท ซึ่งผิดกฎหมาย พ.ร.บ.คณะสงฆ์ โดยชัดแจ้ง แต่ไม่ได้มีการดำเนินการกับผู้กระทำความผิด ทำให้เสียหาย ต่อความสามัคคี ของคนในชาติ เปิดโอกาส ให้ผู้ไม่หวังดี ต่อพระศาสนาถือโอกาสแทรกแซงเข้ามาบ่อนทำลาย จึงขอให้ นายยกรัฐมนตร ีสั่งการให้ติดตาม สถานการณ์ และแก้ปัญหา ที่เกิดขึ้นโดยด่วน โดยให้อารักขา สมเด็จพระสังฆราช กรรมการ มหาเถรฯ และคณะสงฆ์ ไม่ให้เกิดเหตุประทุษร้าย และละเมิด ต่อกฎหมายต่าง ๆ รวมถึงประชาสัมพันธ์ การดำเนินงาน ของมหาเถรฯ� คณะสงฆ์ กรมการศาสนา และหน่วยราชการ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปฏิบัติ คนละด้าน ไม่ใช่ขัดแย้งแตกแยก "

พระราชวิสุทธิโมลี เจ้าคณะภาค 17 กล่าวถึงการลงนามในหนังสือถึงนายกฯว่าสมเด็จพระสังฆราช มหาเถรฯ เหมือนกับรัฐบาล คณะสงฆ์ ไม่มีผู้บริหาร ก็อยู่ไม่ได้ จำเป็นต้องถวาย ความเคารพ ทุกคนรู้เกิดอะไรในแผ่นดิน จำเป็นต้อง คุ้มครองถวายความเคารพตามหลักการ เพื่อความสบายใจ ทุกฝ่าย การแก้ไขต้องปล่อยให้ องค์กรที่มีหน้าที่ คนนอกองค์กรอย่าไปวุ่นวาย ถ้าไม่เคารพกติกาก็วุ่นวาย และไม่ต้องแบ่งนิกาย ว่าเป็นอะไร เพราะมีพระพุทธเจ้า องค์เดียวกัน มีสมเด็จพระสังฆราชปกครองเหมือนกัน

ผู้สื่อข่าว รายงานด้วยว่า ในวันนี้ก ลุ่มสนับสนุนธรรมกาย ได้เดินทางมายื่นหนังสือ ถึงนายกรัฐมนตร ีให้ระงับข่าว เกี่ยวกับ วัดพระธรรมกายด้วย

สมเด็จวัดปากน้ำให้สัมภาษณ์

เมื่อเวลา 13.00 น. สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ในฐานะ กรรมการมหาเถรสมาคม ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย ์ให้ธัมมชโย ได้ให้สัมภาษณ์ เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เกิด กรณีปัญหา วัดพระธรรมกายว่า ไม่คิดว่า การฟ้องร้อง ตามกฎนิคหกรรม ที่มีขึ้นจะส่งผลกระทบมาถึงอาตมา ที่ผ่านมา ก็ไม่ค่อยได้พบกับเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย จะมีกิจนิมนต์ เดินทางไปที่วัด พระธรรมกาย ก็นานๆครั้ง อย่างเช่น คราวที่มีการฉลองพระเปรียญ ซึ่งเป็นกิจของสงฆ์ ตามปกติไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ

ส่วนที่มีข่าว พาดพิง ในทำนองที่ว่าไปรับสินบนจนมีความผูกพันเป็นพิเศษ ข่าวก็คือข่าว ที่มาพาดพิงถึง พระผู้ใหญ่ หลายรูปท่านเหล่าน ี้ล้วนเป็นพระเถระที่ต้องถือขันติ คงไม่คิด ตอบโต้สื่อมวลชน แต่อยากจะฝากว่า การลงข่าว ขอให้พิจารณา ใคร่ครวญกันสักหน่อย วันหนึ่งจะรู้ความจริงว่าไม่มีพระผู้ใหญ่รูปใดปกป้องคนผิดได้ เป็นพระ ปล่อยให้คนเขาว่า ดีกว่าจะไปว่าเขา เพราะถือว่า เป็นบาป

พระธรรมวินัยจะตัดสิน

ต่อข้อถาม ที่ว่าตลอด 6 เดือนที่ผ่านมาที่มีการกล่าวหาเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในฐานะท ี่เป็นพระอุปัชฌาย์ เชื่อในข้อกล่าวหา ทั้งหมด หรือไม่ สมเด็จ พระมหารัชมังคลาจารย์กล่าวว่า เป็นเรื่องพูดยาก เพราะข้อกล่าวหา ทั้งหมดนั้น ไม่ได้เป็นผู้ไปพบเห็นมากับตาตัวเอง แม้จะมีศักดิ์เป็น พระอุปัชฌาย์ก็คงไปปกป้องไม่ได้ แต่ก็ยอมรับว่า เป็นปุถุชนธรรมดา จะบอกว่าไม่ห่วงใยกันเลยคงไม่ได้ ถ้าคิดได้อย่างนั้น คงเป็น พระอรหันต์ไปแล้ว เหมือนพ่อแม่ที่มีลูก ถ้าลูกดีก็ดีไปด้วย แต่ถ้าลูกไม่ดี ก็เป็นธรรมดา ที่พ่อแม่ ต้องเกิดความ เสื่อมเสียตามมา

