อาจารย์ วิชาพุทธศาสนศึกษา สถาปัตย์จุฬาฯยื่น 3 ข้อเสนอเกี่ยวกับ"วัดพระธรรมกาย" ให้มหาเถรฯ พิจารณา ประกอบพระลิขิต "สมเด็จพระสังฆราช" ในการประชุม 5 เม.ย.นี้ ชี้ต้องดำเนินการ ขั้นเด็ดขาด เพื่อทดแทน คุณพระพุทธศาสนา วิพากษ์แหลกคำแนะนำ 4 ประเด็นของ "พระพรหมโมลี" เลี่ยงบาลี ให้ประชาชนไขว้เขว มองมุมดีวัดฉาว ยืนยันกรณีเจ้าอาวาสกว้านซื้อที่ดินแค่โอนเปลี่ยนมาเป็นของ วัดไม่ยุติแน่ เพราะผิดพระวินัยเต็มตัว เหมือนโจรขโมยของ แค่เอามาคืนเจ้าทรัพย์แล้ว ตำรวจไม่เอาผิดไม่ได้ ด้าน "ธัมมชโย" ยังเดินหน้า สอนเพี้ยน ๆ เหมือนเดิม แถมยังส่งเสริม ให้สานุศิษย ์เชื่ออิทธิปาฏิหาริย์ มีรางวัลล่อใจคนที่เล่าเรื่องได้น่าเชื่อถือด้วย

จากกรณี ที่มหาเถรสมาคมได้พิจารณาคำแนะนำของพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 เกี่ยวกับพฤติกรรม และการปฏิบัติของวัดพระธรรมกาย 4 ประเด็น และมีมติให้พระพรหมโมล ีเร่งไปดำเนินการ ให้วัดพระธรรมกาย ดำเนินการแก้ไข ให้ถูกต้องตามหลักพุทธศาสนา กระทั่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของพุทธศาสนิกชนทั่วไป รวมไปถึงกรณ ีพระลิขิต ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหา สังฆปริณายก ที่เสนอแนะ ในเรื่องของ วัดพระธรรมกาย แต่มีการปิดเงียบเอาไว้จนสื่อมวลชนนำมาตีแผ่ และทางมหาเถรฯ จะนำมาพิจารณา ในวันที่ 5 เม.ย. นี้นั้น

นายไชยวัฒน์ กปิลกาญจน์ ผู้บรรยายธรรม ที่ธรรมสถานจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอาจารย์พิเศษ วิชาพุทธศาสนศึกษา คณะสถาปัตย กรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับคำแนะนำ ของพระพรหมโมลี ต่อกรณีพฤติกรรมวัดพระธรรมกายว่า คำแนะนำของพระพรหมโมลีทั้ง 4 ประเด็นนั้น ไม่มีคำพูดที่ระบุลงไปว่า ความประพฤติปฏิบัติในเรื่องต่าง ๆ ที่วัดถูกกล่าวหานั้นมีความถูกต้องหรือไม่ถูกต้องอย่างไร มีแต่คำพูดที่มีลักษณะปกป้องวัด โดยกล่าว แต่บางแง่บางมุม ที่คิดว่าคนทั้งหลาย จะมองเห็นความผิดพลาดของวัดได้ยาก

นอกจากนี้ ยังไม่มีการใช้พระธรรมวินัยเป็นบรรทัดฐานในการพิจารณาให้คำแนะนำ มีสำนวนคำพูด ที่คนทั้งหลาย มองได้ว่าพระพรหมโมลี ตั้งตนเป็นฝ่ายวัดพระธรรมกาย คอยแก้ต่างให้ ส่วนประการ ที่แนะนำให้วัด ปฏิบัตินั้น แสดงว่าประเมินความร ู้ด้านพระศาสนาของคนทั่วไปต่ำ เป็นคำแนะนำที่มองได้ว่ามีความเกรงอกเกรงใจทางวัด เลือกสรร แต่คำแนะนำ ที่เห็นว่าทางวัดจะยินดีทำตามคำแนะนำนั้นได้เท่านั้น ไม่กระทบกระเทือน การดำเนินกิจการ ของวัดพระธรรมกาย

