30 องค์กรพุทธ ชนแหลก แฉกรรมการมหาเถร 5รูปคลี่จีวรปกป้องวัดพระธรรมกายกลางที่ประชุม สั่งอธิบดีกรมศาสนา เก็บลิขิตสมเด็จพระสังฆราช บอกเป็นแค่คำปรารภ ไม่ใช่คำสั่งไม่ต้องเสนอ ให้ที่ประชุมพิจารณา ยืนยันเคลื่อนไหว ห้ประชุมพระเจ้าอาวาสทั่วประเทศ พิจารณาโทษ
ŽธัมมชโยŽถึงขั้นจับสึก เหมือนกรณีโพธิรักษ์

จากกรณี ที่วัดพระธรรมกายส่งสานุศิษย์ออกไปเรี่ยไรบุญ รวมถึงลงโฆษณาในหน้าหนังสือพิมพ์รายวัน หาเงินในโครงการ ดูดทรัพย์รุ่นใหม ่"กองบุญธรรมะคุ้มครองโลก" เป้าหมายจะระดมเงินทำบุญ 1 แสนกองทุน ๆ ละ 500 บาท รวมเป็นเงิน 50 ล้านบาท เพื่อมาแจกพระเณรแสนรู ปเนื่องจากโอกาสวันเกิด 55 ปีของพระราชภาวนาวิสุทธิ์(ไชยบูลย์ ธัมมชโย) ในวันที่ 22 เม.ย.นี้ และถือว่าเป็นการแหกกฎมหาเถรฯสมาคมเรื่องการเรี่ยไรอย่างชัดเจน และไม่เห็นพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 อยู่ในสายตา เพราะพระพหรมโมล ีเพิ่งเสนอแนวทางการ ดูแลวัดพระธรรมกาย ต่อมหาเถรฯ และได้รับ ความเห็นชอบ ไปแล้ว 4 ข้อ คือ ให้เรียน พระอภิธรรม,ให้เรียนวิปัสสนา,ให้สำรวม ระมัดระวัง พระธรรมวินัย และปฏิบัติตามกฎ คำสั่ง มหาเถรสมาคม แต่ในเวลาไม่ถึงเดือนกลับละเมิดคำสั่งมหาเถรฯโดยไม่แยแสสนใจใครนั้น

เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมานายอาคม เอ่งฉ้วน รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่าวัดควรจะระมัดระวังเรื่องนี้ เพราะมติมหาเถรฯ ระบุชัด ไม่ให้ออกมาเรี่ยไรนอกวัด หรือเชิญชวนคนมาวัดไม่ว่าจะอ้างเหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้น หากทำอีกถือว่าขัดมติมหาเถรฯ แสดงให้เห็นว่า วัดพยายามจะกลับเขัาสู่รูปแบบเดิมอีก ซึ่งไม่ถูกต้อง การทำบุญต้องปล่อยตามธรรมชาติและความศรัทธา เท่าที่ติดตามข่ว ก็เห็นว่ามีคนไปบริจาคทำบุญกับวัดพระธรรมกายลดลงมาก ผมจะหาโอกาส ไปกราบนมัสการ พระพรหมโมลีเพื่อหารือเรื่องน ี้อีกครั้ง"

นายอาคม กล่าวอีกว่าตนมอบให้นายสุทธิวงศ์ ตันตยาพิศาลสุทธิ์ รองอธิบดีกรมการศาสนา ไปดูแล การดำเนินงาน ของวัด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับรายงานว่า วัดจัดกิจกรรมทางศาสนา และพระไชยบูลย์ มาแสดงธรรมด้วย ส่วนใหญ ่เน้นสอนวิชาธรรมกาย เป็นการฝึกสมาธิเบื้องต้น ไม่ได้ก ล่าวถึงเรื่องนิพพานเป็นอัตตา

ส่วนการท ี่เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมามหาเถรฯมีมติให้วัดพระธรรมกายปฏิยบัติตามคำแนะนำของพระพรหมโมลีอีกครั้ง เข้าใจว่า เป็นการย้ำ ต้องทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะ เรื่องทีดิ่น ที่สมเด็จพระสังฆราช ทรงมีพระลิขิต ออกมาชัดเจน หากพระไชยบูลย์ รีบโอนที่ดินที่ถือครองออกไปก็คงยุติได้เร็ว ส่วนคำสอนก็ต้องปฏิบัติตามมติมหาเถรฯ

ที่รัฐสภา เวลา 10.00น. มีการประชุมคณะกรรมาธิการการศาสนาฯ โดยนายเด่นโต๊ะมีนา ส.ส.ปัตตานี พรรคความหวังใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ แถลง ภายหลังการประุมว่า กรรมาธิการ หารือกันแล้วมีมต ิจะหยุดดำเนินการ เกี่ยวกับปัญหาธรรมกายไว้ก่อน เพราะปฏิบัติหน้าที่ครบถ้วนแล้ว ต่อไปเป็นหน้าที่มหาเถรฯ รัฐบาล และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อ กรรมาธิการจะทำหน้าที่เพียงเฝ้าระวัง ติดตามสิ่งที่ได้เสนอไว้