"ทุกสิ่งทุกอย่าง ต้องว่ากันไปตามพระธรรมวินัยและกฎหมายบ้านเมือง อาตมาคงจะไปปกป้องไม่ได้ กฎว่าอย่างไร วินัยว่า อย่างไร ก็ต้องเป็นไปตามนั้น ผิดว่าตามผิดถูก ว่าตามถูก แม้อาตมา จะเป็นกรรมการ มหาเถรสมาคมก็ตาม แต่ขณะนี้ การดำเนินการ ตามกฎนิคหกรรม เริ่มขึ้นในระดับชั้นต้นเท่านั้น มหาเถรสมาคม ถือว่าเป็นแค่ ศาลฎีกา สำหรับเรื่องนี้ ถึงเวลาที่เรื่องนี้ จะต้องเข้าสู่ มหาเถรสมาคมแล้ว ก็จะเท่ากับว่า อาตมาไม่ได้เป็น คนลงโทษ แต่ที่ลงโทษ ก็คือพระธรรมวินัย ที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติ"

พระราชปริยัติบดี เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กล่าวในฐานะรองเจ้าคณะภาคที่ 1ซึ่งเป็นศาลสงฆ์ ชั้นต้น ในการสอบสวน ตามกระบวนการนิคหกรรม กล่าวว่า อาตมา ไม่หนักใจ เพราะกฎหมายคือกฎหมาย ธรรมวินัย คือธรรมวินัย ต้องให้เวลา เจ้าคณะจังหวัด ในการพิจารณา สำนวนบ้าง

"เรื่องการติดสินบน ขอให้ญาติโยมอย่ากังวล เพราะเป็นข่าว เท่านั้น ให้เบาใจได้ว่า พระผู้ใหญ่ ทุกรูปท่าน รักพระศาสนา มากกว่าพวกเราเสียอีก เมื่อท่าน ต้องรับหน้าท ี่ตรงน ี้ต้องโปร่งใสแน่นอน ส่วนการไต่สวน มูลฟ้อง ขอให้ดูหลักฐาน อาตมาเองก็ได้รับทราบข้อกล่าวหาบ้างแล้ว ส่วนใหญ่ มาจากหนังสือพิมพ์ "

กรมศาสนาตั้งกรรมการอีก

นายพิภพ กาญจนะ อธิบดีกรมการศาสนา ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือร่วมกับรองอธิบดีกรมการศาสนา ผู้อำนวยการกอง และนักวิชาการ กรมการศาสนา เกี่ยวกับกรณี ปัญหาวัดพระธรรมกาย ว่า ที่ประชุม มีมติตั้ง คณะทำงาน ขึ้น 3 ชุดคือ 1.คณะทำงานติดตามข้อมูลข่าวสาร ม ีนายอุดม สุขสุวรรณ รองอธิบดีกรมการศาสนา เป็นประธาน ทำหน้าที่รับฟังข้อมูลข่าวสารการวิพากษ์วิจารณ์ พร้อมทั้งหาทางแก้ไข รับเรื่องราว ร้องทุกข์ ด้านศาสนา และวางแผนที่เป็นระบบ 2.คณะทำงานให้ข้อมูลข่าวสาร มีนายสุทธิวงศ์ ตันตยาพิศาลสุทธิ์ รองอธิบด ีกรมการศาสนา เป็นประธาน ทำหน้าที่ให้ความร ู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ทางด้านศาสนา ให้ข้อมูล ปัญหาที่เกิดขึ้น รวมถึงกฎนิคหกรรม อธิกรณ์ และพ.ร.บ.คณะสงฆ์ 3.คณะทำงาน ประสานงาน ด้านการศาสนา ในทุกเรื่อง มีตนเป็นประธาน นอกจากนี้ในวันที่ 29 พ.ค.จะมีการ ตั้งศูนย์ประสานงานขึ้น ที่คณะ 2 วัดมหาธาตุด้วย

