อาณาจักร'หุบผาสวรรค์'คืนชีพ

-ตะลึงปางเจ้าแม่กวนอิมยืนบนจานบิน -พระพยอมร้องผู้ว่าฯเพชรบุรีชี้ภัยมั่นคงชาติ

หุบผาสวรรค์ 2 โผล่ที่เพชรบุรี เป็นอุทยานศาสนาโพธิสัตว์กวนอิม มีปางพิสดารยืนบนจานบินอวกาศ ภายในมีลานตำหนักมิตรต่างดาว พบคนมีชื่อเสียงในสังคมอุทิศตัวเป็นสาวก ด้านสมช.จับตาพฤติ กรรมเจ้าสำนัก ดร.สุชาติ โกศลกิติวงศ์หวั่นมอมเมาประชาชน เผยพระพยอมเคยทำหนังสือร้องเรียนไปที่ ผวจ.เพชรบุรี ให้ปิดอุทยานเกรงเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ

ผู้สื่อข่าวได้เอกสารของชมรมดำรงธรรม ซึ่งมีพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ในฐานที่ปรึกษาชมรม และ นายสุรวงศ์ วัฒนกูล นักพูดชื่อดัง ในฐานะประ ธานชมรมดำรงธรรม ได้ทำหนังสือยื่นไปยังนายชูชาติ พูลศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2541 เพื่อขอให้สำนักปู่สวรรค์ และอุทยานโพธิสัตว์กวนอิม เลิกดำเนินงาน

เอกสารดังกล่าวระบุว่า อาณาจักรหุบผาสวรรค์เมืองศาสนา มูลนิธิชินนะปูโตอนุสรณ์ และสมาคมศาสนาสัมพันธ์ เป็นเครือข่ายเดียวกับสำนักปู่สวรรค์ เคยทำตนเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติและบิดเบือนหลักธรรมคำสอนจนผิดเพี้ยน และยังลบหลู่สถาบันพระมหากษัตริย์ จนเป็นเหตุให้สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ มีคำสั่งที่ 520/2524 เพิกถอนใบอนุญาตจัดตั้งสมาคมศาสนาสัมพันธ์ และมีคำสั่งที่ 521/2524 เพิกถอนใบอนุญาตจัดตั้งมูลนิธิชินนะปูโตอนุสรณ์ และต่อมาก็ได้มีคำพิพากษา 3304/2532 ให้ยกเลิกมูลนิธิดังกล่าว และให้ทรัพย์สินทั้งหมดตกเป็นของแผ่นดิน และให้ยุติการดำเนินงานที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีในลักษณะนี้โดยเด็ดขาด

แต่ปรากฏว่าพวกผู้ใกล้ชิด นายสุชาติ โกศลกิติวงศ์ ได้ย้อนกลับมาตั้งอุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิมหรือหุบผาสวรรค์ 2 ขึ้นใหม่ อยู่ที่ 40 ม.2 ต.พุสวรรค์ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี บนเนื้อที่ 100 ไร่ โดยที่ดินดังกล่าวเป็นของเอกชน มีเอกสารสิทธิถูกต้อง เมื่อปี 2538 โดยมีชื่อ นายสมคิด สังขเนตร อายุ 47 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 384 หมู่ 13 แขวงมีนบุรี กรุงเทพฯ เป็นผู้ครอบครอง ซึ่งได้เข้ามาซื้อต่อจากชาวบ้านในราคาไร่ละประมาณ 20,000-70,000 บาท

นอกจากนี้ นายสุชาติยังได้บวชเป็นพระโดยไม่ยอมเปิดเผยว่าบวชที่วัดไหน และไม่มีที่อยู่ประจำเป็นหลักแหล่งแน่นอน จนกระทั่งนายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มีหนังสือที่ ศธ.0100(3)/342 ลงวันที่ 1 สิงหาคม 2539 กราบทูลต่อสมเด็จพระสังฆราชว่า พระสุชาติ โกศลกิติวงศ์ เขียนบทความเรื่องอาลัยสมเด็จย่า ลงใน นสพ.สาสน์สวรรค์ มีข้อความที่อวดอุตริมนุสธรรมต้องอาบัติปาราชิกขัดจากความเป็นพระภิกษุ แต่ก็ยังหลบซ่อนตัวเป็นนักบวชอยู่จนถึงปัจจุบัน

อย่างไรก็ดี นายสุรวงศ์ วัฒนกูล ประธานชมรมดำรงธรรม กล่าวว่า จากการติดตามพฤติกรรมของนายสุชาติ เจ้าสำนักหุบผาสวรรค์ 2 มาโดยตลอด พบว่าหลังจากสำนักที่ จ.ราชบุรี ถูกสั่งปิดเมื่อปี 2534 เป็นต้นมา นายสุชาติก็ได้เข้าไปบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นเกาะที่ถูกน้ำท่วมจากการสร้างเขื่อน โดยเรียกชื่อว่าเกาะโพธิสัตว์ แต่เนื่องจากอยู่อย่างผิดกฎหมาย บรรดาลูกศิษย์จึงหาพื้นที่แห่งใหม่ให้ เป็นที่ที่เอกสารสิทธิครอบครองโดยถูกต้องตามกฎหมายแล้วสร้างเป็นอุทยานศาสนาโพธิสัตว์กวนอิม หรือสำนักปู่สวรรค์แห่งที่ 2

