กล่อมปลดธัมมชโยเหลว 'สุเมธาภรณ์'สั่งงดชิตังเม

วันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2542


กล่อมปลดธัมมชโยเหลว 'สุเมธาภรณ์'สั่งงดชิตังเม

เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง ยังคงยืนกรานไม่ทบทวนการไม่สั่งพักตำแหน่งเจ้าอาวาสของพระธัมมชโย แม้จะถูกเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีตำหนิอย่างรุนแรง ในการเรียกมาชี้แจงเหตุผลเมื่อวานนี้ก็ตาม ทั้งยังถูกสั่งให้ไปตักเตือนวัดพระธรรมกาย เรื่องการจัดงานใหญ่โต และมีการจ้างคนมาร่วมงาน ขณะที่กรมการศาสนาเตรียมส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีความของพระธัมมชโยให้เจ้าคณะตำบลนำไปพิจารณาทบทวนคำวินิจฉัย

วานนี้ (13 ต.ค.) พระสุเมธาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดมูลจินดาราม ในฐานะเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ได้นัดหมายเจ้าคณะที่เกี่ยวข้องในจังหวัด โดยเฉพาะพระครูปทุมกิจโกศล เจ้าอาวาสวัดสว่างภพ ในฐานะเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง มาหารือเรื่องการสั่งพักตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ของพระราชภาวนาวิสุทธิ์ หรือพระธัมมชโย ตามกฎมหาเถรสมาคม (ม.ส.) ฉบับที่ 24 ข้อ 56 ตามที่กรมการศาสนาทำหนังสือมา

ก่อนหน้านี้ พระครูปทุมกิจโกศล ในฐานะเจ้าคณะผู้ใกล้ชิด ได้วินิจฉัยไม่สั่งพักตำแหน่งเจ้าอาวาสของพระธัมมชโย แม้จะตกเป็นจำเลยในคดีอาญาแล้ว ตามกฎ ม.ส.ดังกล่าว จนตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักอยู่ในขณะนี้

ทั้งนี้ การหารือเป็นไปอย่างเคร่งเครียด โดยพระครูปทุมกิจโกศล ยังคงยืนกรานที่จะไม่ทบทวนคำวินิจฉัย ด้วยการอ้างเหตุผลเดิม คือ หากพักตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย จะทำให้พระสงฆ์กว่าพันรูปของวัดเดือดร้อน อีกทั้งวัดแห่งนี้ก็สร้างประโยชน์ให้กับพระพุทธศาสนามาโดยตลอด

แต่ พระสุเมธาภรณ์ แย้งว่า ตามกฎ ม.ส.ระบุไว้ชัดเจนว่า ให้พักจากตำแหน่งต่อเมื่อเกิดความเสียหายกับตัวผู้ที่ตกเป็นจำเลยในคดีอาญา ไม่ใช่เกิดความเสียหายต่อวัด หรือบุคคลอื่น และเห็นว่าหากไม่มีการสั่งพักตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย จะทำให้เรื่องทั้งหมดที่ดำเนินการอยู่ เป็นไปอย่างอึมครึม อีกทั้งเมื่อสั่งพักตำแหน่งแล้ว ทางวัดก็คงหาคนมาทำงานแทนได้

"วัดพระธรรมกาย ก็ถูกโจษจันในเรื่องต่างๆ เยอะมาก โดยเฉพาะการจัดงานใหญ่ๆ โตๆ ซึ่งอาตมาได้ยินมาว่า มีการเกณฑ์คนมาร่วมงาน โดยให้ผลประโยชน์ตอบแทน ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าคณะตำบล ท่านเคยเข้าไปตรวจสอบบ้างหรือไม่ อยากให้ไปเตือนเขาด้วย ขอให้ยับยั้งเสียบ้าง หากเป็นแบบนี้พระธัมมชโยจะต้องถูกพัก เพราะลูกศิษย์หรือสมุนของท่านเอง" พระสุเมธาภรณ์ กล่าว

เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี กล่าวต่ออีกว่า เรื่องการปลดกับการสั่งพักจากตำแหน่ง เป็นคนละอย่างกัน การสั่งพักนั้น หากเรื่องราวที่ถูกกล่าวหากระจ่างขึ้น ก็สามารถกลับมาดำรงตำแหน่งอีกได้ และที่สำคัญ ถ้ามีการสั่งพักตำแหน่ง จะทำให้ชาวบ้านมีความรู้สึกที่ดีขึ้น