เรายุติเท่านี้ก่อน เพราะเขามองเราเล่นไม่เลิก และยังมีญัตติสำคัญ ๆ ที่ยังไม่ได้หยิบมาพิจารณา นอกจากนั้น อย่านำประเด็น ที่ผมเป็นมุสลิมมาโจมตี เพราะจะทำให้เกิดความแตกแยกระหว่างศาสสนา ในวันน ี้ยังได้เชิญ รองอธิการบด ีมหาวิทยาลัยรามคำแหง มาชี้แจง ใบปลิวโจมตีกรรมาธิการ ที่เป็นมุสลิม และกลับมาสอบสวน ปัญหาธรรมกาย โดยใบปลิวนี้อ้างว่ามาจากพรรคสัจจธรรม ซึ่งได้รับคำตอบว่าพรรคสัจจธรรมไม่ได้ทำ "

ส่วน นายอำนวย สุวรรณคีรี ประธาน ที่ปรึกษากรรมาธิการ กล่าวว่าการติดตามมติมหาเถรฯ ที่มีต่อวัดพระธรรมกาย น่าจะเป็นเรื่องของรัฐบาลมากกว่า เพราะมหาเถรฯไม่มีเครื่องมือในการติดตาม รัฐบาลควรต้องเข้าไปดูแล อีกทั้ง 30 องค์กรพุทธ ก็เหมือนกับกรรมการ จะเข้าไปติดตามพฤติกรรมของวัดโดยพฤตินัยแล้ว เรื่องนี้ชาวพุทธต้องช่วยกัน อย่าไปเร่งรัดเกินเหตุ

นายสมพร เทพสิทธา ประธานสภายุวพุทธกะแห่งชาติและอุปนายกพุทธสมาคมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าหลังจาก 30 องค์กรพุทธ ยื่นหนังสือถวายสมเด็จพระสังฆราช ขอให้ตัดสินปัญหาธรรมกายอย่างเด็ดขาดนั้น ทาง 30 องค์กรยืนยัน จะไม่หยุด ความเคลื่อนไหว และต้องการให้ยึดพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราชเป็นแนวทางในการตัดสิน โดยเฉพาะ ที่มีพระดำรัสว่า การบิดเบือนพระพุทธธรรมคำทรงสอน โดยกล่าวหาพระไตรปิฎบกพร่อง ทำให้สงฆ ์หลงเชื่อ บิดเบือนแตกแยก กลายเป็นสอง เป็นการทำลายพุทธศาสนา เป็นอนันตริยกรรม ต้องได้รับโทษ ทั้งปัจจุบัน และอนาคตที่หนัก โดยพระลิขิต นี้มหาเถรฯลงมติให้เจ้าพระพรหมโมลีไป วินิจฉัย เพื่อเสนอแนวทางแก้ไข ปัญหาธรรมกายอีกครั้ง

ในส่วนของเรา ฟ้องแล้ว ต้องทำการสอบสวนว่าเป็นการทำสังฆเภท และต้องจัดการ เฉียบขาดต้องประชุม พระสังฆาธิการทั่วประเทศ ให้จับเจ้าอาวาสสึก เป็นวิธีเดียวกับพระโพธิรักษ์ ส่วนการลงนิคหกรรม จะยืดเยื้อ ใช้เวลานานมาก เพราะต้องดำเนินการ ตามลำดับ ทำให้ประชาชนกินแหนงแคลงใจตัวพระสงฆ์ ทุกวันนี้ คนพูด เป็นเสียงเดียวกันว่า สงสัยทำไปมหาเถรฯไม่มีคำวินิจฉัยที่เด็ดขาดออกมา 

นายสมพรกล่าวอีกว่า เท่าที่ทราบในกรรมการมหาเถรฯ 19 รูปเป็นพระเถระของมหานิกาย 11 รูป และมีถึง 5 รูปที่สนิทกับ ธรรมกาย เป็นพิเศษ ส่วนอีก 6 รูปเป็นกลาง ส่วนพระเถรฯของธรรมยุติไม่อยากเกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นเรื่อง ของมหานิกาย ต้องจัดการกันเอง ทำให้การแก้ปัญหาธรรมกายลำบากมาตลอด อาทิเรื่อง พระลิขิตสมเด็จพระสังฆราช ที่ประทานตั้งแต่ 22 เม.ย. แต่พระผู้ใหญ่บางรูปบอกกับอธิบดีกรมการศาสนาว่าไม่ใช่พระดำรัส แต่เป็นพระปรารภ ไม่มีความสำคัญไม่จำเป็น ต้องนำไปเผยแพร่ พระเหล่านี้มีความเห็นผิดลำเอียง เห็นแก่ประโยชน์ ถึงช่วยกัน ไม่กล้าดำเนินการใด ๆ กับ วัดพระธรรมกาย เนื่องจากกลัวตัวเองจะโดนไปด้วย ต้องช่วยกันปกป้องอย่างเต็มที่

ส่วนกรณีที่พระนิสิตจะออกมาเคลื่อนไหวประท้วงมหาเถรฯ ทางที่ดีควรทำหนังสือถวายสมเด็จพระสังฆราชก่อนดีกว่า ถ้าไม่ไหวจริงๆ ค่อย ประท้วงก็ไม่สาย ต้องถือว่าทุกคนต้องช่วยกันศาสนาวิกฤตแล้ว และพระเถระควร พิจารณาให้ดีว่า รูปใดกำลังอุ้มมารอยู่