ทั้งนี้ ที่ประชุม ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ที่เดินทางไปสังเกตุการณ์ที่วัดพระธรรมกายว่า พระภิกษุสามเณร กำลังเตรียมสถานที่ จัดงานวันวิสาขบูชา ซึ่งมีพระเณร จากต่างจังหวัด เดินทางมาช่วยงานไม่กี่รูป และมีบรรดา ญาติธรรม เดินทางมาเพียง 400-500 คน ซึ่งในวันที่ 28-29 พ.ค.จะเดินทางไปสังเกตุการณ์อีกครั้ง โดยในวันที่ 29 พ.ค. วันวิสาขบูชา จะส่งเจ้าหน้าที่ไปที่วัดพระธรรมกาย 6 คน และส่งไปท ี่สนามหลวง 10 คน

อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันปัญหา ระดมคนทางกรมการศาสนา ได้ทำหนังสือ ไปยังวัดต่างๆทั่วประเทศ ขอความร่วมมือ ให้ประกอบกิจกรรม ทางศาสนา ในวันวิสาขบูชาที่วัดของตนเอง และทำหนังสือ ไปยัง เจ้าคณะจังหวัด ทุกจังหวัดให้ทำความเข้าใจ กับวัดในปกครอง ให้ประกอบกิจกรรม เฉพาะในจังหวัดของตนเอง นอกจากนี้ ยังได้ขอให้ พระวินยาธิการ ในแต่ละจังหวัด ดูแลความสงบเรียบร้อย ของสงฆ ์และสังเกตุการ ปฏิบัต ิกิจกรรมเป็นพิเศษ

นายพิภพ กล่าวต่อไปว่า ตามที่มหาเถรสมาคมมีมติให้นำกรณีปัญหาวัดพระธรรมกายเข้าสู่ศาลสงฆ์ ดังนั้น ในระหว่างนี้ หากมีประเด็นอื่น เกี่ยวกับ ทางวัดอีก ก็ต้องไป ฟ้องร้องกันเอง อย่างไรก็ตาม หากมีการร้องเรียน มาท ี่กรมการศาสนา ทางกรม ก็จะนำไปให ้เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี แต่จะไม่บรรจุ เข้าสู่วาระ การประชุม มหาเถรฯอีก สำหรับกรณีที่ครม.มีมติ 4 ข้อเกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย ก็จะไม่มีการ บรรจุในวาระเช่นกัน แต่จะทำเป็น รายงานถวาย ให้กรรมการ มหาเถรฯรับทราบ ส่วนจะแสดง ความคิดเห็นอย่างไร เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ในส่วนของ การโอนที่ดิน นายพิพภกล่าวว่า ต้องรอให้ถึงวันที่ 1 มิ.ย.ก่อน ถ้าทางวัด ยังไม่ปฏิบัติตาม ข้อตกลง ก็ต้องจัดการ ขั้นเด็ดขาด ซึ่งในระหว่างน ี้กรมการศาสนา จะประชุมเพื่อเตรียมหามาตรการเอาไว้ก่อน

ส่วนนายปัญจะ เกสรทอง รมว.ศึกษาธิการ ได้ลงนาม ในคณะกรรมการ ศึกษาปัญหา และปรับปรุง การปกครอง คณะสงฆ์แล้ว โดยได้ตัดหน้าท ี่ในเรื่องการพิจารณา ปัญหาวัดพระธรรมกายออกไป รวมถึงได้มีการสอบถาม ความสมัครใจ ของคณะกรรมการด้วย เพราะจะมี บุคคลรวมถึง พระเถระ ร่วมด้วย อาทิพระธรรมปิฎก จะเป็นที่ปรึกษา

ส่งหญิงชราถือปืนเช็คสติ

เมื่อเวลา 10.00 น.พ.ต.อ.ลัทธสัญญา เพียรสมภาร ผกก.สภ.อ.บางใหญ่ ได้สั่งให้ ร.ต.อ.นพดล ทับเกตุ ร้อยเวร เจ้าของคดี กรณีนางสุภาพ เยือกเย็น อายุ 76 ปี หญิงชราที่นั่งแท๊กซี่มาลงที่วัดสวนแก้ว ในยามวิกาล และมีท่าทาง มีพิรุธ จนกระทั้ง ถูกตำรวจ ที่มารักษาความปลอดภัย ขอตรวจค้น และจับกุม เบื้องต้น พบอาวุธปืนขนาด .38 พร้อมกระสุนอีก 35 นัด หลังการจับกุม ตำรวจได้นำตัว นางสุภาพไปที่โรงพยาบาล นิติจิตเวช ถ.พุทธมณฑลสาย 4 โดยเบื้องต้น ทางแพทย์ได้รับตัวไว้ตรวจรักษาแล้ว แต่ยังระบุ อาการไม่ได้ ต้องตั้ง คณะกรรมการ ขึ้นมาวินิจฉัย อาการ

