พระผู้ใหญ่ พูดชัดถ้อยชัดคำ กางปีกป้อง "พระไชยบูลย์ ธัมมชโย" เต็มตัว วอนสมาคมศิษย์เก่ามหาจุฬา ลงกรณ์ราชวิทยาลัย หยุดเคลื่อนไหว ถอดถอนปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีกิตติมศักดิ์ ตามข้อเรียกร้อง คณาจารย์ มช. ออกปากเอง ขอโอกาสให้เจ้าอาวาสวัดฉาว กลับตัวก่อน ทั้งที่ไม่ปฏิบัติตามมติมหาเถรฯ ด้วยซ้ำ อาจารย์เชียงใหม่บ่นสลดใจ เอากฎหมายกับขั้นตอนมาช่วยเหลือปกปิดความผิด ระบุพฤษภาคม นี้ทุกอย่างต้องชัดเจน

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 12 เม.ย. ผู้สื่อ ข่าวรายงานว่า พ.อ.ทองขาว พ่วงรอดพันฑุ์ นายกสมาคม ศิษย์เก่ามหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พร้อมด้วยนายกมล ศรีนอก เลขาธิการสมาคมศิษย์เก่าฯ ได้เดินทาง มายังวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เพื่อยื่น จดหมายเปิดผนึกถึงพระสุเมธาธิบดี เจ้าอาวาสวัดฯ ในฐานะ นายกสภา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เพื่อให้พระสุเมธาธิบด ีได้นำเรื่องการถอดถอนใบปริญญาพุทธศาสตร ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ของพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (พระไชยบูลย์ ธัมมชโย) เจ้าอาวาส วัดพระธรรมกาย เข้าที่ประชุมสภามหาวิทยาลัย ตามหนังสือเรียกร้องของคณาจารย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

รายงานข่าว แจ้งว่า พ.อ.ทองขาวได้ราย งานกับพระสุเมธาธิบดีว่า หลังจาก ที่ได้รับหนังสือ จากทางคณาจารย ์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่แล้ว ทางสมาคมก็ได้มีการพิจารณาสาระสำคัญ เหตุผลและข้อมูลต่าง ๆ ที่ระบุไว้ในหนังสือ ซึ่งเห็นว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวนั้น เป็นเรื่องจริง โดยเฉพาะในเรื่องของการสอนธรรมะของเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายในระยะหลัง ทราบว่า ไม่ถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนา รวมทั้งแนวทางปฏิบัติและในเรื่องพระธรรมวินัยด้วย ทางสมาคมศิษย์เก่า จึงเห็นว่าควรจะยกเลิก ปริญญาบัตรนั้นเสีย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่ตัวแทน สมาคมศิษย์เก่ายื่นหนังสือนั้น พระสุเมธาธิบดีได้ถามว่า ได้ยื่นหนังสือน ี้ถึงใครหรือยัง อย่างเช่น นักวิชาการหรืออธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เนื่องจาก อยากให้เรื่องน ี้เป็นไปตามขั้นตอน อีกทั้งตำแหน่งนายกสภานั้นเป็นตำแหน่งพิเศษ ยังมีตำแหน่งผู้บริหารอีก จึงอยากขอปรึกษาหารือ เป็นการภายในว่า ถ้าจะมอง ในส่วนของความเมตตา พอจะมีหนทางให้โอกาสเขาได้หรือไม่ คือขอหยุดเคลื่อนไหว เรื่องการถอด ถอนไว้ก่อน ซึ่งนายกมลได้ถามว่าให้โอกาสเรื่อง ใด พระสุเมธาธิบดีก็บอกว่าเรื่องการถอดถอนปริญญาบัตร เนื่องจาก ตอนถวายนั้นหลายฝ่ายก็เห็นดีเห็นงามว่าควรจะให้ แต่มาตอนนี้จะมาถอดถอนเขา

ผู้สื่อข่าว รายงานด้วยว่า ได้มีความพยายามของสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ ที่จะสอบถามความคิดเห็นของพระสุเมธาธิบดี ต่อกรณีดังกล่าวนี้ ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ พระสุเมธาธิบดีบอกเพียงว่าไม่อยากเป็นข่าว อย่ามาบีบบังคับขืนใจกันเลย

สำหรับ สาระสำคัญของจดหมายเปิดผนึกดังกล่าวระบุว่า ตามที่ได้มีหนังสือร้องเรียนจากคณาจารย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้ถอดถอน ปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ของพระไชยบูลย์ ธัมมชโยที่มอบให้ไว้เมื่อ พ.ศ. 2539 นั้น ทางสมาคมศิษย์เก่า เห็นว่าการดำเนินการเผยแผ่คำสอนที่ว่า นิพพานเป็นอัตตานั้น ไม่เคยมีปรากฏในพระไตรปิฎก ฝ่ายเถรวาท จะมีเพียงนิพพาน เป็นอนัตตาเท่านั้น จึงถือว่าเป็นการบิด เบือนคำสอนและหลักการสูงสุดของพระพุทธศาสนา ถือว่า ทำให้พระธรรมวินัยวิปริต จาบจ้วงต่อพระธรรมวินัย โดยที่ไม่เคยมีพระสงฆ์หรือสำนักสงฆ์ใดเคยกระทำมาก่อน ทางสมาคม จึงขอให้มีการพิจารณาประกาศยกเลิกประกาศสดุดีเกียรติคุณของพระไชยบูลย์ ธัมมชโย เป็นพุทธ ศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ด้วย