" เท่าที่ตรวจสอบ สำนักแห่งนี้ไม่ได้มีการขออนุญาตจากหน่วยงานราชการ หรือที่เกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น ที่นี่มีการสร้างรูปพระแม่กวนอิมปางประหลาดต่างๆ โดยเฉพาะปางพันมือ โดยอ้างว่าเพื่อถวายในหลวง แต่เท่าที่ได้สอบถามไปยังสำนักราชเลขาที่วัดพระแก้ว ได้รับคำตอบว่า การสร้างถวายจะต้องมีตัวแทนพระองค์ไปรับมอบ โดยต้องมีการแจ้งเรื่องมายังสำนักพระราชวังอย่างถูกต้อง ปรากฏว่าไม่มีการกระทำดังกล่าว ทั้งยังตีพิมพ์เรื่องราวนี้ลงในสาสน์สวรรค์ ซึ่งเป็นหนังสือเผยแพร่เฉพาะกลุ่ม โดยอ้างเชื่อสถาบันระดับสูง มีการเรี่ยไรตลอด ผมมีใบเสร็จมีหลักฐาน" นายสุรวงศ์กล่าว

นายสุรวงศ์ยืนยันว่า การเรี่ยไรของหุบผาสวรรค์ถือเป็นการกระทำของสำนักเถื่อน และทางราชการก็ได้ติดตามมาตลอด พบว่าเป็นวิธีการเดิมๆ นอกจากนี้ยังมีการโปรโมทศาสนา ในรูปแบบใหม่ๆ ดึงเรื่องมนุษย์ต่างดาวเข้ามาครอบงำประชาชน ด้วยการออกหนังสือ 1999 โลกพินาศ 2542 แผนอยู่รอด โดยนายพิชัย โตวิวิชญ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งขณะนี้ได้ลาออกมาทำหน้าดูแลสำนัก และเขียนหนังสือดังกล่าวเผยแพร่ด้วย

"มีการชี้นำว่าต่อไปมนุษย์ต่างดาวจะบุกโลก ถ้าใครมาทำบุญที่นี่ โดยบูชาพระใบโพธิสัตว์เหรียญมงคลจักรวาล องค์ละ 10,000 บาท ก็จะรอดจากภัยพิบัติ ตรงนี้ผมว่า สมช.เขาก็คงรอความผิดสำเร็จรูปอยู่ แต่ที่เข้าไปจัดการปัญหาไม่ได้เพราะพื้นที่ของเขามีเอกสารสิทธิถูกต้อง แต่เรื่องนี้ก็ถือเป็นการมอมเมาประชาชนรูปแบบหนึ่ง เพราะเป็นการสอนหลักธรรมที่ไม่เคยปรากฏในพุทธศาสนา"ประธานชมรมดำรงธรรม กล่าว

ทางด้านพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวว่า หากเทียบพฤติกรรมของพระสุชาติ เจ้าสำนักในยุคนี้กับยุคก่อน จะพบว่าพฤติกรรมไม่หนักเหมือนกับเมื่อก่อน เพราะไม่สามารถหลอกลวงประชาชนได้แล้ว คงมีเพียงคนจำนวนน้อยเท่านั้นที่ยังคงงมงายและหลงเชื่อคำสอนในอิทธิปาฏิหาริย์ของสำนักนี้อยู่

"เท่าที่ทราบตอนนี้ พระสุชาติก็เก็บตัวเงียบ ไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวอะไร สำนักนี้เขาก็เน้นอย่างเดียว คืออิทธิปาฏิหาริย์ ถ้าประชาชนอยากโง่ไปเชื่อเขาเอง ก็ช่วยไม่ได้ การตั้งสำนักเถื่อนเพื่อหลอกลวงคน ปัจจุบันมีเกลื่อนเมือง ตรงนี้เป็นวิจารณญาณ แล้วแต่ว่าใครจะเชื่อจะคิดอย่างไร แม้ว่าเราจะมองว่าเป็นการมอมเมาประชาชน แต่คงไปจัดการอะไรไม่ได้" เจ้าอาวาสวัดสวนแก้วกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศโดยทั่วไปในอาณาจักรหุบผาสวรรค์ 2 นั้น จะมีการแบ่งพื้น ที่ออกเป็นโซนต่างๆ ดังนี้ มีแดน 12 นักษัตร ดินแดนแห่งการตรวจชะตาราศีประจำปีเกิด มีเจ้าแม่กวมอิมหยกขาว ถัดขึ้นไปบนขวามือ เป็นศาลาบรมครู มีพระสยามเทวาธิราช เทพเจ้ากวนอู ประดิษฐานอยู่ตรงประตู ทางเดินขึ้นไปสู่ภายในจะมีพระประธาน พระแก้วมรกต รูปภาพเจ้าแม่กวนอิม พร้อมเหรียญที่ระลึก หนังสือ ลูกปะคำ สร้อยคำ จำหน่าย มีอาหารมังสวิรัติบริการฟรี โดยประชาชนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

นอกจากนี้ อุทยานยังมีจุดขาย เป็นรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมปางต่างๆ ถึง 4 องค์ โดยองค์ที่เป็นจุดดึงดูดความสนใจ คือ เจ้าแม่กวนอิมปางพันมือ ที่ทางอุทยานอ้างว่าใหญ่ที่สุดในโลก ทำจากไม้หอมการบูน นำเข้ามาจากเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน มูลค่ากว่า 4 ล้านบาท และขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างวิหารซึ่งต้องใช้เสาธงทั้งหมด 29 ต้น มีการบริจาคเรี่ยไรเงินซื้อเสาต้นละ 100,000 บาท ส่วนเจ้าแม่กวนอิม 4 ปาง จะมีปางยืนดอกบัว ปางยืนบนเต่า ปลายืนบนปลาตะเพียน ปางยืนบนมังกร รวมทั้งปางยืนบนจานบินที่ประดิษฐานอยู่อีกด้านหนึ่งในอุทยานด้วย