ในเวลาต่อมา พ.ต.อ.ลัทธสัญญา ได้ติดต่อไปยังบ้านของนางสุภาพที่ อ.สัตหีบ โดยมีนางอุษณี สินรักษา อายุ 38 ปี บุตรสาว เป็นผู้รับสา ทางตำรวจ จึงแจ้งให้ทราบว่านางสุภาพถูกจับในข้อหามีอาวุธปืนในครอบครองอยู่ที่ สภ.อ.บางใหญ่ นางอุษณี ได้เล่าว่ามารดา เคยมีอาการ ทางประสาท และเคย เข้ารับการรักษาตัว ที่โรงพยาบาลสิริกิติ์ แต่ทางโรงพยาบาล ได้แนะนำให้พาไปรักษาตัว กับโรงพยาบาล ในกรุงเทพฯ ด้วย ตัวเองก็เตรียม ที่จะนำมารดาไปรักษา แต่จู่ๆมารดา ได้หายตัวไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา จนมาถูกตำรวจ จับกุมตัวเสียแล้ว ทั้งนี้จะรีบเดินทางไปเยี่ยมมารดาที่โรงพยาบาลนิติจิตเวช ก่อนให้ปากคำ ตำรวจต่อไป

พ.ต.อ.ลัทธสัญญา ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า คืนวันเกิดเหตุนางสุภาพได้ว่าจ้างแท๊กซี่ให้มาส่งที่บ้านนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี แต่แท็กซี่ไปไม่ถูก นางสุภาพจึงให้ไปส่งที่บ้านของ นางปวีณา หงสกุล ส.ส.กรุงเทพฯ ก็ไปไม่ถูกอีก เช่นเคย สุดท้ายให้พาไปส่งที่วัดสวนแก้ว จนกระทั้ง ตำรวจพบพิรุธจึงได้จับกุมตัวไว้ โดยเบื้องต้น เข้าใจว่า นางสุภาพคงมีอาการทางประสาท แต่ก็ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อน

เข้มงวดวัดสวนแก้ว

พระพิศาลธรรมพาที (พระพยอม กัลยาโณ)ประธานมูลนิธิวัดสวนแก้ว ให้สัมภาษณ์ เหตุการณ ์เมื่อกลางดึก ของวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า อาตมาไม่ได ้ลงไปดูเลยว่ามีใครมาทำอะไร เพียงทราบ จากการรายงานข่าว และตอนเช้า ลูกศิษย์มาเล่าให้ฟัง ถึงได้ทราบว่า มีสีกา พกพาปืน พร้อมกระสุนปืน อีก 35 นัด เข้ามาภายใน วัดโดยแอบอย ู่ใกล้กุฏิ ที่ใช้จำวัดเป็นประจำ โดยโชเฟอร์ขับรถแท็กซี่ไปแจ้งให้ตำรวจทราบว่า ขณะที่สีกานั่ง โดยสารมา ในรถได้เหลือบเห็นผู้โดยสารมีอาวุธปืนในครอบครอง จึงได้มีการค้นหาตัว และตรวจค้น จนพบปืนดังกล่าว

"อาตมา ฟังได้ความเช่นนี้ก็รู้สึกเสียวเหมือนกัน ขนาดเตรียมลูกกระสุนปืนไว้ถึง 35 นัด ตอนนี้ ก็พากัน ลำบากกันไปหมด โดยเฉพาะ คนที่มีความเดือดร้อน จริงทางวัดสวนแก้วไม่อาจรับให้การช่วยเหลือได้ ใครที่โซวัดโซเซมา วัดสวนแก้วตอนนี้ เกรงว่า จะไม่ได้รับ การช่วยเหลือจากวัด ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร เดี๋ยวก็มี คนมาถามหา กุฏิ บ้างก็มาถ่ายรูปบริเวณวัด หรือไม่ ก็มาเดินไปเดินมา ปะปนกับญาติโยม ที่มาวัด บอกได้ว่า มันผิดปกติไปหมด"

สำหรับ กรณีของนายไชยบูลย์ จะดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้น ก็ได้แต่สงสารพระผู้ใหญ่ กรมการศาสนา และนักการเมือง เดือดร้อน กันไปถ้วนทั่ว หากจะมองให้ชัดแล้วก็ไม่รู้ว่าการดำเนินการในเรื่องนี้ ทำจริงจัง กันหรือเปล่า และไม่มีใคร รู้เลยว่าที่ล่าช้า ยืดยาดติดขัด ปัญหา อะไรกันแน่ เพราะปล่อยกัน นานเกินกว่า ที่จะแก้ไขได้ และยิ่งยืดเวลาออกไปมากเท่าใดปัญหาก็จะยิ่งยุ่งยากมากขึ้นเงาตามตัว เห็นได้ว่า มีการปลุกระดมกัน ตามโรงแรม ตัวนายไชยบูลย์ก็ยังตั้งมั่นปลุกระดมสาวกอยู่ในวัดตัวเอง