ด้าน นายพรศิลป์ รัตน์ชูเดช อาจารย์ประจำคณะพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลง กรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ เปิดเผยถึง กรณีที่พระราชวรมุนี อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ได้สั่งการให้พระมหาบุญช่วย ผู้อำนวยการ วิทยาเขตเชียงใหม่ กลับไปศึกษาข้อมูล ในเรื่องที่มีการเรียกร้องให้ ถอดถอนปริญญาพุทธศาสตร ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ของพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (พระไชยบูลย์ ธัมมชโย) ว่า เรื่องนี้ทำให้การดำเนินการล่าช้าออกไป และอาจจะมีการ โยนกันไปโยนกันมา เพราะก่อนหน้านี้ก็ได้มีการหารือในที่ประชุมคณะกรรมการวิทยาเขตมาแล้ว พระผู้ใหญ่ ก็ให้ไปรวบรวมหลักฐานมาว่าจะถอด ถอนเรื่องอะไร นายพรศิลป์กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องถือเป็น เรื่องสำคัญเร่งด่วน ไม่ควรให้โอกาสคนชั่ว ทำอะไรได้อีก จึงตัดสินใจร่วมกับนายชัชวาลย์ ปุนปัน ดำเนินการเรื่องนี้ หากปล่อย ให้ล่วงเลย ไปถึงการนำเข้าที่ประชุมอีกครั้ง ก็ปลายเดือนเมษายนนี้ อย่างไรก็ตาม คิดว่าภายใน ต้นเดือนพ.ค. ทางมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย น่าจะมีความชัดเจนในเรื่องนี้

"ผมหมดหวัง คณะสงฆ์ ในอดีตการสังคายนาในอินเดียหรือศรีลังกา พระจะรู้สึกตัว ก่อนเป็นตัวตั้งตัวตี ในการแก้ไขปัญหา ของพุทธศาสนา แต่ปัจจุบันแปลกใจเหมือนกันว่าพออะไรเกิดขึ้นกับพระพุทธศาสนา พระผู้ใหญ่กลับช่วยกันปกป้องปกปิด ฆราวาสเสียอีก ที่ออกมาโวยวาย เป็นเรื่องน่าสลดใจจริง ๆ อ้างกฎหมายหรือขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อจะช่วยเหลือ คนผิดเอามาเป็นอุปสรรค ในการชำระความผิด ไม่รู้ว่าภัยมันมาจ่อ คอหอยแล้ว"

นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ นักวิชาการ เปิดเผยว่า คณะสงฆ์ไทยมองได้เลยว่าเมื่อได้รับสมณศักดิ์ก็เกิดอาการลังเล เกรงจะถูก ผลกระทบกระเทือน ต่อสมณศักดิ์ในอนาคต อย่างกรณีพระสุเมธาธิบดีกล่าวว่าควรให้ใช้หลักเมตตาและให้โอกาสแก่เจ้า อาวาสวัดพระธรรมกายนั้น ต้องยอมรับว่าการดำเนินการใด ๆ ก็ตามควรใช้หลักเมตตาแต่เป็น การใช้อย่างถูกหลัก คิดว่ากับคนชั่ว และดื้อดึงนั้นสมควรจะใช้หลักนี้หรือไม่ต้องแยกกันให้ออก

"ไม่อยากให้เป็นตัวอย่าง ในอนาคตว่ามีการยกย่องคนชั่ว ปล่อยปละละเลยให้คนชั่วลอย นวล หากเป็นเช่นนี้ อนาคตประเทศชาติ และทุก วงการก็จะมีคนชั่วอยู่เต็มไปหมด ในส่วนของคณะสงฆ์เองต้องคำนึงถึงจุดนี้ด้วย ไม่ควรเอาประโยชน ์เฉพาะส่วนตัว ต้องมองถึงคุณงามความสำคัญของร่มกาสาวพัสตร์ด้วย"

ในเย็นวันเดียวกัน ได้มีการประชุมมหาเถรสมาคมที่ตำหนักเพชร วัดบวรนิเวศน์ฯ ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนายสมชาย รัตนถาวร รองอธิบดีกรมการศาสนา เปิดเผยว่า ทางมหาเถรสมาคมไม่ได้มีการพิจารณาเรื่องวัดพระธรรมกายแต่อย่างใด เป็นการประชุม พิจารณาเรื่องอื่น ๆ ตามวาระเท่านั้น

อย่างไรก็ดี มีรายงานข่าวระบุว่า หลังการประชุมเสร็จสิ้นลง สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้า คณะใหญ่หนกลาง และเจ้าอาวาส วัดชนะสงคราม ได้เรียกนัดประชุมนอกรอบกับพระพรหมโมลี เจ้าอาวาสวัดยานนาวา
และเจ้าคณะภาค 1 พระสุเมธาธิบดี เจ้าอาวาส วัดมหาธาตุฯและนายกสภามหาวิทยาลัยมหา
จุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดยมีการปิดห้องประชุม
จากนั้น ก็ได้มีการสนทนาผ่านไมค์ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปแบบเคร่งเครียด โดย การประชุมครั้งนี้ใช้เวลานานกว่า 30 นาที ซึ่งการประชุมครั้งนี้ ไม่ได้มีการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด บอกเพียงว่า ไม่ได้มีการพูดคุย เรื่องวัดพระธรรมกายแต่อย่างใด