นายไชยวัฒน์กล่าวว่า ตามคำแนะนำทั้ง 4 ข้อของพระพรหมโมลีนั้น ไม่มีการพูดถึงเรื่องกว้านซื้อที่ดิน ของพระราชภาวนาวิสุทธิ์ หรือพระไชยบูลย์ ธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ทั้งที่มีชื่อปรากฏอย่างชัดเจน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ผู้คนให้ความสนใจ แม้ว่ามีหลายคน มองว่าเรื่องนี้จะยุติลงได้ หากว่าเจ้าอาวาส ยอมโอนที่ดินเหล่านั้น ให้แก่วัด แต่ยังสงสัยว่าเรื่องนี้ยุติลงได้ง่าย ๆ จริงหรือไม่ เพราะหากพิจารณา ตามพระวินัยแล้ว ถือว่าเป็น ความผิด โดยเฉพาะ ในเรื่องการนำเงินบริจาค
ไปเพื่อใช้ประโยชน์ส่วนตนอย่างมีไถยเจตนา ซึ่งต้องมีการปรับอาบัติ ถึงขั้นต้องปาราชิก

"สมมุติว่า มีโจรคนหนึ่งลักขโมยของของคนอื่นเขามา แล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้พร้อมของกลาง ถามว่าเรื่องนี้ยุติลงได้โดยที่ตำรวจไม่เอาความผิดโจรผู้นั้นและยอมปล่อยไป เพียงแต่โจรนั้นยอม คืนของที่ขโมยมาทั้งหมด แก่เจ้าของเท่า นั้นหรือ ทั้งที่การขโมยนั้นเป็นการกระทำผิดกฎหมายอย่างชัดเจน ในทางพระศาสนา ก็เช่นเดียวกันลักษณะอย่างนี้ถือว่าผิดพระวินัย จะยุติไม่เอาโทษไม่ถือว่าเป็นอาบัติแค่นั้นคงไม่ได้"

นายไชยวัฒน์ ได้เสนอข้อเรียกร้องต่อมหาเถรฯ ด้วยว่า มหาเถรฯ ควรออกคำสั่งให้ทางวัดพระธรรมกาย หยุดเผยแพร่คำสอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิชชาธรรมกาย คำสอนในพุทธศาสนาจำนวน 84,000 ธรรมขันธ์นั้น ไม่ได้มีเรื่องวิชชาธรรมกายบัญญัติอยู่ เพราะหากยอมรับ ในเรื่องวิชชาธรรมกายนี้ ก็เท่ากับว่า คำสอนในพุทธศาสนา มีมากกว่า 84,000 ธรรมขันธ์อันจะเป็นเรื่องขัดแย้งกับคำพูดของพระอานนท์ ที่บรรยายไว้ ในการประชุมสังคายนา ครั้งที่ 1 ซึ่งระบุเรื่องนี้ไว้ชัดเจนว่า มีคำสอนเพียง 84,000 ธรรมขันธ์

นอกจากนี้ ควรสั่งให้วัดยุติการก่อสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ รวมถึงการระดมเงินบริจาคจำนวนมหาศาล เนื่องจาก เป็นที่เห็นพ้องกันว่า ไม่เหมาะสมกับภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศในปัจจุบันนี้ การก่อสร้าง ดังกล่าวนี้ ก็ไม่ได้ทำให้ประชาชน เข้าถึงพระศาสนาได้ พระพุทธเจ้า ไม่เคยตรัสว่าคนทั้งหลาย เข้าถึงศาสนาของพระองค์ได ้ด้วยการสร้างศาสนวัตถุเลย รวมทั้งควรจะ พิจารณาสอบสวน การกระทำ ของเจ้าอาวาส ในประเด็นที่สังคมโลกสนใจ ด้วยคือเรื่อง ของการกว้านซื้อที่ดิน เรื่องการอวดอุตริมนุสธรรม และเปิดโอกาสให ้เจ้าหน้าที่บ้านเมือง เข้าไปตรวจสอบ เรื่องการมรณภาพ ของพระสงฆ์ในวัดที่ยังมีเงื่อนงำน่าสงสัยด้วย