ในวันเดียวกันนี้ พระพยอมร่วมกับพระไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่ามหาวัน แถลงข่าว การจัดชุมนุม ชาวพุทธ ในวันที่ 29 พ.ค.นี้ ซึ่งตรงกับ วันวิสาขบูชา โดยใช้ชื่องาน "บุญพิธีพุทธบริษัทสันนิบาต"ว่า เป็นการจัดกิจกรรม ของเครือข่าย ชาวพุทธ 207 องค์กร ศูนย์เฉพาะกิจ กรณี ธัมมชโย และวัดสวนแก้ว เพื่อย้ำเตือนพุทธ ได้สำนึกถึง หน้าท ี่และร่วมกันประกาศ ปณิธานในอันที่จะร่วมกัน ปกป้องศาสนาพุทธ ให้คงความบริสุทธิ์ จากนั้นร่วมกัน เวียนเทียน ณ มณพลพิธีท้องสนามหลวง

เมื่อเสร็จ จากการเวียนเทียนแล้วจะได้ร่วมกันเดินเท้าไปยังวัดบวร เพื่อถวาย รายชื่อสนับสนุน ลายพระหัตถ ์และถวายพระพร สมเด็จพระสังฆราช ส่วนท ี่เกรงกันว่า ทางวัดพระธรรมกาย ก็มีการจัดกิจกรรม เพื่อ ระดมพล นับแสน จะเกิดการกระทบกระทั้งนั้น ขอให้สบายใจได้ การจัดกิจกรรม ที่ท้องสนามหลวงไม่ใช้ การระดมพล เพราะต้องการ คนร่วมงานสัก 400-500 คนก็พอ ไม่มีความจำเป็นต้องไประดมคนจำนวนมากๆ ซึ่งคนจำนวน 400-500 คน น่าที่จะควบคุมกันได้ แต่ถ้าใครจะมาร่วมก็ไม่ขัดข้อง แต่ต้องมาร่วมโดยบริสุทธิ์ใจ และเป็นคน ใฝ่ความสงบ อารักขา พระธรรมปิฎก พล.ต.ต.ยงยุทธ สิงหพันธ์ ผบก.จ.นครปฐม สั่งการให้พ.ต.อ.วิจิตร นันทวงศ์ ผกก.สภ.ต.โพธิ์แก้ว และให้จัดกำลัง เจ้าหน้าท ี่ดูแลอารักขา พระธรรมปิฎก(ป.อ.ปยุตโต) เจ้าอาวาส วัดญาณเวศกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง และให้ตรวจตรา บุคคลต้องสงสัย จัดการอย่างเด็ดขาด แม้ทำให้ญาติโยม ไม่สะดวก ก็จำเป็นต้องดำเนินการ ขณะที่พ.ต.อ.วิจิตรกล่าวว่า ข่าวเรื่องมือปืน รับจ้างทำร้ายคิดว่า คงไม่ทำจริง เป็นการ ข่มขู่ให้กลัว แต่ตำรวจไม่ประมาท โดยมีการสั่งการมาตั้งแต่นายกรัฐมนตรี ถึงผบ.ตร. ตามลำดับชั้น ให้ดูแล พระธรรมปิฎก จากการติตดามข่าวมีแนวโน้มค่อนข้างรุนแรงในหลายเรื่อง

ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวว่าเมื่อวันที่ 26 พ.ค. มีรายงานข่าวว่าจะมีผู้หญิงวัยกลางคน แต่งตัวด ีจะเข้ามา ก่อความวุ่นวาย ในวัดญาณเวศวกัน แต่ไม่มีเหตุการณ์พิเศษ อย่างไรก็ตาม มีคนเตือน ให้ระวัง การเดินทางไกล อาจมีการทำให้ เกิดอุบัติเหตุ

สนั่นถกด่วนรายงานชวน

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมน ตรีและรัฐมนตรี ว่าการกระทรวมหาดไทย,นายชำนิ ศักดิเศรษฐ ์และนายวัฒนา อัศวเหม 2 รัฐมนตรีช่วยฯ ได้เรียกพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.อนันต์ ภิรมย์แก้ว ผู้บัญาการ ตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรักษ์ ผู้บัญชาการ ตำรวจนครบาล หารือ เกี่ยวกับปัญหา วัดพระธรรมกาย โดยใช้เวลา นานกว่า 2 ชั่วโมง

ภายหลัง การหารือ พล.ต.สนั่นได้เข้ารายงานต่อนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี จากนั้นจึงเปิดเผยว่า ได้มีการหารือกัน ในเรื่องของการรักษาความสงบของวัดพระธรรมกาย โดยเฉพาะ ที่ปทุมธานี จะมีการเสริมกำลัง จากบชน.หรือ ตำรวจกองปราบฯเข้า ไปช่วย อย่างไรก็ตามยังเป็นห่วงว่าจะมีการเผชิญหน้ากันระหว่างคนไทย จึงอยาก ขอนมัสการ ว่าอะไรที่ไม่ถูกต้อง ก็ขอให้ยุติ

พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ได้รายงานเรื่องการอารักขาพระตามที่เจ้าคณะภาค 14 ยื่นหนังสือมา ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้แสดงความ เป็นห่วง ในเรื่องท ี่จะกระทบกระเทือน ความมั่นคง ของชาติ และไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงขึ้น ขณะนี้ ก็ได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดอะไรที่ออกนอกลู่นอกทางก็จะดำเนินการให้ดีที่สุด ตำรวจ จะดำเนินการ เต็มความสามารถ

"ขณะน ี้ผู้ใหญ่กำลังพยายามทำความเข้าใจกับคณะสงฆ์ทั้ง 2 ฝ่ายว่าอะไรควรอะไรไม่ควร เราจะดู ในส่วน ที่เรารับผิดชอบ ทุกฝ่ายต้องอยู่ในกรอบ อย่างไรก็ดี จะมีการถวายการอารักขา สมเด็จพระสังฆราช ในวันวิสาขบูชา อย่างเต็มกำลัง โดยมีทั้งตำรวจภูธรภาค 1 สอบสวนกลางและตำรวจนครบาลด้วย"

พล.ต.อ.พรศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ รองผบ.ตร.กล่าวว่ามอบหมายให้พล.ต.ท.สมชาย วานิชเสนีย์ ผช.ผบ.ตร. รับหน้าท ี่ดูแล ความสงบเรียบร้อยในวันเสาร์นี้ และจะนัดประชุม ที่สำนักงาน ตำรวจภูธรภาค 1 ในวันที่ 28 พ.ค.เวลา 9.00 น.เพื่อประเมินข่าวและจัดเตรียมกำลังพล ดูว่าฝ่ายไหนจัดกำลังมาบ้าง และเตรียมกำลัง ควบคุม สถานกาณ์ รักษาความปลอดภัย ส่วนการจ้างวางมือปืน สายข่าวของตำรวจไม่มีการรายงานเข้ามา

ตั้งฉก.ลุยธรรมกายแล้ว

ต่อมา เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 27 พ.ค. พล.ต.อ.ประชา ,พล.ต.อ.ณรงค์วิช ไทยทอง รอง ผบ.ตร. ได้เรียก พล.ต.ต.โยธิน มัธยมนันทน์ รอง ผบช.ส. พล.ต.ต.บุญสม เจริญศิลป์ ผบก.ส.1 พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี ผกก.สส.น.2 พ.ต.อ.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผกก.3 ป. และนายตำรวจจากสำนักงานตำรวจสันติบาล กองปราบปราม กองบัญชาการ ตำรวจนครบาล และกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 มาประชุม เกี่ยวกับ กรณีวัดพระธรรมกาย

ภายหลังการประชุม พล.ต.อ.ประชาเปิดเผยว่าได้หารือเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายในทุก ๆ ด้านถึงข้อมูล และการข่าวด้านต่าง ๆ และได้มีคำสั่ง แต่งตั้ง ชุดเฉพาะกิจ สืบสวนสอบสวน กรณีวัดพระธรรมกาย โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.ณรงค์วิชเป็นผู้อำนวยการชุดเฉพาะกิจ พร้อมกับ มีการวางแผน รักษาความปลอดภัย ให้กับประชาชน ที่จะมาร่วมชุมนุมกันในวันวิสาขบูชา

ด้านพล.ต.อ.ณรงค์วิชกล่าวว่า ชุดเฉพาะกิจจะมีหน้าที่สืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับกรณีวัดพระธรรมกายทั้งหมด โดยเฉพาะ เรื่องใบปลิวที่ออกมาโจมตีซึ่งกันและกัน ซึ่งที่จริง ก็อยู่ใน ความรับผิดชอบ ของตำรวจสันติบาล อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเรื่องนี้ มีความสำคัญ จึงเห็นควรที่จะให ้หลายหน่วยงาน ร่วมกันสืบสวน สอบสวน หาแหล่งที่มา ของใบปลิว เพื่อนำไปสู่ การจับกุมผู้กระทำความผิดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้พิมพ์ ผู้สนับสนุน ซึ่งผบ.ตร.ได้กำชับให ้รายงานผลให้ทราบทุกวัน