"ท่านเองก็รู้กฎอยู่ ไหนๆ ก็วินิจฉัยไปแล้ว เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน ยิ่งหากจะสั่งตอนนี้เลยก็ทำได้ เพราะพระธัมมชโยเองก็มีเรื่องมีราวเสียหายหลายอย่าง สิ่งที่เขาทำนั้น เห็นชัดๆ ว่า ไม่ใช่ระเบียบที่เคยปฏิบัติมาในพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะการเกณฑ์คนมาเฮฮาโบกธง มองดูแล้วมันน่าเกลียด และยังมีอีกหลายเรื่องหลายอย่างแอบแฝงอยู่ บอกตรงๆ ว่า ถ้าท่านสั่งพักแล้ว เรื่องทั้งหมดจะดีขึ้น" เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี กล่าวกับเจ้าคณะตำบลอย่างเคร่งเครียด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในที่ประชุมเริ่มตึงเครียดขึ้นไปอีก เมื่อพระสุเมธาภรณ์ พยายามพูดให้เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง สั่งพักตำแหน่งเจ้าอาวาสของพระธัมมชโยให้ได้ โดยมีเจ้าคณะอำเภอคลองหลวง และพระเลขาฯ ช่วยกันเกลี้ยกล่อม แต่ปรากฏว่าไม่เป็นผล พระครูปทุมกิจโกศล ยังยืนกรานเหมือนเดิม พระสุเมธาภรณ์ จึงขอให้กลับไปไตร่ตรองดูใหม่อีกครั้ง

วันเดียวกัน ที่กระทรวงศึกษาธิการ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.ศึกษาฯ กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมการศาสนาเร่งทำหนังสือถึงพระครูปทุมกิจโกศล เพื่อให้ทบทวนการวินิจฉัย เนื่องจากกรมการศาสนาและสังคมทั่วไป เห็นว่า เมื่อพระธัมมชโยต้องคดีอาญาฐานยักยอกทรัพย์และฉ้อโกงทรัพย์ ถือเป็นเรื่องการทุจริต ส่งผลเสียหายต่อคณะสงฆ์แล้ว ดั้งนั้น ต้องพักจากตำแหน่งเจ้าอาวาส

นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ต้องยอมรับว่า กฎ ม.ส.และกฎนิคหกรรม มีช่องว่างให้มีการช่วยเหลือปกป้องกันได้ ดังนั้น จึงเห็นควรที่จะให้มีการปรับปรุงกฎดังกล่าวเพื่อลบช่องว่าง โดยได้มอบหมายให้ นายวิชัย ตันศิริ รมช.ศึกษาฯ และอธิบดีกรมการศาสนา ไปพิจารณาเพื่อเสนอต่อที่ประชุม ม.ส.ต่อไป

ด้าน นายไพบูลย์ เสียงก้อง อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า ทางกรมจะรวบรวมข้อมูลที่เป็นความเห็นเพิ่มเติม รวมทั้งหลักฐานจากพนักงานสอบสวน เพื่อส่งให้พระครูปทุมกิจโกศลนำไปประกอบการพิจารณาทบทวนคำวินิจฉัยด้วย เพื่ออธิบายให้เห็นชัดเจนว่า พระธัมมชโยตกเป็นจำเลยในข้อหาร้ายแรงจริง หากให้อยู่ในตำแหน่งเจ้าอาวาสต่อไปจะเป็นการไม่สมควร

วันเดียวกัน ที่กองปราบปราม พล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ ในฐานะหัวหน้าชุดพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีทุจริตของพระธัมมชโย และบุคคลแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ว่า จากการที่พนักงานสอบสวนได้เดินทางไปตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติม ในจังหวัดต่างๆ นั้น ขณะนี้ได้รับข้อมูลคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะที่ จ.เพชรบูรณ์ ยังขาดเพียงหลักฐานเกี่ยวกับเอกสารทางการเงินบางส่วนเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดได้เร็วๆ นี้ และหลังจากนั้นคงสามารถสรุปสำนวนและแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้

รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันศุกร์นี้ พนักงานสอบสวนจะได้รับหลักฐานด้านการเงินที่เกี่ยวกับคดีจากธนาคารบางแห่ง ซึ่งถ้าได้หลักฐานในส่วนนี้มา คาดว่า การประชุมใหญ่ชุดพนักงานสืบสวนสอบสวนทั้งหมดในวันจันทร์ที่ 18 ต.ค.จะมีการพิจารณาขออนุมัติหมายจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในส่วนของการกว้านซื้อที่ดินที่ จ.เพชรบูรณ์


Krungthep Turakij Newspaper


Home | The Nation I จุดประกาย Ent I เนชั่นสุดสัปดาห์ I วิทยุเนชั่น
About Us I FAQ I Site Map I Cantact Us I Policy