นายไชยวัฒน์กล่าวด้วยว่า ขณะนี้เกิดเหตุการณ์สั่นคลอนความมั่นคงของพระพุทธศาสนาแล้ว เพราะทั้งพุทธศาสนิกชน พระสงฆ์ ซึ่งเป็นผู้นำทางศาสนา ได้ออกมาเคลื่อนไหว และแสดงท่าที ต่อปัญหาวัดพระธรรมกาย อย่างกว้าง ขวาง ขณะที่พระผู้ใหญ่ในมหาเถรฯนั้นยังคงไม่แสดงท่าทีว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งเลย ทั้งที่พระพุทธศาสนานั้น ได้สร้างคุณแก่พระผู้ใหญ่เหล่านี้อย่างประมาณมิได้ จึงเป็นเรื่องท ี่น่าจะทดแทนบุญคุณเหล่านี้ ด้วยการดำเนินการแก้ไข สอบสวนและสั่งการวัดพระธรรมกายอย่างจริงจัง ไม่ควรเพิกเฉย ต่อไปแล้ว

สำหรับความเคลื่อนไหว ของวัดพระธรรมกาย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา ทางวัด ยังคงมีการจัดกิจกรรม มีการบอกบุญเรี่ยไร และมีการสอน ผู้ที่ไปปฏิบัติธรรม ตามรูปแบบเดิม โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่อย่างใด ทั้งนี้ พระไชยบูลย์กล่าวว่า ธรรมกายมีอยู่ในตัวทุกคน แต่บางคนไม่รู้ เชื่อว่าผู้ที่มากันวันนี้ มีไม่น้อยที่เข้าถึงธรรมกายแล้ว ส่วนที่ยังเข้าไม่ถึงก็ขอให้ปฏิบัติเหมือนที่เคยทำมา นอกจากนี้ พระไชยบูลย์ยังคงกล่าวถึงเรื่อง อายตนนิพพาน และพระพุทธเจ้านับพระองค์ไม่ถ้วนในอายตนนิพพานด้วย

"ในอายตนนิพพาน มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่นับพระองค์ไม่ถ้วน ที่ท่านดับขันธ์ปรินิพพาน นานมาแล้ว เป็นพระธรรมกาย ปรากฏอยู่นับพระองค์ไม่ถ้วน ขอให้พวกเราเตรียมการบูชาข้าวพระ พระพุทธเจ้า ในอายตนนิพพานกันนะจ๊ะ จะได้บุญเป็นมหากุศลอันยิ่งใหญ่ ธรรมกายเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ยากที่จะอธิบายให้กับผู้อื่นฟังได้ นอกจากพวกเราที่ปฏิบัติกันมาช้านานโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง" พระไชยบูลย์กล่าว ทางด้าน พระภาวนาวิริยะคุณ หรือพระเผด็จ ทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ได้กล่าวกับ ผู้ที่ไปปฏิบัติธรรม ในทำนองเดียวกับพระไชยบูลย์ โดยระบุว่า วิชชาธรรมกายมีอยู่ในพุทธกาลจริง โดยสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกพระองค์ในอดีตพุทธกาล อยู่ในดินแดนอายตนนิพพาน ที่หลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ เป็นผู้ค้นพบ และปฏิบัติเข้าถึง จึงได้ถ่ายทอดมายังลูกศิษย์

รายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงบ่าย พิธีกรของทางวัดพระธรรมกาย ได้จัดรายการให้ผู้ที่ไปปฏิบัติธรรม ขึ้นมาเล่าถึงเหตุการณ ์อิทธิปาฏิหาริย์ต่าง ๆ ของพระมหาสิริราชธาตุที่ได้ประสบ ให้ผู้เข้าปฏิบัติธรรมคนอื่น ๆ ฟัง อาทิ เรื่องรอดตาย เรื่องการหายป่วย และเรื่องร่ำรวยอย่างไม่น่าเชื่อ เป็นต้น โดยพิธีกร ประกาศว่า หากผู้ใดขึ้นมาเล่าแล้วเรื่อง ที่เล่าได้นำลงตีพิมพ์เผยแพร่ในหนังสืออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ จะมีรางวัลตอบแทน ให้ด้วย.