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้มีคำสั่งถึง พล.ต.ต.พจนารถ เศวตาสัย ผบก.ภ.พระนครศรีอยุธยา ให้มีคำสั่งด่วนไปถึงสถานีตำรวจภูธรทุกอำเภอ จัดชุดสืบสวน ลงพื้นที่เนื่องจากสืบทราบว่าได้มีการส่งใบปลิวที่มีข้อความโจมตีเบื้องสูง และเชิญชวนประชาชนให้มาร่วมกิจกรรมวัดพระธรรมกาย ซึ่งหากพบ ใบปลิวดังกล่าว ให้รายงานและทำลายทิ้งทันที ทั้งนี้ในเบื้องต้นสืบทราบว่าใบปลิวดังกล่าวถูกส่งไปตามวัดต่างๆทางไปรษณีย์ โดยส่วนหนึ่งส่งจากสำนักงานไปรษณีย์โรจนะ ต.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ทั้งนี้ใบปลิวดังกล่าวมีทั้งหมด 3 ฉบับ นอกจากนั้นยังมีใบปลิวโจมตีลายพระหัตถ์สมเด็จพระสังฆราชด้วย

ร้องจัดการพระสุพรรณฯ

ด้านกองปราบปราม เมื่อเวลา 13.50 น.วันเดียวกัน นายสอาด เมฆรุ่งนภา อายุ 40 ปีชาว จ.ชุมพร เข้าพบกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ผกก. 1 ป.เพื่อขอให ้ตรวจสอบพฤติกรรม ของพระครูธรรมธร ( วันชัย ถาวโร ) ที่มาร้องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ ให้ตรวจสอบลายพระหัตถ์ของสมเด็จพระสังฆราช เนื่องจากเกรงว่า จะเป็นการรับจ้าง ออกมาเคลื่อนไหว ในกรณีวัดธรรมกาย ทั้งนี้นายสอาด ระบุว่าที่ผ่านมาคุ้นเคยกับพระครูธรรมธร เป็นอย่างดี ตั้งแต่สมัยบวชเป็นพระใหม่ๆ ที่วัดเขาสารพัดดี จ.ชัยนาท ต่อมา พระครูธรรมธร มีเรื่อง จนกระทั่งย้ายมาอยู่ที่วัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ แล้วไปอยู่กลุ่มเดียวกับอดีตพระชื่อดังที่อาบัติปราชิกไปแล้ว นอกจากนี้ พระรูปดังกล่าว ยังเคยถูกข้อหา หลายข้อ ต่อมาเข้าไปมีบทบาทในวงการสงฆ์อีกหลายเรื่อง

ด้าน พ.ต.อ.ทวี ชี้แจงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เป็นเรื่องในวงการสงฆ์ แต่จะขอเก็บเป็นข้อมูลไว้ ส่วนเรื่องการร้องทุกข์ของพระครูธรรมธร กรณีลายพระหัตถ์นั้น ได้ทำหนังสือชี้แจงให้ไปแล้ว ส่วนการจะมีการร้องฟ้องพระครูธรรมธร นั้น ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งความกับกองปราบแต่อย่างใด

พล.ต.ท.สุวรรณ สุวรรณเวโช ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ได้มีหนังสือส่งถึงบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ฉบับต่างๆ เพื่อขอความร่วมมือเกี่ยวกับการเสนอข่าวกรณีวัดพระธรรมกาย โดยระบุ การทางสำนักงานตำรวจสันติบาลตระหนักดีว่าการเสนอข่าวของสื่อมวลชนเป็นการนำเสนอข้อเท็จจริง และเป็นไปตามสิทธิอันพึงมีตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม การเสนอข่าวในระดับที่เป็นอยู่ขณะนี้ได้เพิ่มปัญหาความขัดแย้งในคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชน ซึ่งอาจลุกลามจนเป็นปัญหากระทบต่อความมั่นคงของชาติได้ ดังนั้น จึงขอความร่วมมือให้เสนอข่าวอย่างรอบคอบและไตร่ตรอง เพื่อความเป็นหนึ่งเดียวในพุทธศาสนา

ยอมรับทุ่ม50ล้านดึงคน

ผู้สื่อข่าว รายงานจากวัดพระธรรมกายว่าเจ้าหน้าที่ของวัดได้มีการประชุมเตรียมการจัดงานวันวิสาขบูชา วันที่ 29 พ.ค. โดยทางวัดตั้งเป้าจะระดมคนมาร่วมงานให้ได้ 1 แสนคน แต่ปรากฏว่าล่าสุดเพิ่งจะมีผู้เดินทางมาประมาณ 1,000 คนเท่านั้น ทั้งที่เจ้าหน้าที่ของวัดได้เตรียมปักกลดไว้ให้เป็นที่พักในเบื้องต้นถึง 4,000 คน ขณะที่ ในส่วนของพระเณร ที่ทางวัดตั้งเป้าว่าจะมาร่วมงาน และมารับโล่ชนะการประกวดตอบปัญหาธรรมะถึง 1 หมื่นรูป ก็เพิ่งจะมีมาประมาณ 100 รูปเท่านั้น

นายวิรศักดิ์ ฮาดดา หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิธรรมกาย กล่าวถึงกรณีที่มีข่าว่าทางวัดพระธรรมกายใช้จ่ายเงินถึง 50 ล้านบาทเพื่อระดมคนให้มาร่วมงาน 1 แสนคนว่า ผิดด้วยหรือ ที่มีคนศรัทธาวัดร่วมบริจาคเงินถึง 50 ล้านบาทเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายวันวิสาขบูชา

ส่วนเรื่องการ ประวิงเวลาโอนที่ดินของนายไชยบูลย์นั้น นายวิรศักดิ์กล่าวว่า เนื่องจากฝ่ายกฎหมาย ของวัด ได้หารือกันแล้ว เห็นว่า ไม่มีหลักประกันใด จากกรมการศาสนา ว่าจะไม่ดำเนินคด ีข้อหายักยอกทรัพย์หลังจากโอนที่ดินให้วัดแล้ว ดังนั้น จึงต้องเสียเวลาประสานกับผู้บริจาคให้ทำเอกสารแสดงเจตนาว่าบริจาคที่ดินให้กับตัวบุคคล ไม่ใช่ให้วัด

"การเสนอข่าว เกี่ยวกับวัดพระธรรมกายของสื่อมวลชนไทยตลอด 6 เดือนเศษที่ผ่านมา ได้ทำให้วัดเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนต่างประเทศ และในวันที่ 28 พ.ค.นี้สื่อมวลชน จากต่างประเทศ จำนวนมากจะเดินทางมาทำข่าวและพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่วัดพระธรรมกาย"

วันเดียวกัน ที่วัดมูลจินดาราม ได้มีการเตรียมการจัดงานประจำปีและงานฉลองสมณะศักดิ์ของพระสุเมธาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดมูลจินดาราม ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี โดยในวันงานวันที่ 28 พ.ค.นี้จะมีพระผู้ใหญ่ชั้นสมเด็จที่เป็นคณะกรรมการมหาเถรสมาคมหลายรูป พร้อมด้วยนายอาคม เอ่งฉ้วน รมช.ศึกษาฯ นายพิภพ กาญจนะ อธิบดีกรมการศาสนา มาร่วมงาน รวมทั้งจะมีการประชุมหาข้อสรุปเบื้องต้นกรณีการใช้กฎนิคหกรรมยื่นฟ้องนายไชยบูลย์ด้วย

เกณฑ์พระเณรนครพนม

ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ จังหวัดนครพนมรายงานว่า เมื่อเช้าวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีกัลยาณมิตรจากวัดพระธรรมกายจำนวน 2 คนนุ่งขาวห่มขาว เดินทางเข้า นมัสกา รพระราชปริยัติยาจารย์ เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ อ.เมือง นครพนม และเจ้าคณะจังหวัดนครพนมฝ่ายมหานิกาย เพื่อมอบหนังสือ นิมนต์พระภิกษุสามเณร ให้ไปร่วมธุดงค์ รวมใจตะวันกล้า ในวันวิสาขบูชาและพิธีมอบรางวัลพระเณรที่ชนะเลิศการตอบปัญหาธรรมะเมื่อวันเกิดของนายไชยบูลย์ ซึ่งทางวัดตอบรับที่จะส่งพระเณรเข้าร่วมในกิจกรรมนี้ 20 รูป ที่เคยไป ตอบปัญหาที่วัดพระธรรมกาย มีกำหนดออกเดินทางในวันที่ 28 พ.ค.เวลา 17.00 น. โดยรถบัสที่ทางวัดพระธรรมกายจัดหามา

พระราชปริยัติยาจารย์ กล่าวว่า เห็นด้วยกับแนวทางปฏิบัติของวัดพระธรรมกาย เนื่องจากสามารถดึงประ ชาชน ให้เข้ามาปฏิบัติธรรม ได้เป็นจำนวนมาก ทำให้ลดปัญหา ของสังคม ไปได้ระดับหนึ่ง และยังเห็นด้วยกับแนวทางการแก้ไขปัญหาวัดพระธรรมกายตามแนวทางของมหาเถรฯด้วย การเคลื่อนไหว และความขัดแย้ง เกิดจากขบวนการ ทำลายศรัทธา ของพุทธศาสนิกชนที่มีต่อวัดพระธรรมกาย

ขณะที่ พระราชสารโกศล เจ้าคณะจังหวัดนครพนม (ฝ่ายธรรมยุต) เปิดเผยว่า เห็นด้วยกับลายพระหัตถ์ของสมเด็จพระสังฆราชต่อกรณีปัญหาวัดพระธรรมกาย และไม่เห็นด้วย กับการดำเนินการ กิจกรรมของวัดพระธรรมกายโดยเฉพาะการสร้างถาวรวัตถุที่ใหญ่โตเกินความจำเป็น